ที่มา Voice TV
สดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งจนครบวาร 7 ปี แต่มีความคิดจะลาออกเนื่องจากปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ในกรณีที่กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับ เสร็จทันก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา ปัญหาเรื่องการออกประกาศของ กกต. เรื่องการเลือกตั้ง สส. และสว. อาจทำให้ กกต.ชุดที่ 3 มีชะตากรรมซ้ำรอย กกต.ชุดที่ 2 ของพลตำรวจเอกวาสนา เพิ่มลาภ ที่ถูกตัดสินจำคุก และปรับเรียกค่าเสียหายจากการทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
คุณสดศรี ยอมรับว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เพราะเป็นการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาล หากไม่มีพรรคใดได้ชัยชนะเด็ดขาดจะมีการฟ้องร้องกันมากมาย หากประกาศของ กกต.ที่ออกมาไม่มีกฎหมายรองรับ จะเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองได้
แต่ กกต.เตรียมหาทางออกไว้กรณี กฎหมายลูก 3 ฉบับ เสร็จไม่ทันการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรี คือ การใช้ช่องทาง มาตรา 141 ออกประกาศ กกต. มีเนื้อหาครอบคลุมกฎหมายลูก 3 ฉบับ เพราะมีการเขียนรับรองว่า ประกาศของกกต. มีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่ากับ พระราชบัญญัติ จากนั้นจะเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
คุณสดศรียังบอกเล่าเส้นทางการเข้ามารับตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง ว่าผ่านการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ในช่วงที่มีการยุบสภาปี 2549 และได้รับแต่งตั้งก่อนการรัฐประหารกันยายน 2549 แต่จากนั้นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ก็มิได้ยกเลิกและให้ กกต.ทั้ง 5 คนดูแลการเลือกตั้งท้องถิ่น ต่อเนื่องมาจนถึงการเลือกตั้งในระดับชาติในปัจจุบัน
คุณสดศรี เคยเปรียบเทียบว่า ชีวิตการเป็น กกต. เป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต นับตั้งแต่ก้าวออกจากเส้นทางการเป็นผู้พิพากษา เธอยังไม่รู้ว่าจุดจบของชีวิตจะเป็นอย่างไร จะ Happy Ending หรือ ตายตอนจบ ?