ที่มา ไทยรัฐ
ในอารมณ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าจะตกใจหรือ น้อยใจดี
กับคิวที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. นำทีมสมาชิกวุฒิสภา “ลากตั้ง” ข้าราชการบำนาญเครือข่ายม็อบพันธมิตรฯ แถลงขึงขังไล่ล่า
ตั้งค่าหัว 1 ล้านบาท ลากตัวกลับมาสำเร็จโทษในเมืองไทย
ประกาศจับ “นช.อินเตอร์” ทั้งที ทุ่มทุนสร้างกันแค่นี้ และก็เป็นอะไรที่ต้องบอกว่า ลงทุนน้อยมาก เมื่อเทียบกับอภิมหาขุมทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ “นักล่าสมบัติ” จ้องเอี่ยวหัวคิวกันตาเป็นมัน
โดยเกมจึงเป็นแค่การสร้างสีสัน ปั่นกระแสรายวัน ในอารมณ์ที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ยักท่าใส่ ไม่ได้ให้ความสนใจ
ให้ราคาแค่ “ตลกหน้าม่าน คมช.”
แถมยังเบิ้ลกลับ การแสดงออกของกลุ่มคนดังกล่าว เป็นใบเสร็จที่ชัดเจนว่า คมช. พรรคประชาธิปัตย์ ม็อบพันธมิตรฯ เป็นขบวนการเดียวกัน ที่ชอบใช้สถาบันเบื้องสูงเป็นเครื่องมือทางการเมือง
เรื่องของเรื่อง มันก็คู่กัดกัน มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งนั้น เสียงขู่จึงไม่มีความหมาย เกม “ตั้งค่าหัวทักษิณ” กลายเป็นช่วยราดน้ำมัน
โหมไฟชิงชังของคนเสื้อแดง
ในอารมณ์เดียวกันกับถ้อยแถลงของคนที่มีแต่ได้กับได้ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตมือขวาผู้ภักดี แต่วันนี้อยู่ในสถานะของผู้ทรยศนายใหญ่
ล่าสุดโดดออกมารับบทเป็นแม่ทัพหน้า ชนกับนายเก่าเต็มตัว
นำทีมขุนศึกแหกค่าย ตั้งโต๊ะเรียงหน้ากระดานแถลงอย่างเป็นการเป็นงาน ทั้งขู่ทั้งแฉแผนลึกคนเสื้อแดง เตรียมการที่จะทำให้การชุมนุมนำไปสู่ความรุนแรง
เชื่อว่า เป้าหมายการชุมนุม มีเจตนารมณ์มากกว่าการขับไล่รัฐบาล โดยมีเหตุผลสนับสนุนสมมุติฐาน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552 มีแกนนำผู้ชุมนุม ประกาศจะมีการสร้างรัฐไทยใหม่ ด้วยมือคนเสื้อแดง โดยมีสถานีโทรทัศน์ ดี สเตชั่น เป็นตัวขยายฐาน
การขับเคลื่อนของคนเสื้อแดงครั้งนี้ มีการจับประชาชนเป็นตัวประกัน
ก่อนตบท้าย หากใครคิดล้มล้างสถาบัน ต้องข้ามศพตนเองไปก่อน
กับบทกินใจ ร่ำไห้น้ำตารื้น บอกตัวเองไม่ใช่ทาส “เนวิน” ได้ใจอำมาตย์
แต่กองเชียร์ “ทักษิณ” ยิ่งหมั่นไส้
เอาเป็นว่า “ศึกแดงเดือด” ไหลมาถึงจุดที่คนมองโลกกลางๆ อย่างนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ออกมายอมรับแบบปลงๆเลยว่า ที่ประชุมกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าทุกคน ล้วนเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้
“ผมถือว่า มันเป็นกรรมหมู่ของประเทศ เป็นกรรมเหนือกรรมที่แก้ไม่ได้ เกิดจากการกระทำของมนุษย์เสริมเข้าไปอีก เมื่อมีการกระทำกรรมเป็นจำนวนมากก็ให้ผลต่อคนหมู่มาก”
กรรมหมู่ยากจะหลบพ้น
แต่ที่ฟังแล้วหูผึ่งเลย กับปมแหลมๆคมๆที่นายบวรศักดิ์เตือนกันอย่างตรงไปตรงมา
ไม่อยากให้ใช้สถาบันเป็นเครื่องมือทำร้ายใคร
“ฝากเตือนไปยังทุกฝ่ายว่า ไม่ควรผลักให้คนเสื้อแดงทั้งหมดไปอยู่ตรงข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด เพราะถ้าถึงจุดนั้นจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว
สังคมต้องแยกแยะให้ดี ต้องว่ากันเป็นคนๆไป เพราะคนกลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มหนึ่งต้องการช่วย พ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ อีกกลุ่มหนึ่งอยากได้ประชาธิปไตยจริงๆ ขณะที่ส่วนหนึ่งอาจมีจุดประสงค์ไม่ดีต่อสถาบัน และอีกส่วนหนึ่งก็อยากเข้ามาดูเฉยๆว่ามีอะไรกัน
สังคมไทยมีบทเรียนมาแล้วจากการผลักคนให้ไปอยู่อีกฟากหนึ่ง และเคยเหมาว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราเป็นคอมมิวนิสต์ จนทำให้ผลักคนเข้าป่าหันมาใช้อาวุธต่อสู่กัน”
ปมแหลมๆในสถานการณ์เสียวๆ
พูดก่อนหน้าวันเดียวจะถึงนาทีดีเดย์ ม็อบเสื้อแดงรวมพล วันเผด็จศึก 8 เมษายน
ไม่รู้จะช้าเกินเพลหรือเปล่า.
“ทีมข่าวการเมือง” รายงาน