ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
มีหนังสือสองเล่มกำลังเป็นปัญหาในสังคมไทยเวลานี้
เล่มแรก "ประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครเผาอีก" ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง
เนื้อหาถอดมาจากปากคำของนายสุเทพ ที่ชี้แจงตอบข้ออภิปรายของพรรคฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา
ที่ว่ากำลังเป็นปัญหานั้น เพราะดูแล้วเนื้อหาในหนัง สือน่าจะเป็นการเติมไฟความขัดแย้งให้กับสังคม มากกว่าจะสร้างความปรองดอง
ทั้งๆ ที่นายสุเทพเอง ปากก็พร่ำบอกไม่ให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายแตกแยกภายในบ้านเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่ครบรอบปีเหตุการณ์นองเลือด 10 เมษายน
เพื่อให้การเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย
แถมยังพูดดักไว้ด้วยว่าหากแกนนำคนเสื้อแดงทำหนังสือออกมาหักล้างตอบโต้ (นายจตุพร พรหมพันธุ์ บอกแล้วว่าจะทำออกมาแน่ๆ) ถ้าใช้ข้อมูลหลักฐานเท็จก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยไม่ได้ฉุกคิดว่าหนังสือที่ตนเองทำออกมาขายและแจกจ่าย อาจไม่ต่างจากโชว์พิเศษที่ใส่ไว้ในเทียบเชิญ ดึงดูดให้คนเสื้อแดงออกมาแสดงพลังต่อต้านมากขึ้น
เช่นเดียวกับหนังสือตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่บรรจุข้อ ความกล่าวหาคนเสื้อแดงเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง
แม้ทางกระทรวงศึกษาธิการจะปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น โดยโยนให้เป็นเรื่องของแต่ละโรงเรียนที่สามารถจัดหาแบบเรียนเสริมการเรียนรู้มาสอนเด็กนักเรียนเองได้
แต่อย่าลืมว่าเรื่องใครเผาบ้านเผาเมืองในปี 2553 นั้นเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ยังคลุมเครือไม่ได้ข้อยุติ
การนำข้อมูลครึ่งๆ กลางๆ ที่แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนยังสับสน ไปปลูกฝังใส่ในหัวสมองของเด็ก เป็นเรื่องที่คนเป็นครูบาอาจารย์ไม่ควรทำ กระทรวงต้องควบคุมดูแล
ไม่แน่ใจว่าหนังสือทั้งสองเล่มจะมีส่วนช่วยให้กระแสประชาธิปัตย์ที่อยู่ในช่วง "ขาลง" โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ดีขึ้น หรือยิ่งทรุดต่ำ
แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่นักการเมืองภาคใต้ อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการจะต้องใส่ใจ
อย่างนั้นหรือเปล่า?