ที่มา ไทยรัฐ
ประเคนข้อหาร้ายแรง เร้าจังหวะลุยปราบหนัก
โดยบรรยากาศเข้าเงื่อนไข ตามคิวที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้รายงานในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย กำลังถูกกดดันและอาจเข้าข่ายแทรกแซงกิจการภายในจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ได้รับการร้องเรียนจากฝ่ายต่างๆในประเทศไทย
ไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้
โดยนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แสดงความประสงค์ที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์ แต่กระทรวงการต่างประเทศได้ตอบปฏิเสธไป
"ยูเอ็น" ป้วนเปี้ยน บรรยากาศจ่อ "สงครามกลางเมือง"
ล่าสุดฉากการปะทะกันระหว่างม็อบเสื้อแดงภายใต้การนำของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช. ที่เคลื่อนขบวนจากเวทีแยกราชประสงค์มุ่งไปที่ตลาดไท ปะทะกับทหารที่ตั้งด่านสกัดที่ย่านดอนเมืองและรังสิต
ตะลุมบอนกันกลางสายฝน
โดยทหารยิงกระสุนยางเข้าใส่ ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า ขณะที่ผู้ชุมนุมก็ตอบโต้ด้วยการยิงบั้งไฟเข้าใส่ทหาร แล้วก็เป็นฝ่ายเสื้อแดงที่โดนตีถอยร่นกระเจิง ขณะที่หัวโจกอย่างนายขวัญชัย หายหัวดื้อๆ
ทิ้งให้ม็อบแตกกระจัดกระจาย ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหลักสี่ ดอนเมือง รังสิต จะระดมออกมาสมทบ
รบแบบมั่วตัวใครตัวมัน โดยไม่มีแกนนำ
ตามสภาพที่น่าคิด ฉากแบบนี้จะเกิดขึ้นทุกหัวระแหง ตามที่แกนนำได้ประกาศให้คนเสื้อแดงคิดเองตามอิสระ หากมีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่เวทีราชประสงค์
แต่ไล่ๆกันเลย ขณะที่สถานการณ์ม็อบแดงจะไหลไปถึงจุด "เลือดล้างแผ่นดิน"
ล่าสุด นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณาคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ เพราะเห็นว่าเข้าองค์ประกอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว
โดยกระบวนการจากนี้เมื่อศาลรับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะทำบันทึกเป็นหนังสือส่งไปยังพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้ถูกร้อง ให้ผู้ถูกร้องได้ใช้สิทธิในการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับหนังสือจากสำนักงานฯ
โดยจังหวะรวดเร็วทันใจ "ท่วงทันสถานการณ์" ปลดล็อกปม "ขึงพืด"
ตามปรากฏการณ์ล้อกับคิวยุบพรรคพลังประชาชน ล้มโต๊ะรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เคลียร์คิวม็อบพันธมิตรฯยึดสนามบิน
คำตอบสุดท้าย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ตามมติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) "ล้างไพ่" รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ สลายเงื่อนไขม็อบเสื้อแดงที่ยึดศูนย์กลางธุรกิจแยกราชประสงค์
เจาะทางออกโดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ
เว้นแต่พรรคประชาธิปัตย์ที่อาจจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่อำนาจในมือของนายกฯอภิสิทธิ์ แต่ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 64 ปี ขณะที่บรรดาแกนนำบิ๊กเนมที่ส่วนใหญ่โดนเหมาเข่งดองเค็มอยู่ในบัญชีคณะกรรมการบริหารพรรค
เว้นวรรคการเมืองยาว 5 ปี
และโดยจังหวะที่ต้องดิ้นรักษาเสถียรภาพกันต่อไป ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต้องหาพรรคใหม่สังกัด ตามโปรแกรมไฟต์บังคับ ฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยยังไม่ยอมให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่เปิดทางให้พรรคเพื่อไทย ลูกข่ายนายใหญ่ กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมอำนาจ
ปล่อยให้เวทีสภาผู้แทนฯที่ยังเหลืออยู่ว่ากันไป
ตามเกมเปิดให้ "มือจัดรัฐบาลอาชีพ" รวบรวมไพร่พลแตกค่ายจากพรรคประชาธิปัตย์ อีกทางหนึ่งก็ล่อ "งูเห่า" จากพรรคเพื่อไทย
รวมตัวเลขจัดรัฐบาลกันใหม่
ลากยาวกันไปในห้วงเทอมสภาฯที่ยังเหลืออีกปีกว่าๆ
ถ้าออกมุกนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงก็น่าจะพอรับได้ เพราะประชาธิปัตย์โดนยุบพรรค มาตรฐานเดียวกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ส่วนฝ่ายล้มโต๊ะอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ประคองจังหวะรักษาเกมอำนาจในมือไว้
ต่างฝ่ายต่างล้า พักหายใจหายคอกันก่อน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
เพื่อไทย
Thursday, April 29, 2010
ทางออกที่ศาล รธน.?
จาก "ผู้ก่อการร้าย" มาเป็น "ขบวนการล้มสถาบัน" ตามฉากที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในฐานะฝ่ายถืออำนาจ ประทับภาพกองทัพคนเสื้อแดง