ผมว่าสิ้นหวังแล้ว สำหรับกลุ่มอำมาตย์และองคมนตรี

ที่มา thaifreenews

บทความโดย..ลูกชาวนาไทย

ตอนนี้ผมมองไม่ออกว่ากลุ่มองคมนตรี เช่น พล.อ.เปรม กับพวก จะสามารถกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้อย่างไร ผมไม่คิดว่าจะมี "ไม้ตาย" หรือ "ทีเด็ด" อะไรที่จะทำให้คนเสื้อแดง กลับไป "สงบเสงี่ยม" กราบไหว้บูชาคนเหล่านี้ได้อีก

สองสามวันที่ผ่านมา แม้จะมีองคมนตรีหลายคนออกมาดาหน้าโจมตีคนเสื้อแดง หรือทักษิณ แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์พลิกกลับแต่อย่างใด แต่มีแนวโน้มที่จำนวนคนชุมนุมจะเพิ่มมากขึ้น

ตอนนี้สถานการณ์มันไปไกลแล้ว องคมนตรีทั้งคณะสิ้นสภาพความเป็นองค์กรที่ได้รับความเคารพและเชื่อถืออีกแล้ว การโฆษณาชวนเชื่อ หรือเข้าไปแอบหลังสถาบัน โจมตีคนที่ด่าองคมนตรีว่า จงใจล้มล้างสถาบันนั้น เท่ากับเป็นการดึงสถาบันมาปกป้องพวกตนเอง สร้างความเสื่อมเสียมากกว่าจะเป็นการปกป้องสถาบัน คนที่อ้างความจงรักภักดีอย่างองคมนตรีทั้งหลายนั้นไม่ควรทำแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เป็นการกระทำที่ไม่น่าให้อภัย อันที่จริงพวกเขาควรลาออกทั้งคณะ เพื่อเป็นการปกป้องสถาบันต่างหาก

ตอนนี้ประธานองคมนตรี กลายเป็นศัตรูกับคนเสื้อแดงที่ขยายตัวออกไปค่อนประเทศแล้ว ไม่มีวิธีใดที่จะทำให้คนจำนวนมากเหล่านี้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก การใช้กำลัง การใช้อำนาจต่าง ๆ มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้าย กลายเป็นสงครามประชาชนมากยิ่งขึ้น และจุดแตกหักย่อมเสื่อมเสียต่อสถาบันเป็นอย่างยิ่ง

ผมไม่คิดว่าจะมี "คำอธิบาย" อะไรของ พล.อ.เปรม กับพวก จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงยอมรับฟังได้หรอกครับ ยิ่งอธิบายคนยิ่งโกรธแค้นมากขึ้น เพราะเท่ากับ "เป็นการดูถูกสติปัญญาของพวกเขา" คิดว่าพวกเขาหลอกเล่นอย่างไรก็ได้ การแทรกแซงทางการเมือง ขององคมนตรีคณะนี้ มันชัดเจนในสายตาประชาชน จนเกินกว่าที่จะมีคำแก้ตัวอันใดได้อีก

การเอาม็อบมาชนม็อบ การใช้กำลังทหารทำให้เกิดความรุนแรง หรือการใช้กฎหมายจัดการคนเสื้อแดงอย่างเด็ดขาด ก็ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งและความเสื่อมถอยขององคมนตรีได้ เพราะต่อให้จับแกนนำ สังหารแกนนำ สังหารประชาชนทิ้ง องค์กรองคมนตรี ก็จะยิ่งกลายเป็น "คู่สงคราม" และจะกลายเป็น อาชญากรรมต่อมนุษยชาติมากยิ่งขึ้น ได้รับการต่อต้านมากยิ่งขึ้น

หากกลุ่มเสื้อแดงไปล้อมบ้าน พล.อ.เปรม แล้วเกิดความรุนแรงขึ้น ผมคิดว่ามวลชนเสื้อแดง เขาก็ไม่กลับข้างไปสนับสนุน พล.อ.เปรมหรอกครับ แต่จะทำให้ความไม่พอใจขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว

องคมนตรีได้ออกมาเป็น คู่ขัดแย้งทางการเมืองโดยเปิดเผยแล้ว กรุณาอย่าดึงสถาบันลงมาอีกเลย หากพวกท่านจงรักภักดีจริง ก็จงใช้ชีวิต และเกียรติยศของพวกท่าน ปกป้องสถาบันโดยการ ลาออกไปเถอะครับ เพราะปัญหามันยากเกินกว่าที่ท่านจะแก้ไขได้แล้ว

ตอนนี้กลุ่มเสื้อแดงเขาเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องไม่ให้พวกท่านเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง การใช้อุดมการณ์เก่า ๆ เช่น ความจงรักภักดี หรือ หรือใช้กฎหมายหมิ่นฯ ทำลายคนเสื้อแดง หรือการโปรประกันดาว่าคนเสื้อแดงจะล้มล้างสถาบันนั้น มันไม่ได้ผลแล้วละครับ ประชาชนวางเฉย

ประชาชนวางเฉยจนหน้ากลัว มันเป็นสัญญาณที่ชัดเจน พวกท่านน่าจะรู้แล้ว หากพวกท่านยังจะดันทุรังใช้วิธีการแบบนี้อีก ผมเกรงจริงๆ ว่าจุดจบจะเป็นอย่างที่พวกท่านกลัว ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยากให้ไปถึงจุดๆ นั้น แต่พวกท่านดึงเขาไปเอง เอาสถาบันมาปกป้องตนเอง มากจนเกินไป

ผมยังคิดว่าสถาบันยังมีความจำเป็นกับประเทศไทยอยู่ แต่จะต้องอยู่พ้นจากการเมือง และต้องพ้นจริงๆ ไม่ให้ใครหรือกลุ่มใดเอามาใช้ประโยชน์ทางการเมือง กล่าวหากันทางการเมือง

ตอนนี้ยุทธวิธี ป้ายสี ใส่ร้ายคนเสื้อแดงว่าคิดล้มล้าง ไม่มีทางสยบคนไม่ให้ออกมาชุมนุมได้แล้วครับ

ผมไม่อยากบอกว่าในใจพวกเขาคิดอย่างไร แต่ไม่มีใครแคร์วิธีนี้เท่าไหร่แล้ว

ในทางการเมืองแล้ว พวกท่านได้พลาดท่าถึงจุดที่ไม่มีทางดึงสถานการณ์กลับได้ตั้งแต่กรณีน้องโบแล้วครับ

และยังพลาดอีก ให้นายกฯทักษิณ เปิดโปงและดึงท่านมาเป็นคู่กรณีจนได้ และเมื่อกลายเป็นคู่กรณีแล้ว ยังจุดกระแสประชาชนได้ขนาดนี้ เชื่อผมเถอะว่า ประชาชนเขาไม่แคร์ต่อพวกท่านแล้วครับ สู้ไป ผมไม่คิดว่าทักษิณจะแพ้อีกแล้ว มีแต่พวกท่านเท่านั้นที่รอวันถูกบดขยี้ครับ

สถานการณ์ต่อไปเชื่อได้เลยว่า ฝ่ายแดงจะรุกเดินขบวนขับไล่ประธานองคมนตรีให้ออกจากตำแหน่ง และเรียกร้อง รธน.ปี 2540 กลับคืนมา ยุบองค์กรอิสระที่พวกอำมาตย์ตั้งขึ้นมา หากใช้กำลังต่อต้านก็จะกลายเป็นสงครามการเมือง

การด่า โจมตี ใส่ร้ายทักษิณ ไม่มีประโยชน์ต่อสถานการณ์แล้ว เพราะคนเขาก้าวผ่านไปแล้วละครับ เขาเรียกร้องประชาธิปไตย

พวกท่านต้อง ตอบเรื่องประชาธิปไตย ไม่ใช่ไปพูดเรื่องทักษิณ

ปล. องคมนตรีไม่ใช่สถาบัน และต้องถูกวิจารณ์ได้ และเมื่อถูกวิจารณ์จงอย่าใช้สถาบันปกป้องพวกตน ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นกลุ่มผลประโยชน์ที่ใครแตะต้องไม่ได้ และเป็นสุดท้ายก็เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงเหมือนขณะนี้