ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
7 เมษายน 2554
มติชนออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ จ.กาฬสินธุ์ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (2) 4 ภาค จากพื้นที่ จ.สกลนคร กาฬสินธุ์ และ นครพนม กว่า 500 คน นำโดยนายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำ เดินทางมาชุมนุมปิดถนนบริเวณสี่แยกอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อประท้วงและปราศรัยโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากไม่พอใจกรณีไม่จ่ายเงินชดเชยค่าประกอบอาชีพให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ที่ตกค้างใน จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร ยโสธร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู และ มุกดาหาร หลังผ่านการพิจารณาคัดกรองไปแล้ว ส่งผลให้การจราจรติดขัด
ในระหว่างนั้นนายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ขับรถยนต์ประจำตำแหน่งมาตามเส้นทางดังกล่าว แต่ไม่สามารถผ่านทางได้ จึงบีบแตรและขับฝ่าด่านผู้ชุมนุมเข้ามา พร้อมตะโกนต่อว่า และลงไปไล่ชกต่อยผู้ชุมนุม ทำให้เกิดการชุลมุนท่ามกลางการตกตะลึงของชาวบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ พยายามแยกตัวนายรักษ์ออกมา ขณะที่แกนนำ ผรท.ได้ประกาศยุติการชุมนุมทันที เพราะเกรงจะเกิดเหตุร้าย พร้อมนัดชุมนุมประท้วงปิดถนนอีกครั้งในวันที่ 11 เมษายนต่อเนื่องไปจนกว่ากลุ่ม ผรท. 3,000 คน จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล
นายรักษ์ ลี้ทรงศักดิ์ นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ออกมายอมรับ เหตุกระชากคอเสื้อ แกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ขณะที่รวมตัวปิดถนน บริเวณสี่แยกอำเภอสมเด็จ เพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรี เหตุไม่พิจารณาเงินชดเชย
โดยนายอำเภอสมเด็จ เผยว่า ตนได้ก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ยกเท้าพยายามจะถีบ หรือทำร้ายผู้ชุมนุม เหตุเกิดขึ้นขณะตนขับรถไปถึงสี่แยก และขอทางเพื่อจะขอไปจอดรถอีกฝั่งหนึ่งของทางแยก ซึ่งกำลังรีบไปประชุมกำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน แต่กลุ่มม็อบไม่ยอมให้ผ่าน เลยลงจากรถไปเจรจา และถามว่าทำไมมาปิดถนน และขอดูหน้า ก่อนกระชากตัวแกนนำ เพื่อจะรู้เป็นใคร ซึ่งการที่กระชากตัวแกนนำนั้น ก็เพราะกลุ่มผู้ชุม ด่าทอหยาบคาย และยืนยันว่า ไม่ได้มีการชกต่อย หรือทำร้ายร่างกาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่มีผู้บังคับบัญชาเรียกไปสอบถาม หรือตำหนิแต่อย่างใด โดยการชุมนุมนี้มีมานานแล้ว นายอำเภอก็ต้องมาแก้ไขปัญหา แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่รับฟัง ส่วนเรื่องเงินชดเชยนั้น งบประมาณผ่านพิจารณาแล้ว แต่ก็มีขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งไม่สามารถกำหนดว่าเป็นเวลาใด แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ฟัง
"ผมถามไปว่าถือดีอย่างไรมาปิดถนน อย่างนี้ และผมแต่งชุดข้าราชการนัดประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ แต่ไม่ได้ประชุมเพราะมีการปิดถนน ผมเลยต้องมาเจรจา แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นยืนยันว่าแค่กระชากเสื้อไม่ได้ชกต่อย"นายอำเภอสมเด็จกล่าว
ทางด้าน นายบุญใส ก้อนดินจี่ แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ที่ถูกกระชากคอเสื้อ กล่าวว่า นายอำเภอ กระทำการจริง และมีการต่อยหมัดมาที่ตนเอง ซึ่งขณะนั้นกำลังปราศรัยอยู่ และการปิดถนน ก็จะมีขั้นตอน เป็นลำดับ แต่ในขณะเกิดเหตุ ยอมรับว่า ปิดการจราจรทุกช่องทาง เนื่องจากไม่มีคำตอบในเรื่องดังกล่าว และการชุมนุมมีมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีคำตอบจึงต้องดำเนินการปิดถนน แต่ก็ไม่คาดคิดว่า นายอำเภอจะกระทำการเช่นนี้
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งก่อน เพราะดูจากภาพข่าวที่เผยแพร่ เหมือนนายอำเภอจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายผู้ชุมนุม และอาจจะเป็นการป้องกันตัวมากกว่า เนื่องจากบริเวณนั้นมีชายใส่หมวกไหมพรมล้อมรอบตัวอยู่จึงอยากเปิดหมวกออกดูว่าเป็นใคร ซึ่งก็ต้องให้โอกาสนายอำเภอชี้แจงด้วย และไม่ควรปรักปรำฝ่ายเดียว แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้น อย่างไรก็ดี หากมองแง่ดีถือว่า นายอำเภอเกาะติดพื้นที่ ไม่ได้ทิ้งพื้นที่ไปไหน