WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, May 1, 2010

ผลงานบิ๊กจิ๋วสุดชัดเจน รักชาติรักสถาบันยิ่งชีพ

ที่มา บางกอกทูเดย์



จะถือว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองสกปรก ผ่านกลไกของ ศอฉ.หรือไม่ วินาทีนี้ เป็นสิ่งที่สังคมไทย โดยเฉพาะสังคมในส่วนที่มองสถานการณ์ทุกด้านด้วยสติ
และให้ความเป็นธรรมล้วนต่างจับจ้องมองกันเป็นอย่างมากสำหรับ กรณี “แผนผังล้มสถาบัน” ของศอฉ.คำถามที่อึงอลไปหมดทั้งสังคมไทยก็คือจริงหรือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะมีส่วนในการล้มสถาบันฯ อย่างที่ ศอฉ.กล่าวหาบรรดาคนที่พยายามกล่าวหา พล.อ.ชวลิตหากไม่ใช่เป็นเพราะเคยชินกับการได้รับตำแหน่งโดยไม่เคยมีผลงานที่ควรค่าแก่การยกย่อง ก็อาจจะลืมไปจริงๆ ว่า พล.อ.ชวลิต

นั้นมีผลงานที่ทำ เพื่อชาติและราชบัลลังก์มาโดยตลอดคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 ซึ่งการเปลี่ยนความคิดทางการเมืองในสังคม จากการปราบปราม มาเป็นการต่อสู้คอมมิวนิสต์เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลต่างๆ ในอดีตมุ่งแต่การปราบปรามเป็นหลัก แต่ก็ไม่เคยได้รับชัยชนะแต่ไม่ใช่วิธีคิดของ พล.อ.ชวลิตผลงานชัดเจนที่สุด คือการมีคำสั่งที่66/2523 ซึ่งมี พล.ต.หาญ ลีนานนท์เจ้ากรมยุทธการทหารบกในขณะนั้น กับพล.ต.ชวลิต ยงใจยุทธ และคณะ เป็นกลไกสำคัญ

ในการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางความคิดครั้งสำคัญยิ่งหยุดการปราบปราม แต่มาใช้การต่อสู้โดยยึดกระบวนการทางความคิดเป็นสำคัญพล.อ.ชวลิต ตลอดมาสะท้อนชัดถึงภาพของการยึดมั่นในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์เป็นอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นและเป็นอุดมคติที่แท้จริง ไม่ใช่การเสแสร้งปั้นแต่งซึ่งการกำเนิดของอาสามัครทหารพรานซึ่ง พล.อ.ประยุทธ จารุมณี ทั้งในฐานะเสนาธิการทหารบก และ ผบ.ทบ.ในขณะนั้นรู้และยอมรับมาตลอดว่าเป็นการริเริ่มจากพล.อ.

ชวลิต ซึ่งถือเป็นกลไกที่สำคัญยิ่งกลไกหนึ่งในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์จนสุดท้ายด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทพยายามทำ ให้สงครามเอาชนะคอมมิวนิสต์ของพล.อ.ชวลิต สามารถยุติลงโดยพื้นฐานนับแต่ปี 2524 เป็นต้นมาทั้งหมดสะท้อนชัดเจนว่า นี่คือการทุ่มเทเพื่อปกป้องประเทศชาติ และราชบัลลังก์อย่างแท้จริงดังนั้นในภายหลังที่ พล.อ.ชวลิต ได้เป็นผบ.ทบ. ได้เป็น ผบ.สส. จึงไร้ซึ่งข้อกังขากล่าวได้ว่าไม่มีการที่จะไม่ยอมรับจากภาคส่วนใดๆ เลยของสังคม

ไทยสำคัญที่สุดคือนอกจากตำแหน่งแล้วต้องไม่ลืมว่าการได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี และเข้าสู่พิธีดื่มนํ้าพระพิพัฒน์สัตยาเป็นเกียรติยศที่ พล.อ.ชวลิต ปลาบปลื้มที่สุดเพราะเป็นเกียรติยศอันสูงยิ่งที่ทหารคนหนึ่งซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณยํ้าอีกครั้งว่า เกียรติยศที่ พล.อ.ชวลิตได้รับ ไม่ใช่สิ่งที่พยายามดิ้นรนแสวงหา หรือไขว่คว้าเหมือนกับคนการเมืองบางคนในขณะนี้แต่เป็นการได้มาในฐานะที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อชาติและราชบัลลังก์ด้วย

ความซื่อสัตย์นั่นเองดังนั้น การที่ ศอฉ.โดย พ.อ.สรรเสริญแก้วกำเนิด ออกมาเผยแผนผังล้มสถาบันโดยที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และผอ.ศอฉ. ออกมาขานรับเป็นปี่เป็นขลุ่ยรวมกระทั่ง นายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองที่ถูกตัดสินให้เว้นวรรคทางการเมือง5 ปี แต่นายอภิสิทธิ์ กลับเอามาใช้งานการเมืองเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณในการได้เป็นนายกรัฐมนตรีจึงทำให้นายเนวิน ในวันนี้สามารถ

ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้ทุกเรื่อง โดยที่คำตัดสินของศาลไม่สามารถจะกันนายเนวินได้ จึงถึงขั้นเหิมเกริมว่า ณ วันนี้คือผู้ยิ่งใหญ่ที่ใครต่อใครหากอยากจะอยู่ในอำนาจการเมือง ก็ต้องเรียกใช้บริการจึงทำให้ออกมากล่าวหา พล.อ.ชวลิตตาม ศอฉ.ตามนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพไปด้วยทั้งๆ ที่หากนายเนวิน ยังมีมโนสำนึกอยู่บ้าง ย่อมควรจะต้องจดจำได้เป็นอย่างดี ว่า พล.อ.ชวลิตเคยช่วย เคยเอื้อเอ็นดู และเคยเป็นฝ่ายให้นายเนวินมามากมายสารพัดเพียงใดสมควรแล้ว

หรือ ที่จะมากล่าวร้ายเช่นนี้ยิ่งหากเปรียบเทียบกันด้วยใจที่เป็นธรรม ต้องถามว่าทั้ง 4 คน ที่กล่าวหา พล.อ.ชวลิตนั้นมีผลงานอะไรที่เป็นเกียรติยศบ้างพ.อ.สรรเสริญแก้วกำเนิด มีผลงานในอาชีพราชการทหารอะไรที่ชัดเจนบ้าง ก่อนที่จะมาเป็นโฆษกมาเป็นกระบอกเสียง แล้วก็มาทำหน้าที่ใน ศอฉ.ครงั้ นี้เคยรู้หรือไม่ว่า เพื่อนร่วมรุ่น หรือแม้กระทั่งรุ่นพี่ รุ่นน้อง หลายคนรู้สึกอย่างไรเช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ที่วันนี้เสียงครหาในเรื่องของการรับราชการทหาร ก็ยังไม่เคยจบ

สิ้น เพราะแม้ว่าอาจจะเป็นการไม่ผิดกฎหมายอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เชื่อมั่นจริงๆแต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีร่องรอยให้มีการตั้งข้อสังเกตได้ว่าไม่สง่างามหลายคนบอกว่า ไอ้เณรทหารเกณฑ์นักศึกษา รด. หรือแม้แต่คนที่ครบเกณฑ์ แล้วใช้การจับใบดำ-ใบแดงตรงๆไปเลย ยังมีความสง่างามและชัดเจนในขณะที่บนเส้นทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งแม้จะถือว่าเป็นเด็กสร้างประชาธิปัตย์ ที่บรรดาอดีตผู้ใหญ่หลายคนภายในพรรคเคยภูมิอกภูมิใจ แต่มาในวันนี้นายอภิสิทธิ์ คงรู้ได้ด้วย

ตัวเองว่า ท่าทีและความรู้สึกของบรรดาผู้ใหญ่ภายในพรรคเปลี่ยนไปหรือไม่สายตาที่เคยเอื้อเอ็นดู แปรเปลี่ยนไปหรือไม่... เป็นสิ่งที่อยากให้นายอภิสิทธิ์กลับไปคิดให้จงหนักส่วนนายสุเทพ คงต้องให้คนในแวดวงการเมืองร่วมสมัยนั่นแหละ ที่เป็นคนพูดว่า อะไรคือผลงานที่น่าภาคภูมิใจของนายสุเทพบ้างอะไรคือผลงานที่กระทำเพื่อชาติและราชบัลลังก์บ้างแล้วไฉนวันนี้จึงจะมาเอ่ยอ้าง ผูกขาดความจงรักภักดีต่อสถาบัน จนไปกล่าวหาพล.อ.ชวลิตส่วนนายเนวิน ไม่ต้องพูด

ถึง ยังจำภาพในอดีตที่สะพายย่ามเดินตามหลังพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอโอกาสทางการเมืองได้หรือไม่ยังจำภาพของตนเองที่ทรุดตัวลงกอดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือไม่รู้หรือไม่ว่าสังคม จินตนาการ ชื่อตัดมาสั้นๆ ของนายเนวิน ที่ว่า “เน” นั้น ไปไกลถึงคำว่าอะไรแล้วการที่ออกมากล่าวหา พล.อ.ชวลิต เพื่อหวังจะสร้างภาพทางการเมืองนั้น คิดหรือว่าจะดูดีขึ้นมาได้โดยเฉพาะมุกที่พยายามอ้างความจงรักภักดี ผูกขาดการเทิดทูนสถาบัน รวมไปถึงการที่ทำเป็นนํ้าหู

นํ้าตาไหลนั้น... เชื่อมั่นจริงๆ หรือว่า คนไทยจะไม่รู้ทันเข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่???... อยากให้นายเนวินถามตัวเองให้ชัดๆเพราะ ณ วันนี้ พล.อ.ชวลิต คนที่ถูกกล่าวหา สามารถที่จะเดินไปไหนมาไหนก็ได้ โดยไม่ต้องหวาดระแวง ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาจ้องปองร้ายแต่ถามว่า นายเนวิน กล้าหรือไม่ที่จะออกจากที่ซ่องสุมแล้วมาเดินถนนอย่างเปิดเผย โดยไม่มีการ์ดห้อมล้อมเกือบ 20 คนถ้าไม่กล้า นั่นก็คือคำตอบที่ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือว่า นายเนวินสร้างผลงานอะไรเอา

ไว้เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพซึ่งยืนยันมาตลอดว่ามาตามกฎหมายมาตามรัฐธรรมนูญปี 50 และทำหน้าที่อย่างถูกต้องมาตลอดถามว่าทำไมวันนี้จึงต้องหมกตัวอยู่ในราบ 11 แม้แต่บ้านช่องก็ยังไม่ได้กลับ...กลัวอะไรหรือศอฉ.ทั้งหลายเคยฉุกใจคิดหรือไม่ว่าทำไม พล.อ.ชวลิต จึงบริสุทธิ์ใจพอที่จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้แม้แต่ราบ 11 ก็ยังกล้าไป... เพื่อเข้าไปพบทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพวันนี้อยากให้ ผู้กุมอำนาจและกลไกศอฉ. หันมาทบทวนว่า สิ่งที่ทำลง

ไปนั้นเป็นเพราะเมาหมัด หรือจนแต้ม จนนึกไม่รอบคอบไม่รอบด้าน จึงทำสิ่งผิดพลาดลงไปด้วยการกล่าวหา พล.อ.ชวลิตหากเพราะเมาหมัด หรือเพราะหลงเชื่อคำยุยงของนายเนวินแล้ว คิดเสียใหม่เถิด...บ้านเมืองในวันนี้ ควรที่หยุดเกมใส่ร้ายหยุดเกมการเมืองสกปรก ภายใต้บริการของคนๆ นั้นหรือยัง แล้วกลับลำมาเจรจาอย่างสันติ เลิกทิฐิทำเพื่อประเทศชาติสักครั้งไม่ดีกว่าหรือ???