ที่มา ไทยรัฐ
ในอารมณ์ตื่นตูมแบบฝรั่ง ตามที่สื่อนอกช่วยกันตีประโคมข่าว ภาพนัดชุมนุมใหญ่ ของม็อบเสื้อแดง คาดการณ์อาจเกิดรัฐประหารในไทย
และก็เป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เปิดฉากเร้าไฟ โยงฉากที่แกนนำนปช.ประกาศจะชุมนุมแตกหัก มีเหตุเป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงกับแผนลอบสังหารนายชาญชัยลิขิตจิตถะ องคมนตรี ที่ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมตัวมือปืน และทีมงานทหารระดับ “นายพัน” ที่วางแผนเตรียมลอบสังหารได้
ในขณะที่ทีมวอร์รูมของพรรคประชาธิปัตย์แท็กทีมลูกก๊วนเพื่อนเนวิน ช่วยกันตีปี๊บข่าวเครือญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พร้อมบุตรชายและบุตรสาวทั้ง 3 คน ได้บินหนีออกนอกประเทศไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา
เร้าสถานการณ์ราวกับว่าจะได้เสียกันในห้วงเวลาอันใกล้
แต่ในอารมณ์ “วัดใจ” ม็อบเสื้อแดงที่กรีธาทัพบุกไปถึงเป้าหมาย ประกาศจะปักหลักปราศรัยโจมตี “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อกดดันจนกว่า พล.อ.เปรม จะหยุดแทรกแซงทางการเมือง และตัดสินใจลาออก โดยจะไม่บุกเข้าไปบริเวณบ้านอย่างเด็ดขาด
ตามเกมลากยาว ที่ยังต้องดึงจังหวะ “หยั่งเชิง” เทียบเคียงกับยุทธศาสตร์ของม็อบพันธมิตรฯที่ประกาศม้วนเดียวจบหลายรอบกว่าจะเผด็จศึกรัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้
“ม็อบแดง” ยังมีอีกหลายช็อตหลังสงกรานต์
แต่ที่แน่ๆ ภายใต้เงื่อนไข “รับอาสาแล้วทำงานพลาด”
โดยหัวเชื้อจุดไฟ เกมที่พลิกผันจากคิวแฉแหลกของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถึงนาทีนี้ เบื้องหลังกลับตาลปัตรกันถึงขนาดที่ว่า “มิสเตอร์พี” เจ้าของบ้านสุขุมวิทที่ใช้วางแผนโค่น “ทักษิณ” หรือแม้แต่บิ๊กทหารหัวขบวน คมช.ที่นำทีมรัฐประหาร
วันนี้สลับข้าง ย้ายขั้วไปอิงแอบอยู่กับ “ทักษิณ” แล้ว
ผลประโยชน์ไม่ลงตัว หักลำ ล่อกันเอง
ทั้งหมดทั้งปวง เมื่อ “ความแตก” ก็เลยได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของคนเสื้อแดงที่โชว์ลำหักลำโค่น สำแดงพลัง “แดงค่อนแผ่นดิน” ยากที่ฝ่ายถืออำนาจรัฐจะคุมเกม
ยื้อได้นานเต็มที่ไม่เกินเดือนมิถุนายน
ถึงจุดที่ “ผู้เปี่ยมด้วยบารมี” จะลงมาเบรกทั้ง 2 ฝ่าย หยุดเกมแลกเลือด
ภายใต้เงื่อนไขอดีตนายกฯทักษิณต้องยุติบทบาท ถอนตัวออกไปจากวังวนเกมอำนาจ แลกกับการถอนชนักปักหลัง ขณะที่ฝ่ายอำมาตย์ ต้องกลับเข้าที่ตั้ง ดึงมือที่มองไม่เห็นกลับไปล้างในอ่างทองคำ
“อภิสิทธิ์” ถอย เปิดทางตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ปล่อยนักเลือกตั้งอาชีพพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามตามวิถีปกติทางการเมือง นิรโทษมือบริหารตัวจริงเสียงจริงให้เข้ามาประจำการในตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนอมินี
ก่อนจะยุบสภาเพื่อวัดดวงกันใหม่
หากเป็นไปตามโปรแกรมนี้ ก็ไม่ยากที่จะอ่านหมากข้ามช็อตกันต่อไป
พรรคเพื่อไทย ในฐานะแชมป์เก่า แม้จะยังตั้งหลักไม่ติด แต่ก็ยังได้รับการคาดหมายให้เป็น “เต็งหนึ่ง” จากคะแนนหน้าตักของ “ทักษิณ” และกระแสคนเสื้อแดง
ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพร้อมสุด ทั้งอำนาจรัฐและเสบียงที่กวักมือระดมได้ แต่โดยเงื่อนไขของ “อภิสิทธิ์” ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่โดนม็อบไล่บี้ลงจากเก้าอี้
โดยไม่มีรอยฟกช้ำดำเขียว
เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยภายใต้การบัญชาของนายเนวิน ชิดชอบ กับ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมทั้งกระสุน เพียบไปด้วยขุนพลดาวกระจาย
ยังต้องเหนื่อยกับข้อหาทรยศนายใหญ่
แต่ที่ต้องลุ้นกันหลายช็อตก็คือพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ฟัดกันเองจนเหลือ กลุ่มวังพญานาคของนายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และกลุ่มโคราชของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ยึดเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย
ก่อนอื่นเลย ต้องจุดธูปบนบานให้รอดบ่วงโทษยุบพรรค
เนื่องจากคดีใบแดงของนายนพดล พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เกิดขึ้นในห้วงเวลาก้ำกึ่ง ช่วงที่เจ้าตัวยังเป็นปลัดอำเภอ พร้อมๆกับมีชื่อโผล่มา เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ในขณะที่รัฐธรรมนูญห้ามข้าราชการดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคการเมือง
แว่วๆหวย กกต.จะออก 3 ต่อ 1 ยกประโยชน์ให้จำเลย.
“ทีมข่าวการเมือง” รายงาน