ที่มา มติชน
ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 9 เมษายน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดกิจกรรมการเปิดโรงเรียนผู้ปฏิบัติงานระดับกรรมการจังหวัดทั่วประเทศของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน วันที่ 9-10 เมษายนนี้ โดยนายนิสิต สินธุไพร ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้กล่าวเปิดงาน ว่า กว่า 1 ปีที่ นปช.ได้ปฏิบัติการอย่างห้าวหาญ บางคนต้องหลบหนีไปชายแดน หรือออกนอกประเทศ บางคนก็ถูกจับกุมติดคุก หรือถูกฆ่า ซึ่งสถานการณ์การเมืองทำให้ต้องมีการเปิดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออบรมแนวทางและยกระดับการต่อสู้ วางยุทธศาสตร์ของ นปช. โดยมีเป้าหมายการปฏิบัติงานตามแนวทางแดงทั้งแผ่นดินเพื่อให้ประชาชนเข้มแข็ง ดังนั้น ความสำคัญการวางโครงสร้างองค์กรระดับภาค จังหวัด อำเภอ และตำบล ของ นปช.จะทำให้องค์กรเข้มแข็งและสมบูรณ์เพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย
นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. กล่าวบรรยายยุทธศาสตร์โครงสร้าง นปช. ว่า วัตถุประสงค์ของการเปิดโรงเรียนเพื่อการกำหนดยุทธศาสตร์ของ นปช. เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรให้เกิดความเข้มแข็งและกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวที่เข้มแข็งของประชาชนไปสู่ประชาธิปไตย ดังนั้น แกนนำระดับภาค ระดับจังหวัด ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านยุทธศาสตร์เพื่อนำไปถ่ายทอดสู่ประชาชนในท้องถิ่น โครงสร้างใหม่ของ นปช.แม้ในอนาคตหากแกนนำไม่อยู่ก็สามารถนำคนอื่นๆ มาเป็นผู้แทนได้ สำหรับยุทธวิธี นปช.จะดำเนินการตามแนวทางสันติวิธี เพราะเราต้องการชนะใจคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างน้อยผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 40 ล้านคน เราต้องทำให้เสียงมาเป็นฝ่ายเราอย่างน้อย 30 ล้านจะทำให้ระบบอำมาตย์พังทลายไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเปิดโรงเรียน นปช.เป็นไปด้วยความคึกคัก มีคนเสื้อแดงระดับแกนนำระดับภาค ระดับจังหวัดทั่วประเทศ และคนเสื้อแดงที่สนใจเข้าร่วมอบรมกว่า 2 พันคนจนเต็มห้องประชุมชั้น 6 อิมพีเรียล สำหรับจุดลงทะเบียนหน้าทางเข้างานได้แจกคู่มือเอกสารประกอบการบรรยาย ต่อผู้เข้าร่วมอบรม โดยเนื้อหาด้านในมีแผนภูมิโครงสร้าง นปช.ระดับสากล ระดับโครงสร้างกรรมการทั่วประเทศ และกรรมการระดับจังหวัด นอกจากนี้ยังได้กำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีแนวทาง และจุดยืนที่ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม โดยมีเป้าหมายได้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อำนาจอธิปไตยเป็นของชาวไทยอย่างแท้จริง รวมถึงการเรียกร้องความยุติธรรม หนทางการต่อสู้ต้องสอดคล้องความจริงของประชาชน ยึดการต่อสู้ไม่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธ แต่ใช้เวทีการต่อสู้วิถีทางตามรัฐสภาและท้องถนน โดยมีหลักคิดชัดเจน มีวิสัยทัศน์โดยไม่ลอกเลียนแบบ และการนำของบุคคลหรือนโยบายถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ