ที่มา ประชาไท
วันที่ 27 มีนาคม 2554 ผมได้ไปเข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มแดงสยาม และกลุ่ม 24 มิถุนาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นเวทีโดยในมือถือรูปลูกชาย คือ เทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทน์ ที่เสียชีวิตที่บริเวณคอกวัวในวันที่สิบเมษาปีที่แล้ว ทั้งคู่ประกาศบนเวทีว่าวันเสาร์ที่สองเมษายนนี้ เขาจะเคลื่อนย้ายโลงศพจากวัดพลับพลาไชยมาที่สี่แยกคอกวัวเพื่อทำพิธี หลังจากนั้นจะแห่โลงศพไปยังซอยสุขุมวิท 31 ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (กิจกรรมส่วนนี้ถูกยกเลิกในภายหลัง) และหลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปยังวัดสีกัน ดอนเมือง เพื่อทำพิธีในงานศพในวันถัดมา โดยในตอนแรกผมวางแผนว่าจะไปเวทีที่อุดรธานีในวันที่ 1 เมษายน แต่สุดท้ายผมตัดสินใจว่าจะไปหลังจากที่พิธีที่คอกวัวเสร็จสิ้น
ในวันที่ 1 เมษายน เช้าวันเสาร์ ผมไปวัดพลับพลาชัยซึ่งคนเสื้อแดงจำนวนมากได้ไปรวมตัวกันอยู่แล้ว พ่อแม่ของเทิดศักดิ์ได้ขอบคุณเจ้าอาวาสที่ได้ให้ศพลูกชายใช้โลงเย็นโดยไม่คิดเงิน และหลังจากนั้นขบวนรถยนต์เสื้อแดงก็ไปต่อยังที่สี่แยกคอกวัว
ณ จุดที่เทิดศักดิ์เสียชีวิต ได้มีการทำพิธีจุดธูปเทียนและวางอาหาร เพื่อเชิญวิญญาณได้เดินทางไปที่งานศพ มีการปราศรัยเสียงดังออกสู่ลำโพงขนาดใหญ่ ชินวัตร หาบุญพาด เจ้าของวิทยุแท็กซี่ที่เพิ่งกลับมาจากการลี้ภัยต่างประเทศได้เข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน อีกซักพักขบวนเสื้อแดงก็เคลื่อนไปต่อ ส่วนผมก็กลับบ้านและไปยังสนามบินเพื่อที่จะขึ้นเครื่องไปอุดรธานี
ผมมาถึงอุดรเมื่อเวลาก่อนอาทิตย์จะตกพอดี ถนนทางเข้าแน่นขนัดไปด้วยขบวนรถยนต์ของเสื้อแดง กลุ่มคนรักอุดรพร้อมด้วยแกนนำ ขวัญชัย ไพรพนาจัดงานครบรอบห้าปีของสถานีวิทยุชุมชนของพวกเขา ครั้งที่แล้วที่ผมมาที่นี่ สถานีวิทยุยังอยู่ในตึกเช่าบนที่ดินเช่าผืนเล็กๆ แต่ตั้งแต่ปี 2552 พวกเขาก็ได้รวมเงินกันซื้อที่ดินของตัวเอง รวมทั้งสร้างตึกขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นสถานีวิทยุ จนถึงตอนนี้พวกเขาเป็นเจ้าของที่ดินขนาด 18 ไร่ในชานเมืองจังหวัดอุดร พร้อมทั้งตึกสองชั้น และยังมีหนี้จำนวนห้าล้านบาทที่ยังต้องจ่าย จุดประสงค์หนึ่งของการชุมนุมครั้งนี้ก็เพื่อช่วยในการระดมทุนด้วย ชั้นล่างของสถานีวิทยุเต็มไปด้วยคนจำนวนมาก ผมกะประมาณอย่างน้อยๆว่ามีเสื้อแดงราว 60,000-80,000 คนที่อยู่ที่ชุมนุม นับได้ว่าเป็นจำนวนมากที่สุดของการชุมนุมตั้งแต่การประท้วงที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ปีที่แล้ว บริเวณทางเข้ามีกล่องบริจาคกล่องใหญ่วางอยู่ ส่วนใหญ่คนก็ใส่แบงค์ร้อยและแบงค์ยี่สิบ (หลังจากนับเงินในวันรุ่งขึ้นปรากฏว่ากลุ่มคนรักอุดรได้ยอดบริจาค 1,180,000 บาทจากกล่องบริจาคนั้น ส่วนค่าเวทีและค่าอื่นๆได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนรายอื่นต่างหาก) บนเวทีมีกลุ่มนักเต้นในชุดดั้งเดิมกำลังแสดงอยู่ ผมปีนขึ้นไปบนลำโพงเพื่อเก็บภาพของกลุ่มผู้ชุมนุม
แกนนำเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้ปรากฏในงานนี้ด้วย สส.พรรคเพื่อไทยพร้อมกับอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็ด้วย อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรก็ยังติดต่อมาผ่านทางวีดีโอลิงค์ ผมเดินรอบๆที่ชุมนุม และปีนเพื่อไปเก็บภาพบนเวทีเพื่อเก็บภาพของกลุ่มผู้ชุมนุม
เบื้องหลังตึกใหม่ของสถานีวิทยุที่สาดสองแสงสว่าง มีสต๊าฟของกลุ่มคนรักอุดรจัดแจงขาย “วิทยุสีแดง”ราคา 340 บาท และโทรศัพท์มือถือสีแดงในราคา 990 บาท
ภาพสุดท้ายที่ผมถ่ายในคืนนั้น คือภาพของขวัญชัย ไพรพนาที่กำลังได้รับการนวดศีรษะ ผมออกจากที่นั่นราวหลังเที่ยงคืนนิดหน่อยเพื่อกลับไปพักผ่อนราวสองถึงสามชั่วโมง ก่อนที่จะต้องไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับมายังกรุงเทพ เพื่อให้ทันเวลาการสวดฌาปนกิจศพของเทิดศักดิ์
การชุมนุมที่อุดรนี้ ผมสังเกตว่าไม่มีนักข่าวจากสำนักอื่นๆนอกจากนักข่าวของสื่อเสื้อแดงไปทำข่าวเลย ไม่มีการรายงานทางทีวี ไม่มีการรายงานข่าวนี้ในหนังสือพิมพ์ไหนๆเลยที่ผมรู้จัก ผมสงสัยว่าจะเป็นไปได้ยังไงที่การชุมนุมขนาดใหญ่ระดับนั้นไม่มีการพูดถึงโดยสื่อไทยเลยแม้แต่น้อย ผมเข้าใจอยู่ว่าทุกเวทีของเสื้อแดงนั้นคงไม่สามารถถูกทำเป็นข่าวทั้งหมดได้ (เวทีแดงสยามนั้นไม่มีข่าวเลยเนื่องด้วยประเด็นที่อ่อนไหว) แต่การชุมนุมเสื้อแดงที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่การชุมนุมปีที่แล้วเช่นครั้งนี้ ไม่สำคัญพอที่จะถูกรายงานเลยหรืออย่างไร?
วันต่อมา ในวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2554 ผมไปที่วัดสีกันที่ดอนเมือง คนเสื้อแดงจำนวนหลายพันคนได้มาที่งานศพแล้ว แกนนำเสื้อแดงหลายคนได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมงานศพนี้ เช่นเดียวกับวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ซึ่งเงื่อนไขของการประกันที่ไม่ให้เข้าร่วมการชุมนุมเกินกว่า 5 คน ไม่ให้ออกนอกกรุงเทพฯ และไม่ให้พูดกับผู้สื่อข่าว ถูกยกเลิกหนึ่งวันก่อนคอนเสิร์ตที่โบนันซ่า เขาใหญ่พอดี วันั้นเป็นวันแรกที่เขาได้ขึ้นเวทีหลังจากการชุมนุมที่ราชประสงค์
อาจมีสถานการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้ เนื่องจากตึกที่ถัดไปจากงานศพ มีทหารกำลังดำเนินการตรวจสุขภาพและมีการจับใบดำใบแดงสำหรับการเกณฑ์ทหาร แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่นานหลังจากที่แขกวีไอพีได้มาถึง รวมถึงสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง อภิวันท์ วิริยะชัย และสส.เพื่อไทยเขตดอนเมือง การุน โหสกุล รวมถึงแกนนำเสื้อแดงสำคัญคนอื่นๆ พิธีการสวดฌาปนกิจศพก็ได้เริ่มขึ้น โลงศพถูกแห่ไปรอบเมรุสามรอบ มีการยกหีบศพขึ้นบันไดหน้าเมรุ และตั้งบนเชิงตะกอน เหล่าแขกวีไอพีได้ทอดผ้าไตรแด่พระภิกษุ แกนนำเสื้อแดงกล่าวคำไว้อาลัย (ณัฐวุฒิพูดถึง “ตาสว่าง”) สมชาย วงศ์สวัสดิ์ได้จุดไฟที่ตะเกียง
คนส่วนใหญ่ก็เริ่มกลับตั้งแต่ตอนนั้น และช่วงเวลาของงานศพสำหรับคนใกล้ชิดก็ได้เริ่มขึ้น บิดาและมารดาได้ตัดสินใจกล่าวลาลูกชายในหีบศพที่เปิดอยู่ หลังจากนั้นโลงศพก็ยกไปวางในเมรุ บิดาและมารดาของเทิดศักดิ์และน้องชายที่บวชได้กล่าวลาเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนกลุ่มเพื่อนสนิทของเทิดศักดิ์ก็ได้ถ่ายรูปหมู่กับพ่อแม่ของเขาไว้