จากหัวข้อสนทนา ในเว็บไซต์พันทิพ ห้องหว้าก้อ มีการเสนอว่าให้ยุติการใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่ผู้ชุมนุมอีกต่อไป เนื่องจากก่อให้เกิดอันตรายและไม่เป็นวิธีการที่เป็น "สากล"
ที่มา: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 18 เม.ย. 53http://www.bangkokbiznews.com/2010/04/18/news_30712495.php?news_id=30712495 สรุปจาก คุณ 9Seiki คุณJD300 ฯลฯ ในกระดานข่าวพันทิพ ห้องหว้ากอ หัวข้อ "เห็นในโทรทัศน์เหตุการณ์ชุมนุมมีคนยิงปืนขึ้นฟ้า ไม่ทราบว่าอันตรายหรือเปล่ครับ" ตั้งกระทู้เมื่อ 12 เม.ย. 53http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9116538/X9116538.html
แผนที่แสดงระยะกระสุนตก มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สี่แยกคอกวัว วงกลมนอกระยะ 4 กิโลเมตร วงใน 3 กิโลเมตร หมายความว่า ถ้ามีคนเดินแถวปิ่นเกล้า วงเวียนใหญ่ สยาม หัวลำโพง มีโอกาสโดนกระสุนตก ที่มา: โดยคุณ จั๊กกะจี๋ ในกระดานข่าวพันทิพ ห้องหว้ากอhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9116538/X9116538.html
จากที่มีผู้สงสัยได้เห็นภาพการสลายการชุมนุมใน โทรทัศน์ หลายต่อหลายครั้งที่ใช้วิธียิงปืนขึ้นฟ้า แล้วสงสัยว่าเมื่อกระสุนตกลงมาจะเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไปหรือไม่
เราสมมติให้มีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ผู้ ชุมนุม โดยใช้ปืนเล็กยาว M16 และใช้ลูกกระสุนปืนstandard NATO ขนาด 5.56 mm ตามหลักฟิสิกส์ที่เรียนมาตั้งแต่มัธยมปลาย ความเร็วต้นเมื่อกระสุนพุ่งขึ้นไปบนฟ้าจะเท่ากับความเร็วปลายเมื่อกระสุนตก กลับ ลงมาถึงพื้น ดังนั้น จากความเร็วต้นปกติของอาวุธปืน M16 ซึ่งเท่ากับ 930 เมตรต่อวินาที หรือ 3,348 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระสุนควรจะตกลงสู่พื้นที่ความเร็ว 930 เมตรต่อวินาทีเช่นกัน
แต่ในขณะที่ลูกกระสุนปืนถูกยิงขึ้นฟ้าไปแล้ว นั้น จะยังมีแรงภายนอกมากระทำอีก 2 แรง คือ แรงโน้มถ่วงของโลก กับแรงต้านอากาศ ที่จะต้องพิจารณาด้วย โดยนำค่าแรงต้านอากาศ แรงโน้มถ่วง และสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด มาแทนค่าในสมการทั้งหมด (ดูรายละเอียดในเว็บข้างต้น) แล้วจำลองการยิงปืน M16 ขึ้นฟ้าเป็นมุม 30 องศา 45 องศา และ 60 องศา ตามมุมมาตรฐานที่นิยมทดลองกัน และให้ผู้ยิงถือปืนไว้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร
เมื่อคำนวณจากทุกองศาแล้ว พบว่าการเคลื่อนที่ของกระสุนขณะลอยอยู่บนฟ้านั้นใช้เวลาเร็วมากไม่ถึง 1 นาทีก็จะตกถึงพื้น และระยะทางที่กระสุนไปได้ไกลสุดตามระยะราบนั้นไกลถึงกว่า 4 กิโลเมตร นั่นคือความเสี่ยงที่กระสุนจะตกใส่ถ้ายิงจากบริเวณถนนราชดำเนิน จะไปได้ไกลถึงบริเวณโรงเรียนกวดวิชาสงวน ที่ว่าการกรุงเทพฯ วัดสุทัศน์ มนต์นมสด ดิโอลด์สยาม โรงเรียนสวนกุหลาบ ฯลฯ ซึ่งตรงกับการรายงานว่ามีผู้พบกระสุนตกบริเวณสวนรมณีนาถ วัดสุทัศน์ และดิโอลด์สยาม
สำหรับความเร็วของกระสุนที่ตกหลังจากคิดร่วมกับ ค่าแรงภายนอกต่างๆ แล้ว พบว่าค่าความเร็วต่ำสุดของกระสุนที่ตกลงมายังมีค่าสูงถึงประมาณ 100 เมตรต่อวินาที หรือราวๆ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งไม่น่าจะตรงกับที่ทางกองทัพบอกว่ากระสุนตกลงมาโดนหัว จะหัวแตกเหมือนแค่โดนลูกแก้ว
ความจริงแล้ว เคยมีการรายงานถึงอันตรายของกระสุนที่ตกลงมาจากฟ้าและเป็นอันตรายถึงแก่ ชีวิตและทรัพย์สินเสียหายได้ ตามข่าวที่ได้รับฟังหลายครั้ง เช่น ที่จังหวัดเพชรบุรี ที่เคยมีเด็กเสียชีวิตในสระว่ายน้ำเพราะกระสุนตกลงมา และจะเห็นว่าการยิงปืนจริงในพิธีเปิด/ปิดการแข่งขันต่างๆ ก็ได้ถูกระงับไปแล้ว รวมทั้งในต่างประเทศ เช่น อเมริกา เม็กซิโก ก็มีประกาศห้ามไม่ให้ยิงปืนขึ้นฟ้าเวลาฉลองปีใหม่ เพราะเคยมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว
สำหรับมาตรฐานการปราบจลาจลในต่างประเทศนั้น ก็จะไม่เห็นประเทศที่เจริญแล้วประเทศใดใช้วิธีการยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้า แต่นิยมใช้แก๊สน้ำตาเปิดพื้นที่ แล้วใช้ปืนฉีดน้ำความดันสูงยิงจากรถหุ้มเกราะ จากนั้นจึงเข้าจับกุมผู้เข้าชุมนุมโดยเร็วให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
สรุปว่า จึงควรที่จะเรียกร้องให้หยุดใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่ผู้ชุมนุมอีกต่อไป เนื่องจากก่อให้เกิดอันตรายได้และไม่เป็นวิธีการที่เป็น "สากล"