WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, May 30, 2009

พท.ซัด"มาร์ค"ปากพาจน ปูดมิ.ย.เผาบ้านเผาเมือง ออกตัวส.ส.ร่วมเสื้อแดงสิทธิ์ส่วนตัว ยัน"แม้ว"ไม่เกี่ยว

ที่มา มติชนออนไลน์

"มาร์ค"เผยเดือนมิถุนายนจะมีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพื่อสร้างความไม่สงบ ทำผิดกฎหมายจนถึงขั้นเผาบ้านเมืองเผาเมือง กระตุ้นนักธุรกิจร่วมต้านช่วยเหลือประเทศ โฆษเพื่อไทยซัดปากพาจน ออกตัวส.ส.ร่วมเสื้อแดงเรื่องส่วนตัว อย่าโยงพรรค

พท.ซัด"มาร์ค"ปากพาจน" แจงส.ส.ร่วมเสื้อแดงสิทธิ์ส่วนตัว


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุในระหว่างกล่าวปาฐกถาพิเศษให้สมาคมนักธุรกิจฟังเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมว่า ในเดือนมิถุนายนจะมีความเคลื่อนไหวจากบางกลุ่มที่เคยเผาเมือง ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ว่า นายอภิสิทธิ์ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องใหญ่กว่า ซึ่งการออกมาพูดครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุน และทำให้ประชาชนวิตกกังวลจนไม่กล้าไปจับจ่ายใช้สอย ถือว่านายกฯ เป็นพวกปากพาจน

เมื่อถามว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในเดือนมิถุนายน ส.ส.เพื่อไทย จะไม่เข้าร่วมใช่หรือไม่ นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เราเน้นระบบรัฐสภา แต่ส.ส. มีสิทธิไปร่วมชุมนุมในนามส่วนตัว แต่ต้องมีความเหมาะสม และไม่โยงว่าพรรคกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถ้าไปชุมนุมแล้วไปสร้างความเสียหาย ผิดกฎหมาย ก็ต้องรับผิดชอบเอง ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ถูกดำเนินการหลายคดี แต่ถ้าใช้สิทธิส่วนตัวไปร่วมชุมนุม ก็ห้ามไม่ได้


"ประชา"เชื่อมิ.ย.วุ่นตามนายกฯบอก เหตุรบ.ถูกปัญหารุม


เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุเดือนมิถุนายนนี้จะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ว่า นายกรัฐมนตรีพยากรณ์ทางวิทยาศาสตร์ เพราะรู้ว่าขณะนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ทำให้มีม็อบออกมาเคลื่อนไหวจำนวนมาก ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ ไม่สามารถตกลงเรื่องผลประโยชน์กันได้ มีความขัดแย้งกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องระบายสินค้าการเกษตร การเช่าที่ดินราคาถูกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมตั้งพรรคการเมือง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เจอปัญหารุมเร้าหลายด้าน ซึ่งจะทำให้เกิดความวุ่นวายตามคาด


ส.ส.สมุทรปราการ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้จะมีข่าวว่า วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จะมี ส.ส.เดินทางไปพบ แต่ตนไม่รู้ว่าใครไปบ้าง แต่ที่รู้คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่เมืองดูไบแล้ว และหลังสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีความชัดเจนเรื่องหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างแน่นอน

"มาร์ค"หวังผันก้อนใหญ่สู่ระบบสค.


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นักธุรกิจจะช่วยได้อย่างไร"ที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยจัดขึ้นที่ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองจะเน้นการสร้างงาน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณประมาณ 1.55 ล้านล้านบาท ภายในเวลา 3 ปี โดยนำเงินมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ปีละ 400,000-500,000 ล้านบาท และอีกส่วนมาจากเงินกู้ 800,000 ล้านบาท โดยเงิน 200,000 ล้านบาทจะถูกนำไปใช้เสริมฐานะทางการคลัง อีก 600,000 ล้านบาทจะนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จึงหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทที่ออกไปมีความเรียบร้อย โดยในสัปดาห์ถัดไปจะนำทั้ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.กู้เงินทั้ง 8 แสนล้านบาทเข้าสู่สภา โดยคาดว่าจะเริ่มกู้และนำเงินเข้าสู่ระบบได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้


โวยกลุ่มเผาบ้านเผาเมืองจ้องป่วน


"ความคาดหวังของผมต่อภาคเอกชนมี 4 ข้อ
1.อยากให้ภาคเอกชนเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน และพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลก
2.อยากให้เอกชนช่วยสร้างบรรยากาศบ้านเมืองที่ดี ให้ประชาชนเห็นว่าบรรยากาศบ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบแล้ว ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา เพราะทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนเป็นอย่างมาก
วันนี้อาจดูว่าบ้านเมืองของเรากลับเข้าสู่ความสงบแล้ว แต่คนที่ไม่ต้องการให้เกิดความสงบยังมีอยู่ ยังทำงานอยู่ ซึ่งภายในเดือนหน้าคนกลุ่มนี้ก็จะออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงอยากให้ช่วยกันไม่ให้สนับสนุนคนเหล่านั้น ในการกระทำผิดกฎหมายจนถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศที่ดี ซึ่งการช่วยเหลือกันครั้งนี้ ไม่ใช่การช่วยเหลือรัฐบาล แต่เป็นการช่วยเหลือประเทศชาติ
3.ภาคเอกชนจะต้องหาความพอดี ระหว่างการไม่ตื่นตระหนักและการไม่ประมาท และ
4.ภาคเอกชนต้องช่วยสอดส่องและให้ข้อมูลการทุจริต เพราะการทุจริตส่วนใหญ่มาจากคนสามฝ่าย คือนักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ ซึ่งหากนักธุรกิจไม่ยอมให้เกิดการคอร์รัปชั่น นักการเมืองและข้าราชการก็ไม่สามารถเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ได้"นายกฯกล่าว


ให้เกษตรฯสำรวจต้นทุนข้าวโพด


นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการกำหนดราคาประกันสินค้าข้าวโพดล่วงหน้า ภายใต้แนวทางการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรรูปแบบใหม่ ทดแทนโครงการรับจำนำ หลังจากได้ดำเนินการกับสินค้ามันสำปะหลังไปก่อนหน้านี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ไปดำเนินการสำรวจต้นทุนการผลิตสินค้าชนิดนี้ว่า จะอยู่ที่ราคาเท่าไร และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปวางแนวทางการดำเนินงาน รวมถึงข้อมูลเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยให้เวลาประมาณ 2 เดือน และนำกลับเข้ามาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง


"เชื่อว่าการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรรูปแบบใหม่ จะช่วยป้องกันปัญหาการทุจริตได้ดีกว่าการรับจำนำแบบเดิม เราไม่ต้องไปกังวลเรื่องการเก็บรักษาสินค้าอีกต่อไป เพราะสินค้าจะอยู่ที่เกษตรกรเอง และไม่ต้องกังวลว่า จะมีสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาปะปนด้วยอีกหรือไม่"รองนายกฯกล่าว


จี้พณ.ทำงานให้มีประสิทธิภาพ


ส่วนการระบายข้าวโพดในสต๊อครัฐบาล จำนวน 4 แสนตันจากปริมาณทั้งหมด 1 ล้านตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลไปก่อนหน้านี้ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลให้รับทราบว่า ผู้ส่งออกที่ชนะการประมูล 2 ราย ทำหนังสือขอถอนตัวและขอคืนหลักประกันสัญญาจากการประมูลครั้งนี้แล้ว ส่วนผู้ส่งออกอีกหนึ่งราย คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะข้าวโพดที่ประมูลได้มีกว่า 6 หมื่นตันเท่านั้น และน่าจะทำหนังสือแจ้งขอถอนตัวเร็วๆ นี้เช่นกัน ทั้งนี้เรื่องการระบายข้าวโพดสต๊อครัฐบาล คงจะต้องรอให้คณะกรรมการชุดที่มีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ วางแนวทางการระบายที่ชัดเจนก่อน แต่ที่ประชุมครั้งนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่า สินค้าที่ประมูลไปจะต้องส่งออกไปต่างประเทศ หากถ้าจะมีเหลืออยู่ก็จะอนุญาตให้แค่อยู่ในมือสหกรณ์กลุ่มเล็กๆ ที่ต้องการซื้อเพื่อใช้ในประเทศเท่านั้น


รองนายกฯกล่าวว่า ที่ประชุมแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ไปปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหยิบยกกรณีการประมูลข้าวโพด ซึ่งพบว่าหลังจากคณะกรรมการฯมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความอำนาจการระบายข้าวโพดของคณะทำงาน ชุดที่แต่งตั้งในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว พบว่าต้องใช้เวลากว่า 6 สัปดาห์ถึงจะนำผลการตีความเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างล่าช้า


สั่งยกเลิกโควต้านำเข้าข้าวโพด


"เรื่องการระบายข้าวโพด สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ คุณภาพของสินค้าที่ไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นในวันที่ 30 พฤษภาคม นี้ ผมจะลงพื้นที่ไปสุ่มตรวจสอบในโกดังสินค้าด้วยตนเอง เพื่อดูว่าสินค้าที่เก็บไว้เป็นอย่างไร"


นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้มีการพิจารณายกเลิกโควต้าการนำเข้าสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 4 แสนตัน ในปี 2552 ตามโครงการคอนแท็คฟาร์มมิ่ง ที่รัฐบาลในอดีตทำร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการเปิดให้นักธุรกิจชาวไทยเข้าไปลงทุนปลูกพืชสินค้าเกษตรเพื่อส่งออกมายังประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าปริมาณข้าวโพดในประเทศไม่ได้ขาดแคลนเหมือนในอดีต ในทางตรงกันข้ามกลับมีปริมาณผลผลิตจำนวนมาก โดยได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงสินค้าเกษตรประเภทอื่นด้วย


บอร์ดอคส.นัด1มิ.ย.ถกปม17บริษัท


สำหรับกรณีปัญหาการระบายข้าวค้างสต๊อคนั้น แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) ที่มีนายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี เป็นประธาน ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะมีการหารือประเด็นเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายข้าวกับภาคเอกชนที่ชนะการประมูล 17 ราย ปริมาณรวม 2.6 ล้านตัน ว่าผู้ซื้อสามารถฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายจาก อคส.ได้ในกรณีใดบ้าง และผู้ซื้อไม่สามารถฟ้องร้องต่อรัฐในกรณีใดบ้าง นอกจากนี้จะหารือประเด็นหากมีการยกเลิกสัญญาซื้อขายที่ได้อนุมัติขายข้าวให้กับผู้ชนะประมูลทั้ง 17 รายแล้ว ใครมีอำนาจในการยกเลิก เนื่องจากเป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา อคส.จะถูกฟ้องร้องกรณีมีสินค้าส่งมอบไม่ตรงกับคุณภาพและปริมาณที่ซื้อขาย

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจดูแลสินค้าเกษตรทั้งระบบ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ต้องรอหารือและรับทราบแนวทางจากนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก่อน คาดว่าจะหารือใน 1-2 วันนี้


นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด หนึ่งในผู้ชนะประมูลข้าวรายใหญ่ กล่าวว่า ได้ติดต่อไปยัง อคส. เพื่อสอบถามเรื่องการรับมอบข้าวที่ประมูลได้ แต่ทางอคส. ขอเวลา 1-2 วัน ก่อนจะให้คำตอบว่าจะสามารถให้เอกชนเข้าไปรับมอบข้าวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางบริษัทฯได้รับการติดต่อจากบุคคลระดับสูงขอให้ชะลอการดำเนินคดีตามกฎหมายในโกดังอื่นที่ยังไม่ได้แจ้งความไว้ก่อน เพื่อรอความชัดเจนในเรื่องนี้