WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, April 7, 2011

สอบคดีสังหารนักข่าวอิตาลี ทหารปฏิเสธ ดีเอสไอบอกไม่มีพยาน

ที่มา ประชาไท

คอป.สอบคดีฟาบิโอผู้สื่อข่าวอิตาลี ดีเอสไอแจงไม่มีประจักษ์พยานว่ากระสุนยิงมาจากไหน แต่ไม่มีเหตุน่าเชื่อว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ ด้านทหารบอกยังเคลื่อนไม่ถึงจุดที่ฟาบิโอถูกยิง และยังไม่ได้ใช้อาวุธ ค้านกับนิค นอสติทซ์ ช่างภาพทีอยู่ในเหตุการณ์ ผู้แทนสถานทูตอิตาลีจี้เมื่อไหร่ผลสอบจะเสร็จ

5 เมษายน 2554 คณะอนุกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ(คปอ.) เปิดรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายฟาลิโอ โปเลนกิ ช่างภาพอิสระชาวอิตาลี ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บริเวณเกาะกลางถนนหน้าศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ถนนราชดำริ โดยมีตัวแทนจากดีเอสไอ กองทัพภาคที่ 1 เข้าให้ข้อมูล และมีตัวแทนจากสถานทูตอิตาลีร่วมรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง

พ.ต.ท.วีรวัชร์ เดชบุญภา กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงว่า กรณีดีเอสไอได้สอบพยานหลายสิบปาก ทั้งทหาร ผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศ ผู้เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด เช่น คนขับมอเตอร์ไซค์ที่รับนายฟาบิโอไปส่งโรงพยาบาล ตลอดจนแพทย์ แต่ไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นว่ากระสุนยิงมาจากไหน วัตถุพยานที่อยู่ในตัวศพก็ไม่มี สน.ปทุมวันได้ทำสำนวนชันสูตรมารวมกับสำนวนคดีอาญาของดีเอสไอแล้ว ผู้ตายถูกกระสุนความเร็วสูงเข้าที่ด้านหลังต่ำจากบ่า 27 ซ.ม. บาดแผลทางเข้าขนาด 0.5 ซ.ม. กระสุนตัดขั้วหัวใจ ทะลุออกทางหน้าอกด้านซ้าย แนวกระสุนล่างขึ้นบนเล็กน้อย วิถีกระสุนอาจมาจากแยกสารสิน จนถึงศาลาแดง กรณีนี้ไม่มีเหตุน่าเชื่อว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่ได้ส่งกลับไปให้ท้องที่อีก

ส่วนชายที่ปรากฏเห็นหน้าชัดเจนในคลิป แต่งกายคล้ายสื่อมวลชน วิ่งตามหลังฟาบิโอมา และเมื่อฟาบิโอถูกยิงล้มลง ชายคนดังกล่าวได้เก็บกล้องของฟาบิโอมาไว้กับตัวและร่วมกับคนอื่นลากนายฟาบิโอมาที่ฟุตบาท ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย เนื่องจากมีพยานให้การกับ คอป.ไว้ว่า ก่อนหน้านายฟาบิโอถูกยิง 15 นาที ก็มีคนถูกยิงบาดเจ็บในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ชายคนนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ผิดวิสัยของสื่อมวลชนทั่วไป และกล้องวิดีโอที่ชายคนดังกล่าวเก็บไปก็ยังหาไม่เจอ ดีเอสไอได้ชี้แจงว่า ได้ติดตามหาตัวมาตลอด ทั้งสอบถามไปยังสมาคมผู้สื่อข่าว และสอบจากนักข่าวคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีคนรู้จัก รวมทั้งได้ประกาศในเว็บไซต์ของดีเอสไอ และทางทีวีไทย แต่ยังไม่ได้เบาะแส การตรวจสอบกับกองทะเบียนราษฎร์ อาจจะได้ข้อมูล แต่ทางดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินการ

ด้าน พันเอกไตรเทพ ศรีพันธุ์วงศ์ รองผู้บังคับการกองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งชี้แจงการเคลื่อนกำลังพลในวันที่ 19 พ.ค. กล่าวว่าในช่วงเวลาที่ นายฟาบิโอ เสียชีวิต ซึ่งเป็นเวลา 10.59 น. กำลังพลน่าจะยังเคลื่อนเข้าไปไม่ถึงจุดที่นายฟาบิโอถูกยิง เพราะเวลา 12.30 น. เพิ่งจะถึงแยกสารสิน และยืนยันว่าการเข้าควบคุมเหตุการณ์ทหารใช้ปืนลูกซอง ซึ่งมีทั้งกระสุนจริง และกระสุนยาง และปืนเล็กยาวซึ่งใช้แต่ลูกแบล็งค์ ทั้งนี้ ในช่วงที่เคลื่อนจากศาลาแดงถึงแยกสารสิน ทหารไม่ได้ใช้อาวุธเลย รวมทั้งไม่มีทหารหน่วยใดขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้าและตึกสูง จะอยู่แค่สกายวอล์คที่แยกศาลาแดงเท่านั้น รวมทั้ง กองทัพและ ศอฉ.ไม่ได้มีคำสั่งให้จัดการกับชายชุดดำ(ฟาบิโอใส่ชุดดำ) เพียงแต่มีคำสั่งให้ใช้อาวุธป้องกันตนเองในเหตุที่น่าจะทำให้สูญเสียชีวิต และป้องกันประชาชน

นิค นอสติทซ์ นักข่าวอิสระ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลค้านกับทหารว่า ในช่วงนั้นตนเองยืนอยู่หลังแนวของทหารตั้งแต่แยกศาลาแดง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีการใช้อาวุธความเร็วสูงยิงไปทางราชดำริอย่างหนักก่อนที่จะถึงแยกสารสิน ไม่ใช่อย่างที่ทหารบอก และหลังจากนั้น 15-20 นาที ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนมามีนักข่าวอิตาลีเสียชีวิต

ตัวแทนจากสถานทูตอิตาลี ได้ตั้งคำถามในช่วงท้ายของเวทีว่า การสืบสวนสอบสวนนี้มีกำหนดว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ซึ่ง คอป.ชี้แจงว่ามีเวลาทำงาน 2 ปี และชี้แจงกระบวนการทำงานของ คอป.ให้ผู้แทนสถานทูตเข้าใจ

ก่อนจบเวที พ.อ.ไตรเทพ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "ฝากถึงสื่อมวลชนที่มา บางทีด่าผมหยาบๆ คายๆ ในเว็บ อ่านแล้วไม่สบายใจ ทหารไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา... ก็ต้องขอความกรุณาตรงนี้ด้วย ทหารหรือเจ้าหน้าที่ก็คือลูกหลานของประชาชนทุกคน เราคนไทยด้วยกัน ตรงนี้คือคณะกรรมการปรองดอง ถ้าทำแล้วไม่ปรองดองผมก็ไม่รู้จะหันไปหาใคร"