ที่มา ประชาไท
การเมือง – สังคม |
"นพดล"เตรียมยื่น จม. 4 ประเด็นให้นายกฯ ดำเนินการต่อกรณีเขาพระวิหาร
เว็บไซต์แนวหน้า - นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศและอดีตฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯแถลงข่าวกรณีจะส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯในกรณีสืบเนื่องจากการอภิปรายฯของนายอภิสิทธิ์สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจฯกรณีปราสาทเขาพระวิหาร
นายนพดลกล่าวว่า ตนจะยื่นจดหมาย4ประเด็นให้นายกฯดำเนินการต่อไป คือ 1.นายอภิสิทธิ์เคยประกาศจะทวงปราสาทเขาพระวิหารคืนและรื้อฟื้นคดีนี้ได้ ทั้งๆที่กระทรวงการต่างประเทศบอกว่าเรื่องนี้ถึงศาลโลกและมีอายุความเกิน10ปีแล้ว จะรื้อฟื้นคดีนี้ไม่ได้ และหากนายกฯบอกว่าจะรื้อฟื้นคดีนี้ได้ ก็ขอให้ไปบอกกับกระทรวงการต่างประเทศและศาลโลกด้วย หากนายกฯทำไม่ได้จะเป็นการพูดเท็จ
2.นายกฯและพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าเส้นเขตพรมแดนไทย-กัมพูชานั้นยังใช้เส้นสันปันน้ำ แต่กรมแผนที่ทหารและกระทรวงการต่างประทศระบุว่าใช้แผนที่ชุด L 7017 โดยใช้เส้นสันปันน้ำเหมือนกัน แต่ยกเว้นบริเวณปราสาทที่ยกให้กัมพูชาตามคำสั่งศาลโลก เท่ากับว่นายกฯยกปราสาทและพื้นที่ใต้ปราสาทให้กัมพูชาไปเล้ว แต่นายกฯบอกว่า ยกให้เฉพาะปราสาท แต่ที่ดินใต้ปราสาทนั้นไม่ได้ยกให้ ฉะนั้นการที่นายกฯจะไปพบสมเด็จฯฮุนเซน นายกฯกัมพูชานั้น ต้องทวงปราสาทคืนให้ได้ หากทวงคืนไม่ได้ก็ไปคิดค่าเช่า หรือควรไปเปลี่ยนแปลงแผนที่ประเทศเสียใหม่
3 รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี2541 ออกประกาศพระราชกฤษฎีกาประกาศพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ โดยใช้แผนที่ชุด L 7017 เท่ากับว่าครม.ชุดนั้นยกที่ดินและปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว หากกัมพูชานำเรื่องนี้ขึ้นศาลโลก กฎหมายจะปิดปากพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกแผนที่นี้ให้กัมพูชาไปแล้ว เท่ากับว่านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นผู้ที่ทำให้ประเทศเสียดินแดนตั้งแต่ปี2541
4.นายกฯ รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์เคยบอกว่า ตนไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องสัมปทานแก๊ส น้ำมัน และเกาะกงนั้น ที่ผ่านมานายกษิตและนายอลงกรณ์ไปเคาะประตูบ้านไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฉะนั้นควรไปไล่ล่าดูว่าอดีตนายกฯได้สัมปทานนี้บ้างหรือไม่ นายกฯควรสั่งให้ครม.ไปตรวจสอบว่าตนมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการลงนามในเรื่องข้างต้นหรือไม่ เพราะตนยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนตามที่กล่าวหา ฉะนั้นการอภิปรายในรัฐสภาเมื่อปีที่แล้วเท่ากับกล่าวเท็จ เพราะสังคมจะปรองดองและสมานฉันท์กันได้นั้น ต้องนำความจริงมาพูดกัน
นายนพดลกล่าวว่า ตอนนี้อดีตนายกฯยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีหนังสือเดินทางหลายเล่ม โดยไม่มีหนังสือเดินทางของกัมพูชาและเยอรมัน แต่หนังสือเดินทางที่อดีตนายกฯใช้เป็นประจำคือ หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตเนโกร ที่ตอนนี้อดีตนายกฯกำลังเจาจราซื้อทรัพย์สินคือหมู่เกาะฮาวายแห่งยุโรปที่น่าจะรู้ผลในสองเดือนนี้ และทราบว่าหลายประเทศสนอให้หนังสือเดินทางกับอดีตนายกฯ เพราะเห็นใจที่อดีตนายกฯเดินทางไปพบเพื่อนและธุรกิจ ตนทราบว่าประเทศมหาอำนาจในยุโรปจะให้วีซ่าแบบเรสสิเดนท์กับอดีตนายกฯ แม้จะมีคำตัดสินของศาลฎีกาในคดีที่ดินรัชดาแล้ว
“วันนี้อดีตนายกฯอยู่ดูไบเป็นหลัก ผู้ปกครองนครรัฐนี้บอกว่าประเทศนี้เสรี หากนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ที่ไปขอให้จับกุมอดีตนายกฯนั้น ทราบว่าคงจะจับไม่ได้ เพราะตนทราบว่าผู้ปกครองนครรัฐบอกกับนายอลงกรณ์ว่าหากนายอลงกรณ์มีปัญหาในอนาคต ผู้ปกครองนครรัฐนี้ก็ยินดีต้อนรับนายอลงกรณ์” นายนพดลกล่าว
เมื่อถามว่า มหาอำนาจในยุโรปคือฝรั่งเศสใช่หรือไม่ นายนพดลยิ้มและตอบว่า“ผมไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ”นายนพดลกล่าวว่า นัยยะคือประเทศเหล่านี้คิดว่าหลายคดีที่เกิดหลังยึดอำนาจคือคดีการเมืองจึงเห็นใจและให้วีซ่ากับอดีตนายกฯ เพราะตอนนี้หลายประเทศเสนอให้หนังสือเดินทางกับอดีตนายกฯด้วย แต่อดีตนายกฯไม่ขอรับเพราะมีเพียงพอแล้ว ขอเรียนว่าอดีตนายกฯตอนนี้อยู่ต่างประเทศกำลังไปลงทุนแบบหาเช้ากินค่ำที่ขาดทุนและมีกำไรบ้างเพราะค่าใช่จ่ายสูง และทราบว่าประธานนาธิบดีบางประเทศจะเชิญอดีตนายกฯไปเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการลงทุนและท่องเที่ยว โดยข้อมูลจะออกมาไม่ช้านี้
“เป็นประเทศในเอเชียและแอฟริกา”นายนพดลกล่าวเสริมข้อความในข้างต้น และว่าในสี่เดือนข้างหน้าจะรู้ว่าเมืองทองในแอฟริกาที่อดีตนายกฯจะไปลงทุนนั้นจะสำเร็จหรือไม่
เมื่อถามว่ารัฐบาลประสานขอตัวอดีตนายกฯจะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นายนพดลกล่าวว่า รัฐบาลไทยประสานไปจริง แต่ตนเข้าใจทัศนคติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า อาจไม่ให้ความร่วมมือกับไทยเพระไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ต้องใช้ท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัยแทน ส่วนกรณีที่รัฐบาลไทยประสายไปยังฮ่องกงเพื่อขอให้ฮ่องกงจับกุมหากอดีตนายกฯเดินทางไปฮ่องกงนั้น เข้าใจว่าฮ่องกงตอบกลับมาว่า ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นประเทศเสรีและไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย เรื่องนี้ขอให้ไปถามความชัดเจนกับนายกฯว่าหนังสือฉบับนี้จากฮ่องกงมาถึงมือแล้วหรือไม่
ส่วนการปรองดองและสมานฉันท์นั้น นายนพดลกล่าวว่า รัฐบาลนี้ตีสองหน้าเพราะนายกฯบอกว่าต้องการสมานฉันท์ โดยขอให้อดีตนายกฯกลับมา แต่นายกษิตและนายอลงกรณ์รวมทั้งทีมโฆษกพรรคและโฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังโจมตีความน่าเชื่อของอดีตนายกฯเสมอๆ
นายนพดลกล่าวว่า ขอชี้แจงว่าวันนี้อดีตนายกฯไม่ได้จ้างล็อบบี้ยิสต์แล้ว ส่วนการไล่ล่าจับกุมอดีตนายกฯของรัฐบาลนี้โดยใช้เส้นทางตำรวจสากลนั้น มีข้อมูลว่ารัฐบาลให้ข้อมูลกับตำรวจสากลว่า อดีตนายกฯสั่งให้มีการประมูลที่ดินรัชดา เมื่อตำรวจสากลสอบถามกลับมา แต่รัฐบาลกลับไม่มีหลักฐานส่งไป เพราะอดีตนายกฯไม่ได้ลงนามสั่งเปิดประมูลเพราะกองทุนฟื้นฟูฯเป็นสั่งดำเนินการ โดยที่อดีตนายกฯลงนามในฐานะสามีให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาภรรยาไปประมูลซื้อที่ดินเท่านั้น
“ความพยายามของรัฐบาลนี้ที่จะเอาตัวยอดีตนายกฯกลับมาโดยขอร่วมมือนั้นไม่น่าบรรลุผล เพราะต่างประเทศไม่เชื่อว่าอดีตนายกฯทุจิต ไม่เชื่อว่ารัญบาลนี้จะอยู่ยาว และเชื่อว่าอดีตนายกฯโดนคดีการเมือง รวมทั้งความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสูญไปตั้งแต่นำนายกษิตที่ไปยึดสนามบินมาร่วมงานในรัฐบาลเพราะต่างประเทศมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เป็นการก่อการร้ายและไม่เคารพมิตรประเทศ”นายนพดลกล่าว
ส่วนเรื่องการเมืองอื่นๆนั้น เช่นการที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะไปพบอดีตนายกฯนั้น นายนพดลกล่าวว่า ตนแทบไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่การทำงานพรรคเพื่อไทยนั้นทราบว่ามีสมาชิกพรรคที่เคารพและสานเจตนาของอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะให้กำลังใจส.ส.พรรคนี้ได้ แต่คนในพรรคนี้ต้องดูแลพรรค อย่าหวังพึ่งคนอื่น แม้จะนำปรัชญาและนโยบายของอดีตนายกฯมาใช้ได้ แต่อดีตนายกฯไม่ได้บริหารพรรคแบบวันต่อวันแล้ว ฉะนั้นจะหวังพึ่งใบบุญของอดีตนายกฯอย่างเดียวคงไม่ได้
“หากส.ส.พรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ก็ต้องระวังว่า พรรคต้องสู้เพื่อประชาธิปไตย เศรษฐกิจ และสังคม ตนจึงไม่ อยากให้สังคมมองว่าพรรคเพื่อไทยสู้เพื่อแม้วตามที่หนังสือพิมพ์กล่าวไว้”นายนพดลกล่าวและว่า ไม่รู้ว่าส.ส.ของพรรคนี้จะออกข่าวทำไมว่าจะไปพบอดีตนายกฯที่ต่างประเทศเสมอๆ
นพดลพูดเป็นนัยฝรั่งเศสให้วีซ่าทักษิณ
เว็บไซต์ไทยรัฐ - ที่โรงแรมเรดิสัน นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศและอดีตฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีจะส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในกรณีสืบเนื่องจากการอภิปรายฯของนายอภิสิทธิ์สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีปราสาทเขาพระวิหาร โดยจะยื่นจดหมายให้นายกฯดำเนินการ
ส่วนความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ นายนพดล กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหลัก ผู้ปกครองนครรัฐนี้บอกว่าประเทศนี้เสรี หากนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ที่ไปขอให้จับกุมอดีตนายกฯนั้นทราบว่าคงจะจับไม่ได้ เพราะทราบว่าผู้ปกครองนครรัฐบอกกับนายอลงกรณ์ว่า หากนายอลงกรณ์มีปัญหาในอนาคต ผู้ปกครองนครรัฐนี้ยินดีต้อนรับนายอลงกรณ์ ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหนังสือเดินทางหลายเล่ม แต่ไม่มีหนังสือเดินทางของกัมพูชาและเยอรมัน โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตเนโกรเป็นประจำ และทราบว่ามีหลายประเทศเสนอให้หนังสือเดินทางกับอดีตนายกฯ แต่ท่านไม่รับ เพราะมีเพียงพอแล้ว อีกทั้งยังทราบว่าประเทศมหาอำนาจในยุโรปจะให้วีซ่าแบบเรสสิเดนท์ด้วย แม้ถูกศาลฎีกามีคำตัดสินในคดีที่ดินรัชดาแล้ว
นายนพดล กล่าวถึงการทำธุรกิจของอดีตนายกฯ ว่า อยู่ระหว่างเจาจราซื้อหมู่เกาะฮาวายแห่งยุโรปที่น่าจะรู้ผลในสองเดือนนี้ เมื่อถามว่า มหาอำนาจในยุโรปคือฝรั่งเศสใช่หรือไม่ นายนพดลยิ้มก่อนตอบว่า ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ
“นอกจากนี้ทราบว่าประธานนาธิบดีบางประเทศในทวีปเอเชียและแอฟริกาจะเชิญอดีตนายกฯ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการลงทุนและท่องเที่ยว โดยข้อมูลจะออกมาไม่ช้านี้ ส่วนการลงทุนทำเหมืองทองในแอฟริกานั้น อีก 4 เดือนข้างหน้าถึงจะทราบผลว่าสำเร็จหรือไม่” นายนพดล กล่าว และเมื่อถามว่ารัฐบาลประสานไปที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อขอตัวอดีตนายกฯ นายนพดล กล่าวว่า รัฐบาลไทยประสานไปจริง แต่เข้าใจทัศนคติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่าอาจไม่ให้ความร่วมมือกับไทยเพราะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ต้องใช้ท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัยแทน
สำหรับกรณีที่รัฐบาลไทยประสานไปยังฮ่องกงเพื่อขอให้ฮ่องกงจับกุมหากอดีตนายกฯเดินทางไปฮ่องกงนั้น นายนพดล กล่าวว่า ฮ่องกงตอบกลับมาว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นประเทศเสรีและไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย เรื่องนี้ขอให้ไปถามความชัดเจนกับนายกฯว่าหนังสือฉบับนี้จากฮ่องกงมาถึงมือแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลนี้ตีสองหน้า โดยนายกฯระบุว่าต้องการสมานฉันท์ ขอให้อดีตนายกฯกลับมา แต่นายกษิตและนายอลงกรณ์ ทีมโฆษกพรรคและโฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังโจมตีความน่าเชื่อของอดีตนายกฯตลอด
นายนพดล กล่าวถึงการไล่ล่าจับกุมอดีตนายกฯของรัฐบาลนี้โดยใช้เส้นทางตำรวจสากลนั้น มีข้อมูลว่ารัฐบาลให้ข้อมูลกับตำรวจสากลว่า อดีตนายกฯสั่งให้มีการประมูลที่ดินรัชดา เมื่อตำรวจสากลสอบถามกลับมา แต่รัฐบาลกลับไม่มีหลักฐานส่งไป เพราะอดีตนายกฯไม่ได้ลงนามสั่งเปิดประมูล เพราะกองทุนฟื้นฟูฯเป็นสั่งดำเนินการ โดยที่อดีตนายกฯลงนามในฐานะสามีให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาภรรยาไปประมูลซื้อที่ดินเท่านั้น ดังนั้นความพยายามของรัฐบาลที่จะเอาตัวยอดีตนายกฯกลับมาโดยขอร่วมมือนั้นไม่น่าบรรลุผล เพราะต่างประเทศไม่เชื่อว่า ทุจริต ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ยาว และเชื่อว่าอดีตนายกฯโดนคดีการเมือง
'จำลอง'แทงกั๊กนั่งหัวหน้าพรรคใหม่ของ พธม.
เว็บไซต์เดลินิวส์ - พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงแนวความคิดจัดตั้งพรรคการเมืองว่า เกิดขึ้นหลังจากยุติการชุมนุม ซึ่งพันธมิตรฯหวังว่ารัฐบาลใหม่จะทำงานการเมืองอย่างที่หลายฝ่ายต้องการ แต่เมื่อผ่านไปสักระยะก็เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น จึงเริ่มเสนอให้มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดย ส.ส.ต้องเป็นคนซื้อสัตย์ สุจริต และเสียสละ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ จนต้องจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคการเมืองใด แต่เห็นเรื่องของบ้านเมืองเป็นใหญ่
เมื่อถามว่า จะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยยืนยันว่า จะไม่ทำงานทางการเมืองอีก พล.ต.จำลอง ปฏิเสธว่า ไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเมื่อครั้งที่ยุติการชุมนุม ตนบอกว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ เช่น ที่ปรึกษา หรือเลขานุการรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่มีชื่อเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ได้หวังตำแหน่ง เพราะไม่คุ้ม ส่วนหัวหน้าพรรคจะมีคุณสมบัติอย่างไรยังไม่ได้พูดถึง พูดกันแต่ว่าเสียงส่วนใหญ่จะเอาอย่างไร จะตั้งหรือไม่ตั้งพรรค ซึ่งต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า ยังไม่ได้ปิดประตูการเป็นหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนสนับสนุนเต็มที่ ถ้าประชาชนมีมติให้ตั้งพรรคการเมือง.
นายกรัฐมนตรีเผยปรับ ครม. ตำแหน่งเดียว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้พูดคุยกับนายชาติชาย พุคยาภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากพรรคภูมิใจไทยแล้ว ซึ่งนายชาติชายฯ บอกว่าจะแถลงข่าวพูดเรื่องทั้งหมดในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้ทุกอย่างชัดเจนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างจะชัดเจนในช่วงบ่ายวันที่ 26 พฤษภาคม ส่วนพรรคภูมิใจไทยเสนอบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายชาติชายฯ หรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการติดต่อมา มีแค่ที่ตนได้ติดต่อกับนายชาติชายฯ ซึ่งเดิมจะนัดพบกัน แต่นายชาติชายฯ บอกว่าคงไม่ต้องแล้ว เพราะเตรียมการที่จะชี้แจงทุกอย่างในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ และบอกว่าจะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้
ไม่พบสารกัมมันตรังสีที่คอนเทนเนอร์ปริศนา
เว็บไซต์เดลินิวส์ - พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ใต้ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า แนวทางการยกตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นจากน้ำคงทำได้ยาก เพราะพื้นตู้คอนเทนเนอร์ของทุกบริษัทจะเป็นไม้ ทำให้เชื่อว่า ตู้คอนเนอร์ที่จมอยู่ช่องแสมสาร ขณะนี้ พื้นตู้น่าจะผุหมดแล้ว และทรายเข้าไปอยู่จำนวนมาก อีกทั้งหากในตู้มีโครงกระดูกมนุษย์จริง การยกตู้ขึ้นจะทำให้กระดูกตกกระจายและยากต่อการค้นหา ดังนั้น การส่องกล้องเข้าไปตรวจสอบก่อน น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้(25 พ.ค.) ตนจะทำรายงานถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อรายงานข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมด เพื่อเตรียมพร้อมในการลงปฏิบัติการใต้น้ำอีกครั้งในต้นเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสารกัมมันตรังสีในฟองน้ำที่ติดอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ พบว่า ไม่พบสารกัมมันตรังสีบริเวณดังกล่าว.
ศธ.เร่งทำร่างพ.ร.บ.เงินเดือนห่วงขรก.ครู5หมื่นคนเสียประโยชน์
เว็บไซต์คมชัดลึก - "จุรินทร์" สั่ง ศธ.เร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ห่วงข้าราชการครูสังกัด สพฐ.ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนเสียประโยชน์จากการปรับโครงสร้างเงินเดือนตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เร่งยกร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีผลใช้บังคับโดยเร็ว ทั้งนี้ การยกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นผลจากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ซึ่งกำหนดให้มีบัญชีเงินเดือนข้าราชการพลเรือนแบบใหม่กำหนดอัตราเงินเดือนของข้าราชการ 4 ประเภทเป็นขั้นต่ำขั้นสูง โดยแยกเป็น 4 บัญชีตามประเภทของข้าราชการต่างจากบัญชีเงินเดือนเดิมที่มีบัญชีเดียวและกำหนดอัตราเงินเดือนไว้เป็นขั้นบันได การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ดังกล่าว ทำให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้นจะได้เลื่อนเงินเดือนในวันที่ 1 เมษายน 2552 เนื่องจากบัญชีเงินเดือนใหม่ได้ขยายเพดานเงินเดือนสูงขึ้นจากบัญชีเงินเดือนเดิม
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำลังจัดทำหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือนระบบใหม่ (เลื่อนเป็นร้อยละของค่ากลาง) จึงให้ส่วนราชการเลื่อนเงินเดือนตามระบบเดิมไปก่อน (เลื่อนเป็นขั้น) โดยได้กำหนดตารางเลื่อนขั้นเงินเดือนชั่วคราวเพื่อใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2552 และวันที่ 1 ตุลาคม 2552 สำหรับการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนของข้าราชการครูให้ใช้บัญชีเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนโดยอนุโลม ทั้งนี้ ยกเว้นบุคลากรทางการศึกษาอื่น
รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อไปว่า ได้ให้ ก.ค.ศ.เร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเทียบเคียงลักษณะงานของข้าราชการครูกับตำแหน่งประเภทวิชาการของข้าราชการพลเรือน ซึ่งจะมีการขยายเงินเดือนสูงขึ้นเช่นกัน หากพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่มีผลย้อนหลังไปก่อนวันที่ 1 เมษายน 2552 จะทำให้ข้าราชการครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้น เสียประโยชน์จากการปรับโครงสร้างเงินเดือนคือ ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนเหมือนข้าราชการพลเรือนสามัญและบุคลากรทางการศึกษาอื่น แต่จะได้รับเป็นค่าตอบแทนพิเศษ 2% หรือ 4% แทนเลื่อนขั้นเงินเดือน จึงขอให้ ก.ค.ศ.เร่งดำเนินการโดยด่วน เพื่อไม่ให้ข้าราชการครูเสียผลประโยชน์มาก
ส.ว.เบรกเช่ารถเมล์เอ็นจีวี4พันคัน
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สมาชิกวุฒิสภา โดยคณะกรรมาธิการคมนาคม และ คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา อาทิเช่น นายจารึก อนุพงษ์ ประธาน กมธ.คมนาคมวุฒิสภา นายธวัช บวรวนิชยกูร เลขาธิการกมธ.คมนาคม วุฒิสภา นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน พล.อ.อ.ณพฤษภ์ มัณฑะจิตร แถลงข่าว คัดค้านการอนุมัติโครงการรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 4,000 คัน ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ แต่ให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษพิจารณาค่าเช่า 4,780 บาทต่อคันต่อวัน ยังสูงเกินไป โดยให้นำเข้ารายงานต่อที่ประชุม ครม.ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
นายธวัช กล่าวว่า กรรมาธิการคมนาคมวุฒิสภา ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และเห็นด้วยกับโครงการว่าต้องดำเนินการแต่ควรจะมีการเปิดกว้างในการให้ข้อมูลโครงการนี้มีกลิ่นมีความพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่อง และถ้าหากทำถูกต้องค่าใช้จ่ายจะลดลง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ก็ทราบเหตุผล ดึงเวลาไว้ แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
"รถเมล์ 4 พันคัน ถ้าเทียบเท่าของ บขส. ที่มีเครื่องยนต์ที่ใหม่กว่า ใหญ่กว่า มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากกว่า ทำสัญญากับ บขส. 34 คัน ค่าเช่า 3 ปี ซ่อมบำรุงบวกเงินภาษี 3,700 บาทต่อคันต่อวัน แต่ของ ขสมก. 4,780 บาทต่อคันต่อวัน ร่วมค่าอิเล็กทรอนิกส์ 157 บาท ค่าประกันภัย 31 บาท ซึ่งเทียบคุณภาพต่ำกว่า แต่ก็ยังแพงกว่า แถมยังดึงดันประมูลอยู่เจ้าเดียว แถมบอกต้องวางเงิน 3,500 ล้านบาท แล้วบริษัทไหนจะกล้ามา ซึ่งควรมีการแยกประมูลไปทั้ง 18 อู่ เพื่อให้เกิดกลไกการตลาด ทำทีโออาร์มาก็ไม่มีความโปร่งใส และนี้กำลังจะทำให้ ขสมก.ล้มละลายหรือ แถมยังมีรัฐมนตรีบางคนบอกว่า หากบริหารจัดการไม่ได้ก็จะให้เอกชนดำเนินการ นี่แสดงว่ากำลังจะโละให้เอกชน"
ด้าน นายไพบูลย์ กล่าวว่า กมธ.รู้สึกแปลกใจที่หลายองค์กรภาคประชาชนทุกภาคส่วนได้มีการคัดค้านเมื่อได้กลิ่นไม่ดี แต่ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงได้พยายามทำเกินเลย ตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วจนมาถึงรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ที่ยังดึงดันในเรื่องนี้ ซึ่งทาง กมธ.ไม่เห็นด้วย และเรื่องนี้ประชาชนต้องมีส่วนร่วม
สปสช.ทุ่มกว่า 8 ล้าน ใช้สื่อสารไฮเทคช่วยผู้ป่วยใต้ตอนล่าง-รองรับเหตุไฟใต้
ASTV ผู้จัดการรายวัน – สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา จัดงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท ใน 2 โครงการเพื่อพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ ในระบบการรักษาและประสานการส่งต่อทางไกล Tele-medicine ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารภาพและเสียง เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วยในภาคใต้ตอนล่าง รวมถึงรองรับกรณีที่เกิดเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ และเครือข่ายการดูแลทารกแรกเกิดซึ่งมีแนวโน้มจำนวนเด็กคลอดก่อนกำหนดเพิ่มมากขึ้น โดยมีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นแม่ข่ายให้กับโรงพยาบาลในภาคใต้ตอนล่าง
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดส่งมอบโครงการพัฒนาระบบบริการตติยภูมิเฉพาะด้าน ตามแนวทางการดำเนินการสนับสนุนครุภัณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาระบบบริการสุขภาพและพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
นพ.อมร รอดคล้าย ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา จัดงบประมาณ 16,101,371 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริการตติยภูมิเฉพาะด้าน ใน 2 โครงการ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาระบบการรักษา สื่อสาร ในระบบการรักษาให้คำปรึกษาและประสานการส่งต่อทางไกล หรือที่เรียกว่า Tele-medicine โดยสนับสนุนงบลงทุนด้านอุปกรณ์โดยเน้นการติดตั้งภายในห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน จำนวน 8,078,257 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสื่อสารในด้านการรักษาพยาบาลระหว่างโรงพยาบาลแม่ข่าย กับโรงพยาบาลในเครือข่ายดูแลผู้ป่วย ด้วยการติดตั้งระบบเชื่อมโยงเครือข่ายด้วยโครงข่ายของบริษัท TOT จำกัดมหาชน
ทั้งนี้ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ จ.สงขลา จะเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายให้แก่โรงพยาบาลในเครือข่ายดูแลผู้ป่วย 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลสงขลา โรงพยาบาลศูนย์ตรัง โรงพยาบาลพัทลุง โรงพยาบาลควนขนุน โรงพยาบาลสตูล โรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลนราธิวาส และโรงพยาบาลเบตง
2.โครงการพัฒนาเครือข่ายการดูแลทารกแรกเกิด หรือ New born ระดับเขตพื้นที่สงขลา เนื่องจากที่ผ่านมาโรงพยาบาลสงขลานครินทร์และโรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่มีสถิติรับผู้ป่วยทารกแรกเกิดเพิ่มขึ้นทุกปี โดยตั้งแต่ปี 2542-2543 มีจำนวน 190 คน ปี2545-2546 มีจำนวน 260 คน และในปี 2550 เพียงปีเดียวมีเด็กแรกเกิดถูกส่งต่อมายังโรงพยาบาล มอ.จำนวน 216 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ ประกอบกับในการเคลื่อนย้าย ขาดเครื่องมืออุปกรณ์ที่เพียงพอและเหมาะสม และส่งมาแล้วก็มีปัญหาการส่งกลับเนื่องจากขาดความพร้อมในโรงพยาบาลที่รับ
ทั้งนี้ ในระยะแรก โรงพยาบาลที่ร่วมพัฒนาและอยู่ในเครือข่ายในฐานะโรงพยาบาลแม่ข่ายได้แก่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ โรงพยาบาลสตูล โรงพยาบาลศูนย์ตรัง โรงพยาบาลพัทลุง และโรงพยาบาลนราธิวาส ส่วนโรงพยาบาลเครือข่ายได้แก่ โรงพยาบาลเทพา โรงพยาบาลจะนะ โรงพยาบาลนาทวีโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ โรงพยาบาลละงู โรงพยาบาลควนขนุน โรงพยาบาลรือเสาะ และโรงพยาบาลระแงะ
รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒิ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ เปิดเผยว่า แนวคิดของโครงการพัฒนาระบบการรักษา สื่อสาร ให้คำปรึกษาและประสานการส่งต่อทางไกล หรือที่เรียกว่า Tele-medicine นั้น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ในโรงพยาบาลชุมชนสามารถขอคำปรึกษาเรื่องการรักษาผู้ป่วยได้โดยไม่จำเป็นต้องส่งตัวมายังโรงพยาบาลแม่ข่าย ซึ่งใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยให้การรับส่งต่อผู้ป่วยมีประสิทธิภาพขึ้น จากเดิมที่มีการอธิบายโทรศัพท์หรือจดหมายซึ่งเป็นข้อจำกัดทางการสื่อสาร การเตรียมการล่วงหน้าไม่พร้อม เพราะไม่ได้เห็นสภาพจริง ซึ่งในกรณีผู้ป่วยหนักจะมีปัญหาในบริการมาก
โดยเฉพาะการที่โรงพยาบาลเป็นแม่ข่ายให้แก่โรงพยาบาลในภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ซึ่งมีปัญหาความไม่สงบบ่อยครั้ง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่อาการทั่วไปจนกระทั่งอาการสาหัส เครื่องมือนี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการสื่อสาร เพราะสามารถรับรู้ข้อมูลทั้งภาพและเสียงพร้อมกันไป เสมือนการประชุมทางไกล หรือ Video Conference ซึ่งเป็นประโยชน์ในการให้คำปรึกษา การช่วยชีวิต และติดต่อประสานงานที่เกี่ยวกับผู้ป่วย จะทำให้ช่วยเหลือผู้ป่วยได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
บ้านทับเขือแห่งแรกนำร่องโฉนดที่ดินชุมชน
เว็บไซต์คมชัดลึก - รัฐบาลร่องโฉนดชุมชนแห่งแรกบ้านทับเขือ ให้สิทธิ์ชาวบ้านจัดสรร-กำหนดกติกากันเอง เผยครม.สั่งชะลอประกาศเขตอุทยานฯเพิ่ม สั่งทส.สำรวจใหม่หลังชาวบ้านร้องไม่กันแนวเขต "ถาวร"ทวงที่สปก. 20 ล้านไร่จัดสรรคนจน นายกฯวอนผู้นำท้องถิ่นหนุนโครงการกระตุ้นศก.
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทีมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯด้านต่างๆเกี่ยวกับปัญหาที่ดินได้ประชุมมีความคืบหน้าหลายเรื่อง โดยในเรื่องการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงทรัพยาธรรมชาติและส่งแวดล้อม(ทส.)จะมีการประกาศเพิ่มอีก 38 แห่ง ได้ขอให้ชะลอไปก่อนเพราะยังมีปัญหาร้องเรียนว่าทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาแล้ว ซึ่งครม.ได้ขอให้ถอนเรื่องออกไปก่อน เพื่อชะลอเรื่องเอาไว้ และขอให้ทส.กลับไปพิจารณาตรวจสอบดูว่า ยังมีปัญหาเรื่องทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านอยู่หรือไม่ ส่วนอีก 30 กว่าแห่งที่เหลือก็ให้สั่งการให้ชะลอไปก่อนด้วยเช่นเดียวกัน
นายสาทิตย์กล่าวว่า ส่วนปัญหาเกี่ยวกับกรณีที่ชาวบ้านถูกภาครัฐฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องที่ดินนั้น ได้การตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วม เพราะขณะนี้มีชาวบ้านที่ถูกฟ้องคดีแพ่งจำนวนมากนอกเหนือจากคดีอาญาแล้ว โดยในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งนั้น เท่าที่ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงการคลัง ว่าคดีฟ้องแพ่งยังติดใจอยู่หรือไม่ เพราะเงินที่ได้ต้องส่งกระทรวงการคลัง ซึ่งถ้ากระทรวงการคลังไม่ติดใจ ก็จะมีมาตรการซึ่งจะไปบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้ นอกจากนี้ยังได้มีอนุกรรมการชุดที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่ดินสหกรณ์ และอนุกรรมการที่ว่าด้วยเรื่องของที่ราชพัสดุ รวมถึงอนุกรรมการแก้ปัญหาเรื่องของที่ดินที่อยู่ป่าที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ
“เรื่องหลักๆที่น่าที่จะเดินหน้าก่อน คือโฉนดชุมชนเพราะมีความพร้อมสามารถที่จะทำได้ก่อน ปัญหาเรื่องการโต้แย้ง เรื่องของการถือสิทธิ์ในที่ดินมันค่อนข้างที่จะลงตัว ความจริงแล้วที่ดินที่ชาวบ้านเข้าไปอยู่แล้วก็มีปัญหากับหน่วยราชการมีหลายประเภทมาก แต่เราจะทำโครงการร่องมาเป็นที่แรกที่บ้านทับเขือ จ.ตรังเพราะตรงนั้นองค์ของชาวบ้านค่อนข้างเข้มแข็งสูง เท่าที่ไปตรวจสอบสภาพพื้นที่ดู ก็คือว่ามีการวมตัวกันมาระยะหนึ่ง แล้วก็มีการวางกติกาชุมชนกันค่อนข้างที่ดี สามารถที่สืบสาวที่มาที่ไป และกรมอุทยานฯเองเมื่อมีการพิสูจน์แผนที่ทางอากาศแล้วพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการทำกินก่อนมีการประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติจริง โดยมีการกันพื้นที่เอาไว้ประมาณ 3000 กว่าไร่ ทีนี่ผมเอาทางสำนักนายกรัฐมนตรีไปตรวจราชการเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์กล่าวว่าคำว่าโฉนดชุมชนในความคิดเห็นของชาวบ้านตรงกับแนวคิดของรัฐบาลคือวคำว่าโฉนดชุมชนก็คือเป็นการับรองสิทธิ์ในที่ดินทำกินแปลงใหญ่ เพื่อรับรองว่าที่ดินผืนนี้ ชาวบ้านสามารถเอาไปทำกินได้โดยไม่ทับซ้อนกับเขตที่เป็นเขตป่าหรือเขตอุทยาน เพื่อป้องกันการเข้ามาดำเนินการของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ และสิทธิ์ในโฉนดชุมชนนี้จะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมขององค์กรชุมชน จะต้องไม่มีการจำหน่ายจ่ายโอนในกรณีใดทั้งสิ้น ใครที่เข้าไปทำกินในโฉนดชุมชนนี้ ก็จะมีคณะกรรมการองค์กรชุมชนเป็นผู้จัดสรรที่ดินโดยมีกฎกติกาที่วางเอาไว้ ในกรณีที่ใครคนใดคนหนึ่งสละที่ทำกิน เขาก็จะกลับไปเป็นของส่วนกลางเพื่อรอผู้ที่มาทำกินคนต่อไป
นายสาทิตย์กล่าวว่า ได้ปรึกษากับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกฎหมายที่นำมาใช้ในครั้งนี้ ซึ่งหากออกกฏหมายใหม่นานเป็นปีก็ไม่จบ ดังนั้นอาจจะใช้ตามหลักกฎหมายเดิมที่มีอยู่ ตอนนี้ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูอยู่ ว่าน่าจะออกได้ด้วยวิธีการใดบ้าง แต่ปัญหาที่ต้องเผชิญในอนาคตนี่น่าจะมี 3 ข้อ 1. หลักเกณฑ์การออกโฉนดชุมชนที่เป็นหลักความยั่งยืนในทางข้อกฎหมาย จะออกยังไงให้มีความยั่งยืนปลอดภัย 2. ที่ดินที่มีข้อโต้แย้งกับทางเจ้าหน้าที่และหน่วยราชการทั้งหลาย จะมีข้อยุติอย่างไรซึ่งอันนี้คงต้องอาศัยคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายกฯเป็นประธานเป็นผู้พิจารณาซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายต่างๆ 3. ถ้าใช้หลักโฉลดชุมชนนี้ องค์กรของชาวบ้านจะต้องเข้มแข็งมาเพียงพอ และจะต้องมีความยั่งยืนในการดำเนินการ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดสภาพของการไม่ยอมรับกติกาแล้วก็บุกป่า และนำมาเป็นกรรมสืทธิ์ส่วนตัว
นายถาวร เสนเนียม รัฐ มนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดินกล่าวว่า ขณะนี้มีที่ดินสาธารณะที่ทับซ้อนกับที่ดินทำกินของชาวบ้านนับแสนไร่ เฉพาะที่จ.สงขลาเอง ซึ่งมีอยู่ 7-8 พันไร่ได้สั่งการให้ออกเอกสารอนุญาตให้ชาวบ้านที่อยู่มาก่อนได้ทำกิน
เศรษฐกิจ |
หวั่นศก.ไตรมาสแรกยังไม่ต่ำสุดชี้ท่องเที่ยววิกฤติหนัก-หวังแรงหนุนเศรษฐกิจโลกฟื้น
เว็บไซต์คมชัดลึก - หวั่นไตรมาสแรกเศรษฐกิจยังไม่ถึงจุดต่ำสุด แม้ติดลบ 5-7% มองไตรมาส 2 ปัจจัยลบฉุดหลายด้าน การผลิตยังไม่กระเตื้อง จับตาไข้หวัด 2009 กระทบรายได้ท่องเที่ยว ชี้ปีนี้วิกฤติหนักสุด หวังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ช่วยพยุงไทยให้ฟื้นตาม มองการลงทุนภาครัฐช่วยได้ไม่มาก
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 น่าจะขยายตัวติดลบ 5-6% แต่ยังไม่ใช่จุดต่ำสุดของปีนี้ เพราะภาพรวมในไตรมาส 2 ยังดูไม่ดี การผลิตลดลง มีวันหยุดมาก รวมทั้งฤดูฝนมาค่อนข้างเร็ว ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว นอกจากนี้ เหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็น่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งอาจทำให้อัตราการขยายตัวไตรมาส 2 ติดลบ 6% กว่าๆ และน่าจะเป็นจุดต่ำสุด ก่อนที่จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังเป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตา เพราะการแพร่เชื้อค่อนข้างเร็วและจะแพร่เชื้อได้ดีในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทย อาจกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวอีก โดยปีนี้ถือเป็นปีวิกฤติมากของการท่องเที่ยว เจอทั้งปัจจัยลบในประเทศจากปัญหาการเมือง ไข้หวัดใหญ่ 2009 การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกพร้อมกัน
ดร.เศรษฐพุฒิกล่าวว่า โดยภาพรวมการจะเห็นเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหรือไม่ คงต้องขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ ซึ่งเศรษฐกิจโลกไม่น่าจะฟื้นเร็ว จากการวิจัยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พบว่า ในวิกฤติเศรษฐกิจที่รวมเอาภาคการเงินไว้ด้วยจะใช้เวลาในขาลงประมาณ 7 ไตรมาส และใช้เวลาอีก 6-7 ไตรมาส ในการจะฟื้นกลับมาที่เดิม
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า บริษัทประมาณว่าจีดีพีของไทยในไตรมาส 1 ปีนี้ จะหดตัวประมาณ 7% เป็นมุมมองค่อนข้างลบนิดหน่อย แต่เชื่อว่าจะเป็นจุดที่ต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยแล้ว จากนั้นจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่เหลือของปี การใช้จ่ายภาครัฐที่มีออกมาอาจจะน้อยไป แต่จำเป็นต้องทำ ส่วนจะไปหวังผลมากมายนั้นคงไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออก
“บลจ.เอ็มเอฟซีมองว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัวไปทิศทางของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก โดยเราหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ลงไปในโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาวของประเทศถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในระยะยาว ส่วนปัจจัยลบที่ยังมีความกังวลคือเรื่องการเมืองและท่องเที่ยว” ดร.พิชิตกล่าว
ดร.บันลือศักดิ์ ปุสสะรังสี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร กล่าวว่า คาดว่าจีดีพีไตรมาสแรกหดตัว 3-4% หรืออาจถึง 5% ส่วนไตรมาส 2 แนวโน้มยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากการส่งออกและนำเข้ายังหดตัวอยู่ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 3 ก่อนจะเป็นบวกได้ในไตรมาส 4 ของปี โดยตลอดปีนี้คาดว่าจีดีพีจะติดลบ 2-3% ภายใต้สมมติฐานว่าโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่แพร่ระบาดมากนัก และการเมืองไทยมีดุเดือดเกินไป
ต่างประเทศ |
ศรีลังกาหมกเม็ดการตายผู้นำพยัคฆ์ทมิฬ
เว็บไซต์คมชัดลึก -สื่อทางการแฉ รัฐบาลศรีลังกาโกหกเรื่องเวลาและสาเหตุการเสียชีวิตของ "เวฬุพิลัย"
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ค.) ว่า เกิดความกังขาเรื่องการเสียชีวิตของนายเวฬุพิลัย ประภาการันต์ ผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ขึ้น ภายหลังจากหนังสือพิมพ์ออบเซอร์เวอร์ ซึ่งเคยเป็นกระบอกเสียงให้ทางการศรีลังกามาโดยตลอด รายงานว่า นายเวฬุพิลัยเสียชีวิตในป่าโกงกาง ซึ่งขัดกับที่ทางกองทัพประกาศก่อนหน้านี้ว่า นายเวฬุพิลัยถูกยิงเสียชีวิตในวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม ขณะพยายามหลบหนีออกจากจุดยิงปะทะกันในรถพยาบาล
ออบเซอร์เวอร์รายงานว่า เรื่องนายเวฬุพิลัยหลบหนีออกไปในรถพยาบาลเกิดขึ้นภายหลังจากทหารแอบไปดักฟังการสื่อสารทางวิทยุของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬเข้า ทั้งที่จริงแล้วในวันจันทร์ที่ทางการประกาศว่านายเวฬุพิลัยเสียชีวิตนั้น ทหารพบเพียงแค่ปืนพกและเข็มขัดกระสุนของนายเวฬุพิลัยเท่านั้น โดยเพิ่งจะมาพบร่างของผู้นำกบฏพยัคฆ์ทมิฬอยู่ในป่าโกงกางเอาในวันถัดไป โดยหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังรายงานด้วยว่า กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬพยายามจะหลอกให้ทางกองทัพเชื่อว่านายเวฬุพิลัยถูกสังหารขณะพยายามหลบหนีในรถพยาบาล เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของทางการศรีลังกาออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวของออบเซอร์เวอร์ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ ทางการศรีลังกาไม่ได้เปิดเผยผลการชันสูตรศพนายเวฬุพิลัย หรือมีแถลงการณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่านายเวฬุพิลัยเสียชีวิตเมื่อไร และอย่างไร แถมรายละเอียดเรื่องการจัดการศพก็ขัดแย้งกัน โดยโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ศพจะถูกนำไปมอบให้สัปเหร่อ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกกลับบอกว่าศพถูกเผา และเถ้าถ่านได้นำโปรยลงทะเลไปแล้ว
จุดที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ รัฐบาลศรีลังกาเพิ่งจะมาแพร่ภาพศพนายเวฬุพิลัยเป็นครั้งแรกเอาในวันอังคาร ทั้งๆ ที่อ้างว่านายเวฬุพิลัยเสียชีวิตไปตั้งแต่วันจันทร์ โดยการแพร่ภาพศพมีขึ้นภายหลังจากเว็บไซต์ของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอ้างว่านายเวฬุพิลัยยังไม่ตาย
วันเดียวกัน ประธานาธิบดีมหินทรา ราชปักเษาของศรีลังกา ปฏิเสธข้อเรียกร้องขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้ยกเลิกข้อจำกัดในการส่งความช่วยเหลือไปยังค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัดยัดเยียด โดยบอกว่าทางกองทัพจะต้องสกรีนผู้ลี้ภัย ซึ่งมีอยู่มากถึงเกือบ 3 แสนคน ให้เสร็จเสียก่อนจึงจะส่งความช่วยเหลือเข้าไปได้ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีพวกกบฏพยัคฆ์ทมิฬแทรกซึมอยู่ในกลุ่มผู้อพยพหนีภัยสงครามเหล่านี้
คูเวตพบทหารมะกันติดหวัดนรก 18 ราย
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี / เอเจนซี - คูเวตยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศเป็นทหารสหรัฐฯ จำนวน18 คน
อับดอลเลาะห์ อัล เราะห์มาน ทาวิล รัฐมนตรีสาธารณสุขคูเวตแถลงที่กรุงคูเวต ซิตีเมื่อวาน (24)ว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศ โดยเป็นทหารสหรัฐฯ18 คน ซึ่งทั้งหมดถูกกักบริเวณเพื่อรักษาตัวที่ค่าย อรีฟจัน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงคูเวต ซิตีราว 70 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งค่ายพักทหารสหรัฐฯ16 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ขณะนี้ทหารเหล่านี้เดินทางออกจากคูเวตแล้ว
ด้านองค์การอนามัยโลกระบุว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใน43 ประเทศและยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดมี 12,022 ราย ผู้เสียชีวิต 86 คน โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 6,552 ราย รองมาคือเม็กซิโก 3,892ราย
ส่วนญี่ปุ่นซึ่งมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับที่4ของโลกพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 27 คนใน24 ชั่วโมงที่ผ่านมาทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพิ่มเป็น321ราย
นอกจากนั้น มีการพบผู้ติดเชื้อรายที่ 8ในจีนและรายที่2 ในฟิลิปปินส์ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่กลับมาจากสหรัฐฯทั้งสิ้น