WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, April 27, 2010

บทเรียน การสลาย สภาพ แปรผัน พลิกเปลี่ยน โจทก์ อาจเป็น จำเลย

ที่มา ข่าวสด


เหตุปัจจัยอะไรทำให้ความพยายาม "บังคับ" ใช้กฎหมายของรัฐบาล ของทหาร ของตำรวจและของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ไม่ประสบความสำเร็จ

เห็นได้จากความล้มเหลวในการ "ขอพื้นที่คืน" ในวันที่ 10 เมษายน

เห็นได้จากการที่ "เสื้อแดง" ขอนแก่นปิดล้อมและไม่ยอมให้ทหารเคลื่อนกำลังออกจากสถานีรถไฟได้โดยราบรื่น

จากขอนแก่นแพร่ลามไปยังหนองบัวลำภู แพร่ลามไปยังอุดรธานี

จากขอนแก่นเห็นได้อย่างเด่นชัดยิ่งของการชุมนุมตั้งด่าน ปิดล้อมบนถนนพหลโยธินทั้งคู่ขนานและทางด่วนขาเข้ากทม. บริเวณปากซอยคลองหลวง 26 หลักกิโลเมตรที่ 36

ผลก็คือ ตำรวจจากหลายจังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่สามารถเดินทางเข้ามาปฏิบัติการในกทม.ได้ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

นี่คือรูปธรรมแห่งการไม่สามารถ "บังคับ" ใช้กฎหมายได้ของ "อำนาจรัฐ"



ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาล ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของกองทัพ ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของตำรวจ

ดำเนินไปอย่างไม่สามารถปิดเป็น "ความลับ" เอาไว้ได้

อย่างที่เรียกตามศัพท์ของนปช.แดงทั้งแผ่นดินว่า ในหมู่ทหารก็มี "ทหารแตงโม" ในหมู่ตำรวจก็มี "ตำรวจมะเขือเทศ"

ทุกครั้งที่ตำรวจจะเคลื่อนกำลังนปช.แดงทั้งแผ่นดินก็รู้

ทุกครั้งที่ทหารประชุมวางแผนจะรุกคืบเพื่อนำไปสู่การสลายและขอคืนพื้นที่นปช.แดงทั้งแผ่นดินก็รู้

เมื่อ "ความลับ" ไม่เป็นความลับเสียแล้ว ปฏิบัติการก็ยากจะสำเร็จ

ตรงนี้เองที่ทำให้ความต้องการของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ความต้องการของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เสมอเป็นเพียงความต้องการในลักษณะเงื้อง่าราคาแพง นั่นก็คือ คิดได้แต่ไม่สามารถแปรเป็นการปฏิบัติที่เป็นจริงได้

นับวันความเฉียบขาดของรัฐบาลก็เสมอเป็นเพียงคำขู่อันเลื่อนลอยและว่างเปล่า



เช่นเดียวกับ การดำรงคงอยู่ของการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ ทุกคนล้วนรับรู้ว่ารัฐบาลต้องเข้าจัดการเพื่อสลายการชุมนุมอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าจะเป็นเมื่อใด จะเป็นวันไหนเท่านั้นเอง

ที่ทุกคนรู้ไม่เพียงเพราะว่ารัฐบาลแถลงผ่านศอฉ.ทุกวันว่ากำลังดำเนินมาตรการกดดันทุกวิถีทางเพื่อนำไปสู่การยึดคืนพื้นที่แยกราชประสงค์

หากรู้เพราะว่าไม่มีรัฐบาลใดยินยอมให้สภาพเช่นนี้ดำรงอยู่อย่างยืดเยื้อ

การดำรงอยู่อย่างยืดเยื้ออย่างแรกสุดก็คือสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและธุรกิจอย่างชนิดเป็นลูกระนาด

อย่างต่อมา คือ สร้างความไม่พอใจที่ขยายไปสู่วงกว้างมากเป็นลำดับ

อย่างต่อมา คือ แทนที่รัฐบาลจะเป็นโจทก์ ตรงกันข้าม ยิ่งนานวันโจทก์ก็จะกลายเป็นจำเลย เพราะไม่สามารถจัดการอะไรได้

ในที่สุด ความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อรัฐบาลก็จะเหลือน้อยลง น้อยลง



ปัญหาของรัฐบาลก็คือ จะจัดการสลายการชุมนุมอย่างไรจึงจะไม่เกิดความเสียหายติดตามมา

เพราะบทเรียนมีมาแล้วจากกรณีเดือนตุลาคม 2516 จากกรณีเดือนตุลาคม 2519 จากกรณีเดือนพฤษภาคม 2535 และล่าสุดคือจากกรณีเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

ทันทีที่มีการสลายการชุมนุมเลือดก็จะไหลนองอย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้พ้น