ที่มา ประชาไท
ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)
คน ใต้เคลื่อนพล “ปฏิบัติการเพชรเกษม’41” ยึดถนนเพชรเกษม ต้านนโยบายเพื่อไทย ประกาศไม่เอาทุกเมกะโปรเจ็กต์แผนพัฒนาภาคใต้ ตั้งแต่แลนด์บริดจ์สงขลา–สตูล ท่าเรือปากบารา นิคมฯ ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้าถ่านหิน–นิวเคลียร์ เผยภาคประชาชนทั่วประเทศ จี้ “ยิ่งลักษณ์” เลิกโครงการกระทบสิ่งแวดล้อม
โปสเตอร์เพชรเกษม 41
นาย สมบูรณ์ คำแหง คณะทำงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ เครือข่ายประชาชนภาคใต้จะเปิดปฏิบัติการเพชรเกษม’41 เพื่อบอกกับรัฐบาลเพื่อไทยว่า คนภาคใต้ไม่ต้องการโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจ็กต์ ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงงานอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ โรงไฟฟ้าถ่านหิน สะพานเศรษฐกิจ (แลนด์บริดจ์) สงขลา–สตูล ท่าเรือน้ำลึกปากบารา โดยมีประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากเครือข่ายต่างๆ ในภาคใต้ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมชุมนุม
นายสมบูรณ์ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับสถานที่ชุมนุม และรูปแบบของการเคลื่อนไหว จะมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง ในวันที่ 6 สิงหาคม 2554 ที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ เบื้องต้นเครือข่ายภาคใต้ได้หารือกันคร่าวๆ บ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะจัดชุมนุมที่จังหวัดชุมพร หรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งยังไม่ได้กำหนดวันชุมนุม และกำหนดว่าจะชุมนุมกันกี่วัน จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ยืดเยื้อ ในการชุมนุมครั้งนี้ จะมีการอ่านแถลงการณ์คัดค้านโครงการเมกะโปรเจ็กต์ในภาคใต้
“เราตั้งใจจะชุมนุมให้ได้ ก่อนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา” นายสมบูรณ์ กล่าว
นาง สุไรด๊ะ โต๊ะหลี ตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จังหวัดสงขลา อดีตแกนนำโครงการคัดค้านท่อก๊าซและท่อส่งก๊าซไทย–มาเลเซีย กล่าวว่า รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยว่า การไปประท้วงในเดือนรอมฎอนของพี่น้องมุสลิมภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงถือศีล–อด อาจทำให้ล้าได้ แต่พี่น้องมุสลิมก็พร้อมจะเดินทางไปร่วมชุมนุมคัดค้านกับเครือข่ายจังหวัด สตูลให้ถึงที่สุด
“ถ้ารัฐสามารถสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่อำเภอละงู จังหวัดสตูลได้ ก็จะมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 ที่บ้านสวนกง ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตามมา อีกทั้งโครงการรถไฟรางคู่ และโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา–สตูล ประกอบด้วย ท่อส่งก๊าซ ท่อน้ำมัน เชื่อมระหว่างอำเภอละงู จังหวัดสตูล กับอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และคลังน้ำมันทั้งสองฝั่ง รวมถึงมีนิคมอุตสาหกรรมทั้งฝั่งสงขลา และฝั่งสตูล ซึ่งจะมีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก” นางสุไรด๊ะ กล่าว
นายทรงวุฒิ พัฒน์แก้ว คณะทำงานเครือข่ายท่าศาลารักษ์บ้านเกิด จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ไม่ว่าพรรคไหนมาเป็นรัฐบาล ก็เดินหน้าแผนพัฒนาภาคใต้อยู่แล้ว แต่ที่เป็นกังวลเมื่อพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล ก็เพราะพรรคการเมืองนี้มีนโยบายเอาใจกลุ่มทุนชัดเจน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการต่างๆ เดินหน้าเร็วยิ่งขึ้น
นาย วิโรจน์ ทองเกษม คณะทำงานเครือข่ายพิทักษ์ลุ่มน้ำตาปี–พุมดวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ถ้ามีการรวมตัวกันจริงๆ ตนและเครือข่ายฯ พร้อมจะเข้าร่วมชุมนุมด้วย
นายวิเวก อมตเวทย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายรักษ์ละแม จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า นอกจากจะมีการชุมนุมคัดค้านแผนพัฒนาภาคใต้แล้ว ยังมีการพูดคุยกันระหว่างเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการแผน พัฒนาของภาครัฐทั้งในภาคใต้ เหนือ อีสาน และตะวันออก เพื่อร่วมกันคัดค้านโครงการเมกะโปรเจ็คต์ต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสิทธิชุมชน ต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม โดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่จังหวัดสตูล และนโยบายถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่สุด
“ถ้าหากภาครัฐเดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำ ลึกปากบารา ที่จังหวัดสตูล ตนและเครือข่ายรักษ์ละแม รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนในภาคใต้ และทั่วประเทศไทย จะเข้าร่วมต่อสู้จนถึงที่สุด” นายวิเวก กล่าว
นางมณเฑียร ธรรมวัติ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคใต้ จังหวัดระนอง เปิดเผยว่า คนใต้จะส่งสัญญาณด้วยการผนึกเสียงจากทุกจังหวัดในภาคใต้ บอกความต้องการของคนภาคใต้ในสามหัวข้อหลักคือ เรื่องความมั่นคงด้านอาหาร เรื่องอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากภาคเกษตร และเรื่องพลังงานทางเลือก อนาคตของคนใต้ คนภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดจะกำหนดเอง
นางมณเฑียร กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต พัทลุง แม้จะยังไม่เห็นโครงการเมกะโปรเจ็กต์เหมือนจังหวัดอื่นๆ แต่เมื่อเป็นผืนแผ่นดินภาคใต้ด้วยกัน ก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกัน
“เรา มีพร้อมทั้งทรัพยากรคน ทรัพยากรธรรมชาติ คนใต้ไม่อยากเป็นแค่ลูกจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม ไปดูในโรงงานซิ มีคนใต้กี่คน” นางมณเฑียร กล่าว
“มหากาพย์เพชรเกษม ภาค ๔๑”
ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้
"Operating Petchkasem 41" Stop the Development plan, The Industry and It's metaphysical in southern Thailand.
"ปฏิบัติการเพชรเกษม 41" หยุด แผนการพัฒนา อุตสาหกรรม และ การทำแบบเลื่อนลอยในภาคใต้ซะทีเถอะ
๑) ในความหมายที่กำลังจะพูดถึง ปฏิบัติการเพชรเกษม’... เริ่มมานานแล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว มันเริ่มขึ้นก่อนเราจะสูญเสีย “เจริญ วัดอักษร” ด้วยซ้ำ และค่อยๆดำเนินไปอย่างเนิบๆ ซึมลึก จากสโลแกน “มึงรักเมือง...ฉันใด กูก็รักเมืองประจวบ ฉันนั้น” สู่สำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด และพร้อมออกมาปกป้องด้วยชีวิตแบบชาวบ้านๆ ได้พัฒนาการต่อมาอย่างเหลือเชื่อ ลุกลามไปยังทั่วแดนดินถิ่นใต้ และหลากหลายปริมณฑลในประเทศ
แน่ล่ะ...ด้วยน้ำเนื้อของผู้คน ในท้องถิ่นเป็นแก่นหลัก จึงยังรักษาประจวบคีรีขันธ์ เมืองมิตรด่านหน้าก่อนลงสู่ทางใต้ มิให้แปดเปื้อนมลทิน เอาไว้ได้
๒) เมื่อเอ่ยคำ “เพชรเกษม” (นอกจากเป็นชื่อของอื่นๆในที่นี้ขอยกไว้ไม่พูดถึง) ใครได้ยินแทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่า น่าจะหมายถึง หนึ่งในสี่ถนนสายหลักของประเทศ เป็นถนนที่ทอดแนวตรง จากศูนย์กลางอำนาจบริหารลงสู่ใต้ หากแต่เพชรเกษมเป็นมากกว่านั้น เป็นถนนสายที่ทำให้คนทางใต้ ทั้งรื่นรม-ชมชื่น และขมขื่น-อกตรมไปพร้อมๆกัน
เพชร เกษม น่าจะเป็นถนนที่เกิดขึ้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง แหล่งแร่ดีบุก ในภาคใต้ เป็นด้านหลัก ไม่แปลกที่เพชรเกษมจึงหักมุมเลี้ยวที่แยกปฐมพร-ชุมพร มุ่งหน้าไปเลียบชายฝั่งระนอง, พังงา(ภูเก็ต),กระบี่ เข้าตรัง แล้วค่อยวกเลี้ยวกลับขึ้นพัทลุง เข้าเส้นตรงลงสู่สงขลา บรรดานักลงทุนทั้งไทยและเทศในอดีตต่างใช้เส้นทางนี้...ขนเงินกลับไป
บัด นี้...ดีบุกหมดลง คนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งร่ำรวยยกฐานะขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ภาคใต้ ได้แต่นั่งชะเง้อมอง หลุมแร่เก่ายังค้างคาและกลายเป็นดินแดนข้อพิพาทสิทธิเหนือที่ดิน เนื่องจาก ผู้สัมปทานหลายรายถือครองไม่ยอมคืน ยังไม่นับบรรดาป่าไม้สัมปทานและอื่นๆอีกสารพัด เพชรเกษมอีกนัยยะหนึ่ง จึงคือเส้นทางนำสังคมสู่ศิวิไลซ์ และคือเส้นทางการช่วงชิงเอาทรัพยากรของคนท้องถิ่นใต้ไปอย่างน่าชื่น ตาบาน
๓) เพื่อนเราคนหนึ่ง โพสต์ว่า...หนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ ๔ สิหาคม ๒๕๕๔ พาดหัวชัดเจน “รัฐบาลใหม่พรรคเพื่อไทยเร่งเดินหน้า ๕ เมกะโปรเจคต์ หนึ่งในนั้นคือโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูล เป็นที่ชัดเจนแน่นอนว่าท่าเทียบเรือน้ำลึก(อุตสาหกรรม)ปากบารา จ.สตูล /ท่าเรือสงขลา ๒, นิคมอุตสาหกรรมสงขลาและสตูล ต้องเกิดขึ้นแน่นอน....ทางเดียวที่เราจะปกป้องทรัพยากรบ้านเราคือ..."ต้อง เอาโครงการบ้าๆนี้ออกไปให้ได้"
และไม่เท่านั้น ภาคใต้ ณ บัดนี้ ยังมี
โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่สุด เขื่อน ท่าเรือ โรงไฟฟ้าถ่านหิน การเจาะขุดน้ำมัน และอีกสารพัดที่ นครศรีธรรมราช
โครงการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-คัญธุลี, โครงการผันน้ำตาปี-พุมดวง, ขุดน้ำมันที่เกาะสมุย ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โครงการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ปากน้ำละแม, โรงไฟฟ้าถ่านหิน และเขื่อนที่ จ.ชุมพร และอาจมีโรงถลุงเหล็กตามมา
โครงการ ศึกษานิคมอุตสาหกรรมที่พัทลุง ข้ามฝั่งทะเลสาบไประโนด สงขลา ทะเลสาบจะเป็นแหล่งน้ำจืดป้อน นิคมถมทะเล โรงถลุงเหล็กที่ อ.ระโนด การขุดเจาะน้ำมันที่สทิงพระ สงขลา ยังไม่นับบทเรียนลวงโลก กรณีโรงแยกแก๊ส อ.จะนะ สงขลา สมัยรัฐบาลทักษิณ
โฆษณาชวนเชื่อที่แสนเจ็บ ปวด ว่า จะมีเฉพาะโรงแยกแก๊สอย่างเดียว ไม่มีโรงไฟฟ้า ไม่มีอุตสาหกรรม และ คนจะนะ คนสงขลา จะได้ใช้แก๊สราคาถูกต่อท่อถึงบ้าน..??? บัดนี้โรงไฟฟ้าที่บอกว่าจะไม่สร้าง ได้กระทำชำเราคนคลองนาทับอย่างหนัก ยังจะขึ้นโรงไฟฟ้าแห่งที่ ๒ ต่อ..
ด้านอ่าวพังงา (ภูเก็จ พังงา กระบี่) มีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขนานใหญ่ ที่อุบเงียบกริบ บ้านพักราคาหลักร้อยล้านขึ้นไป ถมทะเลสร้างบ้านวิลล่ากลางทะเลแบบดูไบ คนวงในกล่าวกันว่าลงทุนอุตสาหกรรมที่ภาคใต้ หนีตายไปพักผ่อนอย่างหรูที่อ่าวพังงา
ทั้งหมดนี้แค่ส่วน หนึ่งของ “ความมหาวินาศสันตะโร” ภายใต้ชื่อ แผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ และอีกหลายชื่อ ความวิบัติจากการช่วงชิงทรัพยากรในยุคสมัยใหม่ บนแผ่นดินที่ให้กำเนิดเราขึ้นมา
เพื่อนอีกคนโพสต์ว่า “หากคุณคือคนหนึ่งที่รักภาคใต้ หลงใหลในทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์และสวยงามของภาคใต้ ติดใจในรสชาติอาหารทะเล(Seafood)จากใต้ และที่สำคัญไม่ต้องการให้เมืองใต้ต้องเปลี่ยนเป็นนิคมอุตสาหกรรม... ต้องอย่ายอมให้ยักษ์ (Southern Seaboard) มันมากินเมืองเราได้! ได้เวลารวมกัน จับมันถ่วงน้ำนะพี่น้อง
บ้างก็ว่า “เขาเป็นใคร? ใหญ่มากหรือไง? ทำไม? ต้องมาทำร้ายบ้านเกิดเราด้วย คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องการมัน คนที่ต้องการคนที่ได้รับผลประโยชน์เช่น นายทุน นักการเมือง...
คน ทั่วไปเขาเฉยๆ เพราะเขาไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มีผลกระทบอย่างไร ดังนั้นใครตื่นก่อนย่อมถือเป็นภารกิจร่วมกัน อย่าปล่อยให้ เพชรเกษม เป็นถนนนำความตายมาสู่เรา แต่เราต้องทำให้ เพชรเกษม เป็นถนนสายที่นำมาซึ่งความศิวิไลซ์ร่วมกันของคนใต้ ที่คนใต้คนท้องถิ่นกำหนดขึ้นเองเท่านั้น
๔) ด้วยสภาพคอแคบบริเวณประจวบคีรีขันธ์ต่อเนื่องถึงชุมพร บังคับให้เพชรเกษมมีสภาพเหมือนคอขวดของการเดินทางเช่นกัน เมื่อเพชรเกษมเดิม คือ หมายเลข ๔ ดังนั้น เพชรเกษมตัดใหม่นับตั้งแต่ แยกปฐมพรลงมา จึงมีรหัส หมายเลข ๔๑...
ชี้ตรงไปตรงมาว่า หากปฏิบัติการหมายเลข ๔ คือการมุ่งเข้าสู่เป้า ลำหักลำโค่น เพื่อให้บรรลุภารกิจ เพราะคล้ายกับเสนอทางเลือกทางเดียวว่า “...จะเอายังไงกะเรา...หือ” ปฏิบัติการหมายเลข ๔๑ ก็น่าจะหมายความถึง ต้องการที่จะเสนอทางออกที่ละมุนละม่อม ก่อน ยกระดับสู่ปฏิบัติการ ๔ เดียว ในภาคตอนต่อไป
ปฏิบัติการเพชรเกษมรหัส ๔๑ (ภาค ๑) จึงเกิดขึ้น และนี่คือลำดับปฏิบัติการ รหัส ๔๑
ตอน -ถล่มสภาพัฒน์ฯ หน้าแหกยับกลางเวที ๗ ยก (หาชมได้แล้ว) ต้น กรกฎาคม ๕๔
ตอน - เมื่อ ปรากฏการณ์ รูปประจำตัวเฟสบุ๊ค เป็นรหัส 41 ระบาด ปลาย กรกฎาคม ๕๔
ตอน - สงขลา –สตูล จับมือกันเข้า
ตอน - แลนบก สู้ แลนบบริดจ์
ตอน - สารพัด มือชก ปากกัด ตีนถีบ(จังหวัดต่างๆ) หลากหลายสไตล์คนใต้ไม่มีนายหัว
สิงหาคม ทั้งเดือน
ตอน – คนชุมพรร่วมถกแถลงกระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะ ว่าด้วยแผนพัฒนาชุมพรที่ยั่งยืน วันที่ ๑๐ สค. นี้ .....แถลงข่าวเคลื่อนขบวนตนชุมพร เวลา ๑๔.๐๐ น
ตอน – อื่นๆ........................................
ตอน - ..............(ช่วยกันสร้างสรรค์ และปฏิบัติการได้เลย)
ตอนจบ ภาคแรก “ปฏิญญาเพชรเกษม ๔๑” รอประกาศนัดหมาย วันที่ ๖ ส.ค. นี้
เราจะไม่ปล่อยให้พี่น้องเราถูกหลอกลวงด้วยคำว่า"การพัฒนา-ความเจริญ" จอมปลอมอีกต่อไป
ร่วมประกาศปฏิญญาเพชรเกษม ๔๑ “
ไม่เอาแผนพัฒนาทำลายภาคใต้”