WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, April 6, 2009

โอ๊ค-เอม-อิ๊ง สู้เพื่อพ่อ!!

ที่มา ไทยรัฐ

ผิดด้วยหรือที่เกิดเป็นลูกนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร?! เป็นคำถามคาใจมานาน สำหรับลูกอดีตนายกฯอย่าง โอ๊ค-พานทองแท้, เอม-พินทองทา และ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ซึ่งถูกกระแสการเมืองเล่นงาน จนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม!!

หลังจากปิดปากเงียบมานาน ลูกสาวคนกลางของอดีตนายกฯทักษิณ เอมได้ลุกขึ้นเป็นโต้โผ ชวนพี่ชายและน้องสาว ช่วยกันถ่ายทอดประสบการณ์สุดขม ในห้วงที่เรียกว่า ทุกข์มากที่สุดในชีวิต ลงในหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ เผยความในใจต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก เพื่อบอกเล่าให้รู้ถึงความเจ็บปวด ที่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกคนขายชาติ ทรยศแผ่นดินไทย

จู่ๆทำไมลุกขึ้นเขียนหนังสือ ทั้งๆที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหน

เอม : พวกเราโดนรังแกมาเรื่อยๆ จนถึงจุดจุดหนึ่งที่อิ่มมาก โกรธก็แล้ว ร้องไห้เสียใจก็แล้ว เลยอยากเล่าประสบการณ์จริงๆให้คนอื่นรู้บ้าง อยากให้ทุกคนที่อ่านหนังสือได้ฉุกคิด อย่าแบ่งแยกสีได้ไหม เพราะเราก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นแค่เด็กในบ้านเมืองนี้เท่านั้น

ที่ผ่านมา ครอบครัวชินวัตร โดนรังแกหนักแค่ไหน

โอ๊ค : เราโดนตัดสินด้วยมาตรฐานที่ไม่เท่ากันทุกเรื่อง ที่เราขอตลอดเวลา เราไม่เคยขอให้มองว่าพ่อผมไม่ผิดนะ!! แค่ขอร้องให้ใช้สแตนดาร์ดเดียวในการตัดสินทุกคดี ทำไมพ่อเราต้องผิดเป็นคนแรก

เอม : คือขอความเป็นกลางได้ไหม ไม่ต้องเข้าข้างก็ได้

หลังเกิดเหตุการณ์ ชีวิตเปลี่ยนไปมากไหมคะ

โอ๊ค : จากที่ชอบเที่ยวชอบปาร์ตี้ ตอนนี้ไม่กล้าออกไปไหนเลย บางทีคนเข้ามาถามว่า เมื่อไหร่จะกลับไป เฮ้ย!!...กลับไปไหน บ้านกูอยู่นี่!! ถ้าจะไปจริงๆก็วันเกิดเพื่อน ที่จัดงานแบบส่วนตัวจริงๆ พารากอนไม่ได้ไปเลย

อิ๊ง : ปกติเป็นคนพูดตรง และค่อนข้างดุ แต่พอเกิดเรื่องทำให้ได้เรียนรู้ที่จะเก็บอารมณ์มากขึ้น เวลาโดนอาจารย์ที่จุฬาฯเสียดสี ในห้อง สมัยก่อนจะเดินออกจากห้องเลย ทำให้รู้ว่าไม่พอใจ แต่พอเกิดเรื่องเวลาโดนอะไรแบบนี้ ก็ฟังแล้วยิ้ม แต่ในใจทุกข์มาก!! จริงๆที่รอดมาได้ เพราะเวลาไปเดินห้างฯ คนที่ไม่ได้ใส่เสื้อสีอะไร เดินเข้าจับมือให้กำลังใจ อิ๊งจะรีบโทร.บอกพ่อทุกครั้ง อยากให้คุณพ่อรู้ว่ายังมีคนไทยรักคุณพ่ออยู่ ยังมีคนเห็นใจเราอยู่ แต่ก่อนจะมองโลกในแง่ร้ายมาก จะปิดกั้นตัวเองมาก แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว

เอม : คนจำได้เยอะขึ้น ปกติคนจำไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้ ก็มีเยอะที่วิ่งเข้ามาร้องไห้ ให้กำลังใจพวกเรา ก็ต้องรีบโทร.บอกคุณพ่อ เพราะท่านอยู่ไกล ไม่มีกำลังใจแบบนี้

ตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหน มีข่าวลือว่ากบดานแถวเขมร

โอ๊ค : ไม่มีครับ ไม่เคยไปด้วยซ้ำ!!

เอม : ถ้าว่างก็จะผลัดกันบินไปหาค่ะ คุณพ่ออยู่หลายประเทศ มีทั้งดูไบ ฮ่องกง และจีน คุณพ่อเดินทางเยอะมากพวกเราส่งเมสเซจหาคุณพ่อบ่อยมาก เวลาเจอกัน คุณพ่อชอบพาไปเดินเล่น ชวนไปช็อปปิ้ง แต่เราไม่มีอารมณ์ บอกว่าไม่ได้มาช็อปปิ้ง แต่อยากอยู่บ้านคุยกับคุณพ่อ

อิ๊ง : เวลาไปหาคุณพ่อ จะพยายามไม่ไปพร้อมกัน ผลัดกันไปอยู่เป็นเพื่อน กลัวว่าถ้าไปพร้อมกัน เวลากลับบ้านกันหมด คุณพ่อจะรู้สึกเหงามาก

รู้สึกยังไงบ้าง ที่คุณพ่อไม่หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง

โอ๊ค : ใครเป็นพ่อก็ต้องทำ คงไม่มีใครอยู่กับความไม่ยุติธรรมได้ แล้วนอนจมหลับไปกับความไม่ยุติธรรม ไม่ได้ต่อสู้ ลองเอาตัวใครไปใส่ในรองเท้าพ่อ ก็ต้องทำอย่างนี้!!

อิ๊ง : หรือไม่ก็ต้องทำไปก่อนหน้านี้!! ตอนนี้ล้างไพ่ใหม่ ไม่ได้แล้วค่ะ มันมาไกลเกินไปแล้ว ถ้าล้างไพ่ใหม่ ก็ยังมีลอยไพ่เก่าอย่างเดิมๆ ที่เปิดขึ้นมาผิดเสมอ คือ ไม่มีความยุติธรรมในสังคม

เอม : พวกเรายอมรับการตัดสินใจของคุณพ่อทุกอย่าง ท่านโดนมามาก จนพวกเราทำหน้าที่เดียวคือซัพพอร์ต

คุณพ่อเคยบอกว่า อยากยอมแพ้ไหม

อิ๊ง : ไม่มีใครในบ้านที่พูดคำว่ายอมแพ้!!

เอม : ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนไม่ยอมแพ้นะคะ แต่อย่างนี้เรารับไม่ได้ ยังไม่เห็นความยุติธรรม เอมเป็นตัวตั้งตัวตีว่าอยากทำหนังสือเล่มนี้ ทั้งๆที่เป็นคนไม่ชอบการเมือง ไม่ชอบออกข่าวเลย เพราะรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว มีคนเห็นเราเป็นแบบนี้ แต่ไม่มีใครเห็นใจเราเลย อย่างไปเดินพารากอน ก็มีคนมาเหล่พวกเรา มองด้วยความ โกรธแค้น ไม่ชอบสีแดงก็อย่ามาลงที่พวกเรา

โอ๊ค : เราไม่ได้เล่นการเมือง แต่การเมืองมาเล่นเรา อยากให้แยกแยะให้ออก เราเป็นครอบครัวนักการเมือง ไม่ใช่นักการเมือง คนที่มีสมองและการศึกษา ช่วยแยกแยะตรงนี้ด้วย

อิ๊ง : ไม่ๆแค่คนที่มีจิตใจก็พอ!!

ทักษิณ ชินวัตร ในสายตาของลูกๆ เป็นคนยังไง

เอม : คุณพ่อเป็นคนติดดินมาก มีอยู่วัน เราไปงานแต่งงานใส่ชุดราตรีลากยาว คุณพ่อถามว่า หิวไหม ทุกคนก็บอกหิว สามสี่ทุ่มแล้ว คุณพ่อบอก งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดสะพานเหลือง ก็ไปกันนั่งหน้าสวยกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เราเป็นอย่างนี้กันจริงๆ ไม่ได้สร้างภาพ คุณพ่อยังชอบทำอาหารทุกวันอาทิตย์ ก็จะมีเมนูเด็ด เป็นบรรยากาศแบบนี้ทุกอาทิตย์ โอ๊คก็จะแข่งทำกับคุณพ่อ แล้วโหวตกันว่าของใครอร่อยกว่า

อิ๊ง : พวกเราคิดถึงท่าทางที่คุณพ่ออยู่ที่บ้าน คิดถึงบรรยากาศ เพราะเราสนิทกันมาก

เอม : ที่จริงคุณพ่อเป็นคนตลก ชอบแซวคนโน้นคนนี้ ไม่ใช่คนซีเรียสอย่างที่เห็น คือกลับมาบ้าน คุณพ่อจะเปลี่ยนขาสั้น พอถอดสูทปุ๊บ ก็เป็นคนปกติ จะนั่งดูทีวีด้วยกัน คุณพ่อเป็นคุณพ่อที่เรามีมาตลอดชีวิตและไม่เคยเปลี่ยน เราไม่เคยทำตัวกร่างว่าเป็นลูกนายกฯ

ในฐานะลูก ได้ต่อสู้เพื่อคุณพ่อหรือยัง

โอ๊ค : ก็ให้กำลังใจคุณพ่อ

เอม : พวกเราพยายามทำหน้าที่ของลูกที่รักคุณพ่อมากๆให้เต็มที่ในทุกด้าน พยายามทำให้คุณพ่อภูมิใจ เวลาที่มองมาทางลูกจะได้ยิ้ม เพราะทุกวันนี้คุณพ่อยิ้มยากเหลือเกิน!!

ถามจริงๆนะคะ พ่อแม่เลิกกัน เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจหรือเปล่า

โอ๊ค : เป็นความเข้าใจกัน จากกันเพราะเข้าใจกัน เป็นข้อตกลงที่คุยกันไว้ว่า พอแล้วนะ วางมือได้ไหม แต่พ่อยังเคลื่อนไหวนิดหน่อย แม่ก็เลยตัดสินใจหย่า แต่ไม่ได้โกรธกัน หรือทะเลาะกัน ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

อิ๊ง : คุณแม่ไม่เจอคุณพ่อเลยตั้งแต่นั้นมา ก็ยังนับอยู่เลยว่าไม่เจอกันมากี่เดือนแล้วนะ

เอม : แต่คุณแม่ก็พูดถึงคุณพ่อ ในฐานะคนที่ห่วงกัน ร่วมกันดูแลลูกๆทั้งสามคน เวลาจะไปหาคุณพ่อ แม่ก็จะสั่งว่าให้ดูแลตัวเอง และให้กำลังใจพ่อนะ อย่าให้พ่อเหงา ให้พ่อมีความสุขบ้าง

ย้อนเวลากลับไปได้ อยากแก้ไขอดีตไหม

เอม : พวกเราไม่อยากให้คุณพ่อเล่นการเมืองตั้งแต่แรก อยากให้เป็นนักธุรกิจเฉยๆ

อิ๊ง : เคยเขียนการ์ดให้คุณพ่อ เขียนว่าถ้าเลือกพ่อได้ในโลกนี้ ก็ขอเลือกคุณพ่อเป็นพ่ออยู่ดี เพราะพ่อเป็นพ่อที่ทำหน้าที่ครบมาก ดูแลเอาใจใส่ลูก จะโทร.หาตลอด อย่างตอนเป็นนายกฯก็ต้องกลับบ้านกินข้าวกับลูกทุกวัน ก็อยากให้วันดีๆแบบนั้นกลับมาอีกครั้ง.