ที่มา ไทยรัฐ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
"เขียว-เหลือง" ไม่ใช่แท็กซี่มิเตอร์
แต่เป็นสีเสื้อใหม่ของค่ายการเมืองภายใต้ยี่ห้อม็อบพันธมิตรฯที่กำลังจะก่อกำเนิดขึ้นเพื่อ "ขายฝัน" การเมืองใหม่
ท้าเดิมพันพรรคต่ำสิบหรือต่ำห้า
ที่น่าสนใจ โดยสีเขียวที่เพิ่มเข้าไปผสมสีเหลืองนัยว่า เป็นพรรคที่สะอาดปราศจากนักการเมืองขี้ฉ้อ แต่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำม็อบพันธมิตรฯที่ยังไม่ได้แวบไปพักฟื้นที่สหรัฐอเมริกา ขึ้นเวทีประกาศแนวทางล่วงหน้า
ตั้งเป้าระดมเงินบริจาคจากสมาชิกขั้นต่ำคนละ 100 บาทต่อเดือน ถ้ามีสมาชิก 1 ล้านคน จะได้เงินเข้าพรรคปีละ 1,200 ล้านบาท
ตัวเลขกลมๆทุกฉบับตรงกัน นักข่าวไม่ได้หูฝาด
พรรคใสสะอาดในอุดมคติการเมืองใหม่ ยังใช้เงินเบื้องต้นอย่างต่ำปีละ 1,200 ล้านบาท มันก็ไม่ต้องพูดถึงพรรคการเมืองตามวิถีธรรมชาติปกติของนักเลือกตั้งอาชีพ จะใช้เสบียงมากมายก่ายกองขนาดไหน
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจกับคิวตุนกระสุนดินดำ
โดยเฉพาะค่ายที่ต้องใส่ปุ๋ย "เร่งโต" อย่างพรรคภูมิใจไทย ในฐานะหอกข้างแคร่ที่ตีคู่ขึ้นมาหายใจรดต้นคอประชาธิปัตย์
วัดกำลังกันระหว่างเขี้ยวโง้งกับเขี้ยวลากดิน
ภายใต้เดิมพันบิ๊กโปรเจกต์รถเมล์เช่าเอ็นจีวีของกระทรวงคมนาคม โครงการปลุกปั้นของกลุ่มเพื่อนเนวินที่ยังยื้อรอเคาะโต๊ะใน ครม.
แต่นาทีนี้ต้องยอมรับว่า กระแสเข้าทางนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุณชายสะอาดของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทั้งวุฒิสมาชิก นักวิชาการไปยันสื่อมวลชน ออกมารับมุกกับการแตะเบรกรถเมล์เช่าเอ็นจีวี
ช่วยกันตีปี๊บ รัวกลอง ดักทางพวกจ้องกินหัวคิว
แม้แต่ฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยก็ออกมาร่วมด้วยช่วยกันขวางคอ เพราะต้องตีกันกระสุนลอตใหญ่ไหลไปอยู่ในคลังแสงของค่ายคู่แข่งอย่างพรรคภูมิใจไทย
แย่งเจาะฐานใหญ่ภาคอีสานกับภาคเหนือ
กลายเป็น "ผ้าป่า" สามัคคี สหบาทา ต่างฝ่ายต่างยื่นขาเสียบสกัดบิ๊กโปรเจกต์รถเมล์เช่าเอ็นจีวีของกลุ่มเพื่อนเนวิน โดยที่ "อภิสิทธิ์" ไม่ต้องออกแรงมากมาย
แต่จะใจถึงขนาด "หักดิบ" กันเลยหรือไม่ ยังมีเวลาวัดใจ หยั่งเชิงกันอีก 10 กว่าวัน
เอาเป็นว่า ถ้ารถเมล์เช่าเอ็นจีวีเบรกแตก รัฐบาลกระเทือนแน่ แต่แรงตกกระทบก็คงจะไปตกหนักอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย
เงินก็ไม่ได้ แถมมีมลทินติดตัว
ทั้งหมดทั้งปวง โดยลูกเขี้ยวยี่ห้อประชาธิปัตย์ อาศัยเหลี่ยมเด้งเชือก ผลักค่ายภูมิใจไทยไปอยู่กลางเวที ท่ามกลางสปอตไลต์ฉายส่อง
เหยียบบ่าเพื่อน โหนกระแสโปร่งใส
แถมยังได้โอกาสตัดท่อน้ำเลี้ยง เตะตัดขา "หอกข้างแคร่" อย่างพรรคภูมิใจไทย
ตีกินทีเดียวสองเด้ง
นี่แหละเรื่องของต้นทุนทางสังคมที่มันแข่งกันไม่ได้
ทั้งๆที่เบื้องลึกเบื้องหลังมันก็ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ โดยความจำเป็นในการสะสมเสบียงเลือกตั้ง
มันก็ต้อง "มือหนัก" ด้วยกันทั้งนั้น
โดยเฉพาะพวกที่ลุ้นเดิมพันเป็นแกนนำจัดรัฐบาล คั่วเก้าอี้นายกฯ
ประชาธิปัตย์ไม่มีทาง "จับเสือมือเปล่า" ได้
เงียบๆไม่ค่อยเป็นข่าวซักเท่าไหร่ กับปมเงินก้อนใหญ่จากรายการซิกแซ็กภาษีเหล้าขาวที่ในวงการน้ำเมากำลังโวยวายมาตรฐานการขยายเพดานภาษีบาปเหล้าเบียร์ของรัฐบาล
ถึงขั้นที่ทายาทเบียร์สิงห์ตระกูลดัง ออกมาตั้งฉายาประชาธิปัตย์
"ลูกจ้างโรงเหล้า"
เอื้อให้นายทุนเหล้าขาวโกยส่วนต่างภาษีหลายพันล้านบาท
นี่แหละ คลังกระสุนใหญ่เลย.
"ทีมข่าวการเมือง" รายงาน