WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, May 1, 2010

ทางออก คือ ‘ยุบสภา’

ที่มา บางกอกทูเดย์



นายกฯ อภิสิทธิ์ จะประคองตัวเด้งเชือกไปได้อีกกี่ยก...กับแรงกดดันของคนเสื้อแดงที่มีพลพรรคฝ่ายค้านเป็นแนวร่วมอย่างสอดคล้องต้องกัน ซึ่งตั้งประเด็นการขับไล่นายกฯ อภิสิทธิ์ว่า...มีที่มาไม่ชอบตามระบอบประชาธิปไตยเถียงอย่างไร...ยกเหตุผลต่างๆ มาแก้ข้อกล่าวหา...ก็ไม่ทำให้คนเสื้อแดงหายคลางแคลง

ใจลงไปได้ มิหนำซ้ำยังชวนทะเลาะแบบยืดเยื้อ...โดยนำกลุ่มคนมาปักหลักชุมนุมกลางเมืองมหานครของไทย การชุมนุมเรียกร้องนั้นตั้งไว้ประเด็นเดียวว่า ขอให้มีการยุบสภา แล้วคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่า...เสียงส่วนใหญ่จะเลือกใคร? ระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านแกนนำคนเสื้อแดงรับรองไว้ว่า...ถ้ายุบสภาแล้วผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรก็จะยอมรับไปตามนั้น “แพ้เป็นแพ้” จะไม่มาก่อหวอดรบกวนการทำงานของรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งอีกต่อ

ไปแต่ถ้าคนส่วนใหญ่เลือก “พรรคฝ่ายค้าน” ก็ขอให้ยอมรับด้วยเช่นกัน...อย่ามากล่าวหาว่า ชนะเพราะการซื้อเสียง ชนะเพราะคนต่างจังหวัดเห็นแก่เงิน...ไม่เข้าใจประชาธิปไตย...เป็นคนชนบทก็แล้วกันเปิดเกมให้แบบนี้ นายกฯ อภิสิทธิ์ ก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมรับ...ทั้งที่ฝ่ายรัฐบาลเองก็เคยประเมินไว้แล้วว่า...คะแนนนิยมของพรรครัฐบาลกำลังดีวันดีคืน แต่กลับขออยู่ต่ออีกสัก 9 เดือนจึงจะยุบสภา!ตรรกะและเหตุผลดูจะไม่สอดคล้องต้องกัน...ถ้าพิจารณากับสถานการณ์ที่

นายกฯ อภิสิทธิ์ กำลังประสบอยู่ ทั้งด้านที่เป็นบวก และด้านที่เป็นลบด้านบวก ก็คือ คนบางส่วนกำลังเห็นใจรัฐบาล และอยากให้กำลังใจด้วยการออกมาสนับสนุนให้บริหารบ้านเมืองต่อไป และไม่เห็นด้วยที่นายกฯ อภิสิทธิ์ จะยุบสภา ผู้ที่ออกมาสนับสนุนมีตั้งแต่คนเสื้อชมพู...ต่อมาก็เป็นคนเสื้อหลากสีที่ออกมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียงตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่า...มีคนอีกมากที่ยังรักและชอบนายอภิสิทธิ์คนที่รักนายกฯ ได้รวมตัวกันนับได้หลายแสนคนหรือ

อาจจะถึงล้านคนด้วยซ้ำ...ตามที่ได้กล่าวกันออกมา ทั้งชมรมคนเล่นเฟซบุ๊ค...คนที่พร้อมใจกันออกมาแสดงพลังในช่วงเวลาที่นัดหมายกันอีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนชาวพันธมิตรฯ ที่แสดงท่าทีออกมาสนับสนุนอีกก็มากมาย ถ้านับรวมทั่วประเทศคงหลายแสนคนหลายล้านคน...เป็นพลังมวลชนที่ทำให้นายกฯอภิสิทธิ์น่าจะได้เปรียบถ้ามีการยุบสภาแต่เหรียญย่อมมีสองด้าน...เมื่อมองเห็นด้านบวกแล้ว ก็มิอาจมองข้ามด้านลบไปได้ ด้านลบของรัฐบาลก็มีอยู่

เช่นกัน...โดยเฉพาะผลจากการขอพื้นที่บริเวณแยกผ่านฟ้าคืนจาก “คนเสื้อแดง” ที่เลยเถิดเกินไปจนมีคนตายหลายสิบและคนเจ็บเกือบพันการเข้าสลายการชุมนุมเมื่อ 10 เมษา 53 โดยอ้างว่าขอพื้นที่คืนนั้น...ดูจะรุนแรงเกินกว่าเหตุอย่างมาก เพราะมีการทิ้งระเบิดแก๊สน้ำตาจากที่สูง...มีการใช้รถยานเกราะสายพาน และมีการใช้อาวุธจริงทั้งปืนและระเบิด ผสมโรงเข้ามาด้วยจะอ้างเหตุผลอย่างไรก็แล้วแต่...นั่นเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่า...เป็นการแก้ตัวเพื่อให้พ้นจากความรับ

ผิดชอบ แต่ผลที่ปรากฏ...เลือดก็นองท้องถนนบริเวณราชดำเนินไปแล้ว ซึ่งผู้นำคนใดก็มิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบทางการเมืองไปได้แต่สำหรับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่มีกลุ่มคนอีกไม่น้อย...ยอมรับความบาดเจ็บล้มตายของคนหลายสิบหลายร้อยได้ ...เพียงเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯต่อไป คำว่า “ผู้ก่อการร้าย” จึงอุบัติขึ้นหลังจากที่มีคนตายเมื่อ 10 เมษาถึงแม้จะเป็นด้านลบ...แต่ภาพพจน์ก็กำลังจะได้รับการชะล้างสะสางให้ภาพของมือที่เปื้อนเลือดกลับมา

ขาวสะอาดด้วยการป้ายความผิดไปเป็นของผู้ก่อการร้ายที่ทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ต้องล้มตายกันอย่างมากมายด้านลบที่เกิดตามมาอีกอย่างหนึ่ง...ก็เป็นกรณีที่ กกต. มีมติให้ “ยุบพรรค” ประชาธิปัตย์ด้วยข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับเงินจำนวน 258 ล้านบาท และเงิน 29 ล้านบาทซึ่งดูแล้วก็คงจะมีเวลาในการต่อสู้คดีได้อีกสองถึงสามเดือนแต่ด้านลบที่สำคัญที่สุด ก็คือ การไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับคนเสื้อแดงได้อย่างเต็มที่ ทำให้การชุมนุมยังคงมีต่อไป ซึ่งสร้าง

ปัญหาให้กับรัฐบาลอย่างมาก...จนต้องไปอาศัยความคุ้มครองจากทหารในราบ 11 และยังมีแรงสนับสนุนแบบกดดันจากคนที่เชียร์รัฐบาล...ที่ดูไปเหมือนจะหวังดีแต่ผลที่ออกมาจะทำให้รัฐบาลลำบากมากขึ้นก็เป็นได้เพราะการที่หลายฝ่ายต้องการให้รัฐบาลบริหารงานต่อไปภายใต้สภาวการณ์ที่ต้องใช้กำลังทหารและตำรวจคุมกันอยู่ตลอดเวลา และต้องรอเวลาการพิจารณาในเรื่องที่จะถูกยุบพรรคด้วยนั้นไม่น่าจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลมากนัก ถ้าจะเปรียบเทียบกับข้อเสนอ

ที่คนเสื้อแดงเสนอให้รัฐบาลยุบสภาภายใน 3 เดือน เนื่องจากระยะเวลาดังกล่าวฝ่ายคนเสื้อแดงเสนอมาเอง และถ้ารัฐบาลรับเงื่อนไขก็อาจจะทำการถ่ายเลือดได้ทันถ่ายเลือดคนในพรรคประชาธิปัตย์ผ่านการเลือกตั้งครั้งใหม่...ในขณะที่ยังเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ดูจะมีผลดีมากกว่าการปล่อยให้ไปเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจจะโดนยุบพรรคก่อน ซึ่งถ้าโดนยุบพรรคจริง...พรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบทันทีระยะเวลา 3 เดือนแม้จะสั้น...แต่ก็อยู่ในช่วงที่มีข้อได้เปรียบอยู่ โดยเฉพาะ

กระแสความนิยมนายกฯอภิสิทธิ์ จากกลุ่มคนเสื้อหลากสี คนพันธมิตรฯ คนในเฟซบุ๊ค ซึ่งรวมๆ แล้วก็น่าจะมีหลายล้านคนและที่สำคัญ...ถ้าในยามที่น้ำกำลังขึ้น และผลการเลือกตั้งออกมา ฝ่ายรัฐบาลได้เสียงข้างมาก เวลาในการบริหารประเทศที่เคยรับปากไปแล้วว่าจะยุบสภาภายใน 9 เดือน...ก็จะขยายได้เต็มที่ถึง 4 ปี มีเวลาที่จะบริหารประเทศอย่างชอบธรรม และจะทำให้คนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยต้องรอไปอีกนาน พิจารณาอย่างนี้แล้ว การยุบสภาภายใน 3

เดือนน่าจะ win win มากกว่าหลังจากนั้น...ถ้าเกิดพรรคต้องโดนยุบไปจริงๆ ก็จะยังมีคนที่เป็นเลือดใหม่ทำงานต่อไปได้ ส่วนผู้บริหารพรรคที่โดนตัดสิทธิทางการเมืองก็ช่วยงานพรรคได้ต่อไป เพราะไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้การเดินหมากแบบใช้ข้อเสนอของคนเสื้อแดงมาสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ น่าจะเป็นแนวทางออกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย และจะเป็นการเอาชนะโดยไม่ต้องรบกับใคร และจะไม่มีใครเสียเลือดเสียเนื้อตามมาอีก ทางออก

คือ “ยุบสภา” ภายในกำหนดที่คนเสื้อแดงเสนอ...หาใช่การสูญเสียหรือพ่ายแพ้แต่อย่างใด มีแต่จะได้เปรียบในระยะเวลาที่จะได้มาถึง 4 ปี...และไม่ต้องรอความเสี่ยงเรื่องยุบพรรคที่จะเกิดขึ้นจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอีกด้วยบทความวันนี้จะโดนใจนายกฯ อภิสิทธิ์หรือไม่...ก็โปรดได้พิจารณาดู และกลุ่มคนที่สนับสนุนให้สู้กันแบบจะเอาชนะด้วยกำลัง...โดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่จะตามมานั้น...ควรจะพินิจพิจารณาด้วย ก็คงจะดีนะครับ!

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ