ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
7 เมษายน 2552
*ท่านจะหนุนช่วยการชุมนุมใหญ่8เม.ย.ของเสื้อแดงให้ได้รับชัยชนะได้ด้วยวิธีการใดบ้าง?
1.ลางาน หรือผละงานเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบไม่ก่อเหตุร้ายแบบพันธมิตร โดยควรเตรียมตัวดังนี้
-เตรียมชุดเสื้อผ้าเผื่อนอนค้าง3วัน(8-10เม.ย.)
-มีร่มกันแดดกันฝนไปด้วย
-เตรียมเวชภัณฑ์ เท่าที่จำเป็น เช่น ยาแก้ปวด ยาแก้เจ็บคอ
-เตรียมน้ำดื่มตามที่สามารถพกพาได้ ถ้าจะมีน้ำยาอุทัยทิพย์ไว้ผสมน้ำ
-การเตรียมร่างกาย เช่นการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน
-เป้หรือกระเป๋าสะพายที่กระชับกับร่างกาย
-อาหารแห้งหรือ อาหารอื่นๆ สัก 2 มื้อเป็นอย่างน้อย
-ถุงพลาสติก เผื่อไว้สวมหัว ถ้าจะมีแก็สน้ำตา และถุงพลาสติกบรรจุอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคเช่น กล้อง โทรศัพท์ไว้กันฝน
-ผ้าเย็น ผ้านขนหนู ไว้เช็ดเหงื่อ ถ้าจะมีโคโลนย์ให้มีกลิ่นหอมๆ ชื่นใจก็จะดี ก็จะช่วยให้หายกระหายได้มาก
2.หากลางานหรือผละงานไม่ได้ ให้เข้าร่วมชุมนุมโดยสงบตอนเลิกงาน
3.ติดตามชมการชุมนุมและให้กำลังใจทางทีวีD-STATION หรือทางอินเตอร์เน็ตhttp://www.wered.net/main และรายงานข่าวเป็นระยะทางTNN24(TRUE VISIONS07)ทางอินเตอร์เน็ตhttp://truemusic.truelife.com/home/player/player_livetv.php?guid=8และกระจายข่าวไปยังเครือข่ายของท่าน
4.ส่งรายงานข่าว ภาพข่าว คลิปการชุมนุม หรือเหตุผิดปกติให้สื่อฝ่ายประชาธิปไตย หรือไทยอีนิวส์ที่เมล์thaienews@googlegroups.com และกระจายข่าวการชุมนุม เชิญชวนการร่วมชุมนุมไปยังเครือข่ายของท่าน
5.บริจาคเงินสมทบการต่อสู้ในนาม บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์ สาขาอิมพีเรียลเวิลด์ลาดพร้าว เลขที่224-2-29374-6 หรือบริจาคอาหารให้ผู้ร่วมชุมนุม หรือเครื่องป้องกันการโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา เช่น หน้ากากกันแก๊สน้ำตา หรือรถสุขาเคลือนที่ เป็นต้น
6.เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครพยาบาล หรือหน่วยงานอาสาสมัครภาคสนาม หรืออุปกรณ์ครัวเพื่อเป็นหน่วยเสบียง
7.แพร่กระจายคู่มือตีโต้วาทกรรมอำพรางของพวกพันธมิตร เพื่อขยายแนวร่วมไปยังกลุ่มคนที่เป็นกลาง
เนื่องจากพันธมิตรได้โฆษณาชวนเชื่อแบบblack propagandaต่อมวลชนของตนเอง และสาธารณชน เพื่อให้ร้ายทำลายล้างต่อทักษิณ และฝ่ายประชาธิปไตยเสื้อแดงอย่างผิดๆ กลายเป็นว่างานชวนเชื่อที่ผลิตซ้ำบ่อยๆนั้น ทำให้พันธมิตรและมวลชนของตนเองเกิด"เชื่ออย่างสนิทใจ"ขึ้นมาว่าเป็นจริง ขณะที่สาธารณชนเองก็ไขว้เขวตามไม่น้อย ดังนั้นประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย จึงควรได้เผยแพร่แนวความคิดที่ถูกต้อง เป็นสัจธรรมตอบโต้การสร้างวาทกรรมอำพราง ที่เต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ และมากด้วยเล่ห์กระเท่ของพันธมิตรอย่างเท่าทัน
คู่มือการตอบโต้วาทกรรมอำพรางของพันธมิตรฉบับนี้เป็นฉบับประมวลสรุปอย่างย่อ ให้ท่านนำไปตอบโต้และตีแตกข้อโจมตีของพันธมิตร และชี้แจงต่อสาธารณชนได้อย่างกระชับตรงประเด็น ท่านสามารถเผยแพร่ออกไปในแวดวงเครือข่ายของท่าน และในวงกว้างได้โดยที่เราไม่สงวนสิทธิ์ ทั้งนี้ท่านอาจเพิ่มเติมแก้ไขได้ตามที่ท่านเห็นสมควรก่อนการเผยแพร่
Q:ทักษิณต้องกลับมาติดคุก ปัญหาของประเทศจึงจะจบ
A:ผิด! เพราะนายสนธิ ลิ้มทองกุล เคยพูดว่า ทักษิณออกจากตำแหน่งนายกฯ ออกจากประเทศปัญหาทุกอย่างก็จบ แต่ตอนนี้กลับเรียกร้องให้กลับเข้าประเทศมาดำเนินคดีบอกปัญหาจะจบ ความจริงคือไม่จบ
เพราะคนที่สนับสนุนทักษิณเห็นว่าเกิดความไม่ยุติธรรมในบ้านเมือง ทุกอย่างจะจบก็ต่อเมื่อนายสนธิกับพันธมิตรเลิกผูกขาดความถูกต้อง แล้วต้องฟื้นฟูหลักนิติธรรม นิติรัฐอย่างแท้จริง ถูกผิดว่าไปตามเนื้อผ้าตามกติกาสากลที่นานาอารยะประเทศยึดถือ เช่น หากทักษิณจะถูกดำเนินคดีติดคุก2ปีเพราะเมียทักษิณซื้อที่ดินรัชดา แกนนำพันธมิตรก็ต้องถูกดำเนินคดียึดNBT ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบ ด้วยข้อหากบฎ และข้อหาก่อการร้าย ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึงประหารชีวิตด้วย
หากทักษิณติดคุก2ปีตามคดีที่ดินรัชดา สนธิลิ้มกับแกนนำโดนประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตฐานกบฎและก่อการร้ายตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม เมื่อมีความยุติธรรมเกิดขึ้นปัญหาก็จะจบ หากไม่มีความยุติธรรม เรื่องก็ไม่จบ บ้านเมืองก็ไม่สงบ(NO JUSTICE, NO PEACE)
Q:เสื้อแดงสู้เพื่อทักษิณเพียงคนเดียว แต่พันธมิตรสู้เพื่อสถาบันกษัตริย์ และประเทศชาติ มันต่างกัน
A:ผิด! ต้องเข้าใจความจริงก่อนว่า คนไทยรักในหลวงและสถาบันทั้งนั้น ในเมื่อไม่มีใครคิดล้มล้างสถาบัน แล้วจะปล่อยให้มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างพันธมิตรมาแอบอ้างว่ารักสถาบันแบบผูกขาดได้อย่างไร
ความจริงแล้วใครก็รู้ว่ามวลชนของพันธมิตรถูกหลอกลวงให้สู้เพื่อนายสนธิลิ้มเพียงคนเดียว กับธุรกิจเครือผู้จัดการASTVเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าที่จัดม็อบมา193วันก็เน้นหาทุนหาเงินบริจาคไปต่อลมหายใจหาเงินเดือนจ่ายให้ลูกน้องสนธิ ให้กับธุรกิจของนายสนธิเท่านั้น เมื่อเลิกม็อบทำให้ขาดรายได้ ก็ต้องเร่ร่อนสัญจรไปรีดไถมวลชนของตนเองตามจังหวัดต่างๆ ต้องจัดคอนเสิร์ตการเมืองหาเงินไปหล่อเลี้ยงธุรกิจของนายสนธิ
จึงเห็นได้ชัดว่า นี่เป็นการต่อสู้เพื่อคนๆเดียว แล้วแอบอ้างสถาบันเป็นเครื่องมือ จนทำความระคายเคืองต่อสถาบันเบื้องสูง นำเอาสถาบันต่างๆในสังคมทั้งตุลาการ อัยการ ศาล ทหาร ตำรวจ ชนชั้นสูง สื่อมวลชน นักวิชาการ เอ็นจีโอ นักธุรกิจพ่อค้าต่างๆพลอยเสื่อมทรามลงไป เพื่อคนๆเดียวคือนายสนธิลิ้มอยู่รอด ทั้งที่นายสนธิลิ้มก่อหนี้สินล้นพ้นตัว จนถูกศาลสั่งล้มละลาย ตอนมีความสุขร่ำรวยเขารวยคนเดียวอวดใหญ่โตเอาหน้า แต่พอล้มละลายก็กลับฉุดเอาคนไทยทั้งประเทศล้มละลายตามเขาไปด้วย การณ์เหล่านี้ย่อมชั่วร้าย และคนที่คิดว่าตนฉลาด ไม่รู้ทันคนอย่างนายสนธิเลยหรือ...
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อปกป้องและฟื้นฟูประชาธิปไตยให้เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ต่อสู้เพื่อให้บ้านเมืองมีขื่อแป ให้ว่ากันไปตามผิดตามถูก ต้องการให้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ให้รัฐบาลได้บริหารเพื่อประโยชน์สุขของคนทั้งประเทศ คนส่วนใหญ่จะเลือกใครมาเป็นรัฐบาล เสื้อแดงยอมรับได้ ไม่เว้นแม้แต่ประชาธิปัตย์ ขอเพียงให้ผ่านกระบวนการเลือกตั้งโดยคนส่วนใหญ่
ส่วนทักษิณนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เป็นแนวร่วมที่เห็นทิศทางเดียวกันกับคนเสื้อแดงในเรื่องของหลักประชาธิปไตย และหากทักษิณจะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นก็เป็นไปตามหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรมที่ถูกต้องชอบธรรม และโดยกลไกปกติของสถาบันต่างๆ ไม่ใช่อำนาจพิเศษใดๆมาบันดลบันดาลให้แบบที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้รับ
Q:เสื้อแดงหลงผิดสู้เพื่อทักษิณทำไม ทั้งที่ทักษิณจ้องล้มเบื้องสูง เพื่อจะเป็นประธานาธิบดี
A:ผิด!ในระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขนั้น ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีประเทศใดที่นายกรัฐมนตรีจะล้มล้างกษัตริย์ของตนเพื่อเป็นประธานาธิบดีเลย ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ญี่ปุ่น สวีเดน เดนมาร์ค นอร์เวย์ หรือที่ไหนๆในโลก เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งในการบริหารประเทศ ส่วนกษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุข จึงไม่มีนายกรัฐมนตรีประเทศใดคิดจะพ้นจากตำแหน่งบริหารไปเป็นประมุขของประเทศ ที่สำคัญทักษิณผ่านโรงเรียนเตรียมทหารมา ถูกปลูกฝังให้จงรักภักดีมาตลอดชีวิต การจัดงานเฉลิมฉลองครองราชย์60ปีอย่างยิ่งใหญ่ก็จัดโดยทักษิณ แม้จะถูกกล่าวหาในเรื่องไร้สาระเช่นนี้ทักษิณก็ประกาศว่าเป็นผู้จงรักภักดีอย่างไม่เสื่อมคลาย
ข้อกล่าวหาทำนองเดียวกันนี้เคยมีกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยหลายท่าน เช่น นายปรีดี พนมยงค์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แม้แต่พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร บุตรของจอมพลถนอม กิตติขจร และได้ทำลายบุคคลเหล่านี้มาแล้ว และถูกพิสูจน์ว่าล้วนเป็นข้อใส่ร้ายเพื่อหวังผลทำลายล้างทางการเมืองทั้งสิ้น
เสื้อแดงจึงไม่ได้ปกป้องบุคคลใดที่คิดล้มล้างสถาบัน เพราะไม่มีบุคคลใดคิดเช่นนั้นตามข้อกล่าวร้าย แต่หากจะต่อสู้เรียกร้องก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และคืนความเป็นธรรมให้ผู้ถูกกล่าวหาอันเป็นเท็จเท่านั้น
ความจริงควรมีการจัดการขจัดบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใส่ร้ายทักษิณด้วยข้อกล่าวหานี้เสียที เพราะเป็นการระคายเคืองต่อเบื้องยุคลบาท และทำให้พระเกียรติยศต้องถูกกระทบกระเทือนมามากพอแล้ว
Q:เสื้อแดงมีแต่รากหญ้าทำให้ถูกทักษิณซื้อ ชักจูงได้ง่าย
A:ผิด! แต่เสื้อแดงมีประชาชนไทยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้งนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เช่น นายวีระ มุสิกพงษ์ มีไฮโซอย่าง"เจ๊ดา"ดารณี มีนักวิชาการมหาวิทยาลัยที่สนับสนุนทางวิชาการอย่างเปิดเผย มีข้าราชการ ทหารตำรวจทุกหมู่เหล่า แพทย์ พยาบาล วิศวกร ทนายความ นักวิชาชีพอิสระ มีเอ็นจีโอ นักร้อง ดารา ศิลปิน นักกวี นักเรียนนิสิตนักศึกษา มีประชาชนทุกสาขาอาชีพทั้งนักธุรกิจ เจ้าของกิจการในกรุงเทพฯ เขตเมือง และชนบท มีฐานอยู่ทุกภูมิภาคทุกท้องถิ่น ในต่างประเทศทั้งอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เอเชีย ออสเตรเลีย และทุกทวีปก็มีประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายเสื้อแดงอยู่กระจายไปหมด
ชนชั้นกลางคนรุ่นใหม่ที่สนใจทางการเมืองในเวบไซต์ที่เป็นกลางอย่างบอร์ดราชดำเนิน เวบไซต์พันทิปก็มีคนสนับสนุนฝ่ายเสื้อแดงในสัดส่วนที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงเป็นวาทกรรมผิดๆที่ว่ามีเฉพาะคนรากหญ้าที่เป็นฝ่ายเสื้อแดง
Q:การเมืองใหม่เท่านั้นเป็นทางออกของประเทศ การเมืองเก่าก็คงถูกทักษิณซื้ออยู่ร่ำไป
A:ผิด! หากพันธมิตรเชื่อว่าเป็นทางออก และเห็นว่าคนในประเทศส่วนใหญ่สนับสนุนการเมืองใหม่ ก็ต้องกล้าพิสูจน์ เช่น ชูเป็นนโยบายหาเสียง แล้วพันธมิตรก็ต้องกล้าตั้งพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้ง หากคนส่วนใหญ่เอาด้วยก็ให้นำนโยบายการเมืองใหม่มาใช้ แต่ที่ผ่านมาคนของพันธมิตรที่ลงเลือกตั้งประชาชนไม่ยอมเลือก ทั้งนายสำราญ รอดเพชร นายประพันธ์ คูณมี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายการุณ ใสงาม นายไทกร พลสุวรรณ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ ลงเลือกตั้งก็สอบตกหมด จนต้องไปใช้กลุ่มพลังกดดันทางการเมืองยึดทำเนียบ ยึดสภา ยึดสถานีโทรทัศน์ ยึดสนามบิน เอาความเดือดร้อนของคนทั้งประเทศมาบีบบังคับให้ต้องยอมทำตาม
Q:คนกรุงเทพฯอยู่ข้างพันธมิตร ดังนั้นเสียงของประชาชนในชนบทต้องยอมตาม เพราะกรุงเทพฯเจริญที่สุด
A:ผิด! คนกรุงเทพฯกว่าครึ่งหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับพันธมิตร ในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ล่าสุด แม้พรรคแนวร่วมของพันธมิตรที่ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน9แสนคะแนน แต่อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยที่คนเสื้อแดงสนับสนุนได้6แสนกว่าคะแนน คนที่ต่อต้านพันธมิตรอย่างหนักคือคุณปลื้มได้อีก3แสนกว่าคะแนน รวมกันก็เกือบ1ล้านคะแนน นี่คือเสียงของคนกรุงเทพฯที่ไม่เอาพันธมิตร
และเวลาโพลล์สำรวจก็พบว่า คนกรุงเทพฯผิดหวังพฤติกรรมยึดสนามบินของพันธมิตรที่สุด และเกินกว่า90%ที่เรียกร้องให้เร่งดำเนินคดีต่อพันธมิตร ดังนั้นอย่าเข้าใจผิด และถึงอย่างไรก็ตาม ประเทศประชาธิปไตยที่ทุกคนมี1เสียงเท่ากัน ก็อย่าไปแยกคนกรุงหรือคนบ้านนอกแบบมั่วๆอีกต่อไป เว้นแต่พันธมิตรจะได้อำนาจรัฐและแก้ไขกติกาให้พันธมิตรเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยึดกุมความถูกต้อง ยึดกุมอนาคตประเทศชาติไว้ในกำมือ แต่นั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการ
Q:แล้วทำอย่างไรปัญหาจึงจะจบ
A:ต้องให้เกิดความยุติธรรม บ้านเมืองจึงจะสงบ ต้องยึดกฎหมายขื่อแป ต้องฟื้นฟูนิติธรรม นิติรัฐตามระบบนานาอารยะประเทศทำเท่านั้น ตราบใดที่ไม่มีความยุติธรรม ตราบนั้นก็ไม่มีความสงบสุขในประเทศ
Q:ตกลงว่าทักษิณไม่ต้องติดคุกใช่ไหม ถึงเรียกว่าเกิดความยุติธรรม
A:ผิด! หากทักษิณผ่านกระบวนการพิจารณายุติธรรมตามหลักที่นานาอารยะประเทศยึดถือและเชื่อถือได้ ไม่มีการแทรกแซงชี้นำสั่งการทั้งทางตรงและอ้อม หากทักษิณจะติดคุกคดีที่ดินรัชดา2ปี ก็สมควรต้องกลับมาติดคุก แต่ก็ต้องจัดการแกนนำพันธมิตรคดีก่อการกบฎ และก่อการร้ายที่มีฐานความผิดจำคุกตลอดชีวิต ถึงประหารชีวิตด้วยเช่นกัน
Q:แต่พันธมิตรทำเพื่อประเทศชาติ และเพื่อสถาบันนะจะให้ดำเนินคดีได้อย่างไร ควรนิรโทษกรรมจึงจะถูก ส่วนเสื้อแดงสู้เพื่อทักษิณคนเดียว หากทักษิณกลับมาติดคุกปัญหาจึงจะจบ
A:ผิด! ที่ปัญหามันไม่จบ เพราะพันธมิตรสร้างวาทกรรมที่ผิดๆเช่นนี้เอง
ลุกฮือทั่วประเทศเข้ากรุงโค่นอำมาตย์
ก่อนการชุมนุมใหญ่เสื้อแดงในวันที่ 8 เมษายนนี้ มีความเคลื่อนไหวจากเสื้อแดงทั่วประเทศเข้ามายังกรุงเทพฯ แต่ก็ถูกอำนาจรัฐสกัดทุกวิถีทาง รวมทั้งขนส่งจังหวัดห้ามไม่ให้รถโดยสารขนคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ จนเวทีเสื้อแดงหน้าทำเนียบขู่ว่า หากทำเช่นนี้ ก็จะยกกำลังเสื้อแดงไปปิดล้อมกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่ง หรือการรถไฟ
ความเคลื่อนไหวเสื้อแดงเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการจัดเวทีปราศรัยที่ศาลาว่าการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเชิญชวนกลุ่มเสื้อแดงทั้ง 16 องค์กรใน จ.เชียงใหม่ เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ 8 เม.ย. โดยมีการเตรียมจัดรถบัสให้ออกจากเชียงใหม่ เวลา 08.00 น. และหากการเดินทางมีปัญหาถูกเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดกั้นในจุดใด กลุ่มผู้ชุมนุมจะหยุดรถตั้งเวทีปราศรัยตอบโต้
ด้านกลุ่มคนเสื้อแเดง จ.อุดรธานี ช่วงเช้าวันนี้ มีการรวมตัวกันที่วิทยุชุมนุม 97.5เมกะเฮิร์ตซ์ ชมรมคนรักอุดร นำโดย นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำชมรมคนรักอุดร จัดเตรียมรถบัส ปรับอากาศ ปอ.2 ประมาณ 50 คัน รวม 2,500 คน เดินทางเข้ากทม.ในเวลา 18.00 น. โดยผู้โดยสารทุกคนจะถือบัตรทัศนาจรของชมรมคนรักอุดรไม่ใส่เสื้อแดง เพื่อป้องกันการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดง จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีการตั้งเวทีปราศรัย บริเวณสะพานปรีดี พนมยงค์ โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ จะมีการรวมพลอีกครั้ง ส่วนการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในกทม. จะเป็นการเดินทางไปกันเอง ป้องกันการตั้งด่านสกัดของเจ้าหน้าที่
กลุ่มเสื้อแดงพิษณุโลก ในวันที่ 7 เมษายน เครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตยแห่งชาติ (พิษณุโลก 49) หรือ คปช. นำโดยนายบุญเลิศ เรืองทิม หรือเลิศไม้เก่า แกนนำเสื้อแดงพิษณุโลก ได้ประกาศนัดรวมพลสมาชิกเสื้อแดงพิษณุโลกจำนวนประมาณ 500 คน มารวมตัวขึ้นรถบัสจำนวน 10 คัน ในเวลา 20.00 น.วันที่ 7 เมษายน 2552 ที่จุดนัดพบลานจอดรถสถานีรถไฟพิษณุโลก เพื่อไปสมทบกับเวที นปช . ในการเคลื่อนไหวใหญ่ 8 เมษายนนี้
ทั้งนี้ ตลอดช่วงหัวค่ำของวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เสื้อแดงพิษณุโลก ได้จัดเวทีปราศรัยและรับชมสัญญาณดีสเตชั่น บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟพิษณุโลก มีสมาชิกเสื้อแดงเข้าร่วมประมาณ 60 คน
เวลาประมาณ 7.00 น. เสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ทยอยขนสัมภาระเดินทางมารวมตัวกันที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกับกองเสบียงอาหารอีกจำนวนมากเพื่อเตรียมขึ้นรถบัสจำนวน 16 คันและรถตู้อีกบางส่วนที่แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้เช่าเอาไว้ เพื่อเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลและประกาศล้มรัฐบาลที่กรุงเทพฯ
สำหรับการเดินทางครั้งนี้นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มมีแผนว่าจะนำรถเคลื่อนที่(โมบาย)ขับนำขบวนและให้รถบัสรถตู้และรถกระบะส่วนตัวของกลุ่มเสื้อแดงขับตามเรียงกันไปจนถึงกรุงเทพฯและหากถูกเจ้าหน้าที่สกัดในจุดใดก็จะพากันจอดลงปราศรัยในจุดนั้นๆทันที แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึง 08.30 น. กลับได้รับแจ้งจากบริษัททัวร์เอกชน 3 รายที่ติดต่อเช่าเหมารถบัสไว้ว่าไม่สามารถนำรถออกมารับได้โดยให้เหตุผลว่าถูกขนส่งจังหวัดสั่งระงับ
นายเพชรวรรต กล่าวว่า เจ้าของรถทัวร์บอกว่าไม่สามารถนำรถมาให้บริการได้ เพราะหากขัดขืนจะถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดริบใบอนุญาต เมื่อเป็นเช่นนี้ตนและกลุ่มเสื้อแดงรู้สึกเสียความรู้สึกและไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเจ้าหน้าที่กีดกันการแสดงออกประชาธิปไตยตามสิทธิ จึงจะพร้อมใจกันเปลี่ยนใจไม่ไปกรุงเทพฯแต่จะจะเคลื่อนขบวนเสื้อแดงเชียงใหม่ไปปิดล้อมที่สำนักงานขนส่ง จ.เชียงใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-หางดงแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกลุ่มเสื้อแดงประกาสระดมคนเพื่อจะเดินทางไปบุกปิดล้อมสำนักงานขนส่งนานกว่า 20 นาที ต่อมาแกนนำเสื้อแดงได้ประกาศว่าผู้ประกอบการรถบัสยอมที่จะมารับโดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ยกเลิกการสกัดกั้นในที่สุดและกลุ่มรักเชียงใหม่51ก็ได้ปล่อยขบวนเสื้อแดงเดินทางเข้ากรุงในเวลา 09.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการรวมตัวออกเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ให้ทัน 8 เม.ย.ของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ในวันนี้ ได้แบ่งออกเป็น 3 จุด จุดแรกคือเสื้อแดงของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งนัดกันขึ้นรถที่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสพาเลซ อีกสองจุดอยู่ที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ และสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งสองจุดดังกล่าวใช้รถสี่ล้อแดงประมาณ 400 คันในการขนคนรถออกประมาณ 09.30น.
จ. ลำพูน ตั้งแต่เช้ามืดของวันนี้ (7 เม.ย. 52) กลุ่มคนเสื้อแดงลำพูนได้เดินทางออกจากที่รวมพล สถานีวิทยุชุมชนริมปิงเรดิโอ อ.เมือง จ.ลำพูน มุ่งหน้าสู่ กทม. โดยใช้ รถบัส 10 คัน และรถปิ้กอัพอีกประมาณ 60 คัน เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ในวันที่ 8 เม.ษ. ทั้งนี้ยังคงมีกลุ่มคนเสื้อแดงลำพูนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าร่วมการชุมนุมที่ กทม. ได้ แต่จะเข้าร่วมการชุมนุมที่ศาลากลาง จ.ลำพูน ในวันที่ 8 เม.ษ. ที่จะถึงนี้
ที่ จ.เชียงราย กลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ตระเวนนำรถยนต์ติดเครื่องเสียงและป้ายติดรถขนาดใหญ่ไปตามถนนสายต่างๆ เชิญชวนประชาชนชาว จ.เชียงราย ไปชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 8 เมษายน หากไม่สามารถไปได้ ให้ไปรวมตัวกันอยู่ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย แทน
ที่ จ.พะเยา กลุ่มผู้ประสานงานเสื้อแดงจังหวัดพะเยา ตระเวนแจกเอกสารใบปลิวเชิญชวนประชาชนทุกอำเภอไปร่วมชุมนุมบริเวณศาลากลางจังหวัดพะเยา เวลา 09.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน ซึ่งนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า มีหลายพันคนที่คาดว่าจะร่วมชุมนุม ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงชมรมพะเยาอาร์มี 300 คน จะเข้าสมทบใน กทม. ในเย็นวันที่ 7 เมษายน
ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ หลังจากที่มีการตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์มาตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2552 มีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลจากกลุ่มแกนนำสลับกับการรับสัญญาณดาวเทียมจากกรุงเทพ วันนี้ (7 เม.ย. 52) ได้ยกเลิกการชุมนุมที่จังหวัด พร้อมรวมตัวกันขึ้นรถบัส จำนวน 1 คันรถ เพื่อเข้าไปรวมที่กรุงเทพ โดยมีการเตรียมเสบียงอาหารพร้อมป้ายแสดงว่ามาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งรถกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจังหวัดน่านมาสมทบก่อนจะออกเดินทางไปยังกรุงเทพในเวลา 09.00 น. บางส่วนยังได้นำรถยนต์ส่วนตัวออกเดินทางไปก่อนหน้านี้แล้ว