ที่มา ไทยรัฐ เสียงระเบิดชักจะถี่ยิบขึ้นและใกล้จุดอันตรายมากขึ้น จากเบาไปหาหนัก จากมุ่งข่มขู่ก็เป็นการลงมือปฏิบัติโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเมื่อถึงขีดสุดก็จะมีการล็อกเป้าหมายบุคคลสำคัญ มีการลอบสังหารและสร้างความเสียหายที่รุนแรง เช่นเดียวกับสงครามกลางเมืองในหลายๆประเทศ หมัดเหล็ก
คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน
ความพยายามในการสลายการชุมนุมของรัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อไป ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของฝ่ายที่ออกมาต่อต้านการชุมนุม ให้รัฐบาลและกองทัพใช้กำลังเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด ประกอบกับท่าทีของพันธมิตรฯที่เคยยึดทำเนียบ ปิดสนามบินมาแล้วพร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหว เพื่อกดดันรัฐบาลให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ชุมนุม
ส่วนฝ่ายที่ต้องการให้มีการเจรจาระหว่างสองฝ่าย กลายเป็นเสียงข้างน้อยและไม่มีพลังพอ ที่จะกดดันให้มีการเจรจากันโดยสันติวิธี เพราะฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านคนเสื้อแดงครั้งนี้ก็เคยเป็นศัตรูเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด
และต้องถือว่าเป็นข้างเดียวกับรัฐบาล
เพียงแต่เปลี่ยนสีเสื้อและตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาเท่านั้นแต่เจตนารมณ์ยังเหมือนเดิม กลุ่มคนเหล่านี้ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจหรือได้กลับประเทศไทยอย่างเด็ดขาด เพราะรู้ว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาประเทศไทยได้เมื่อไหร่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปทันที
รวมทั้งขั้วอำนาจทางการเมืองด้วย
การกดดันไปยัง ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้ใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมก็ดี หรืออย่างน้อยก็ให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่สบายใจของ ผบ.ทบ. จึงเป็นเรื่องที่คาราคาซังไม่จบ หรือแม้แต่การปิดกั้นสื่อทุกวิถีทางจนตั้งคำถามกันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินกับรัฐธรรมนูญใครใหญ่กว่ากัน
ทำให้การใช้อำนาจรัฐเพื่อที่จะสลายผู้ชุมนุมในขณะนี้ ครึ่งๆกลางๆ แม้มีความพยายามที่จะดำเนินการทางด้านมวลชนและสื่อสารมวลชนทุกกรณีแล้วก็ตาม ดูแล้วไม่ต่างจากการปฏิวัติรัฐประหาร
แต่เป็นการรัฐประหารได้แค่ครึ่งใบ
คำถามก็คือจะจบลงอย่างไร ระหว่างสงครามกลางเมืองกับการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งไม่ว่ากรณีไหน ปัญหาก็ไม่จบลงแน่นอน เมื่อรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก้าวข้ามการแก้ไขปัญหาตามวิถีของประชาธิปไตย ยุบสภาเพื่อไปตัดสินกันในสนามเลือกตั้งแล้ว
ก็ต้องยอมรับความหายนะที่จะตามมา
ประวัติศาสตร์ชาติไทยคงต้องบันทึกไว้อีกหน้าว่า ประเทศ ไทยต้องสูญเสียความเป็นอธิปไตยและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ.