ที่มา ไทยรัฐ
อภิสิทธิ์
"รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ไหว ไม่มีอะไรจะให้อย่างเขา เธอไม่รักไม่รักหรอกคนอย่างเรา ไม่มีอย่างเขาที่เธอต้องการ เรามันน้อยบุญวาสนา ไม่มีปัญญาจะไปแข่งขัน เขาชนะชนะขาดลอยอย่างนั้น จะให้เธอหันมองเราได้ไง
เรามันแค่หิ่งห้อย น้อยแสงหมดแรงสู้ไม่ไหว เขาเป็นดั่งตะวันบนฟ้าไกล ที่เธอมั่นใจให้เขาเป็นคนสำคัญ
รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ไหว แต่ภายในใจก็ยังแอบฝัน วันที่ฟ้าไร้แสงแห่งดวงตะวัน เธออาจจะหันมามองฉันบ้าง วันที่ฟ้าไร้แสงแห่งดวงตะวัน หิ่งห้อยอย่างฉันคงมีความหมาย"
โดยเนื้อเพลง "หิ่งห้อยกับตะวัน" ที่ความหมายลึกซึ้งกินใจ
ถ้าไม่บังเอิญว่า คนที่ร้องคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้า พรรคภาคกลาง ขึ้นเวทีควงไมโครโฟนต่อหน้าบิ๊กๆพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางอารมณ์ คุกรุ่นในเกมป่วนปรับ ครม.
จงใจกระแทกแดกดันกันซึ่งๆหน้า
เล่นเอาเครียดกันทั้งงานสัมมนาพรรคบนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
แต่ที่เครียดหนักเลยก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงทุนนำดอกไม้ไปมอบให้เป็นรางวัล
หวังจะผ่อนคลายบรรยากาศ
แต่นายเฉลิมชัยก็ประกาศศักดา ขย่มต่อหน้านายกฯอภิสิทธิ์นิ่มๆ "ผมกับหัวหน้ามีความสัมพันธ์กัน ดังนั้นดอกไม้ดอกนี้จึงมีความสำคัญกับผมมาก และที่นายกฯพูดว่าผมมี 40 แต่ผมอยากจะบอกความจริงกับหัวหน้า เพราะผมมีมากกว่านั้น"
หมูไม่กลัวน้ำร้อน
"อภิสิทธิ์" น่ะแค่ยิ้มเจื่อน แต่ที่สีหน้าบอกบุญไม่รับเลยก็คือ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้จัดการใหญ่รัฐบาล
ไม่มองแม้กระทั่งหน้าของนายเฉลิมชัย
เบื้องหน้าเบื้องหลังตั้งใจวัดกำลังภายในกันยังไง แหย่กันเล่นๆหรือหยั่งเชิงก่อนเอาจริง ใครทิ่มใคร ใครจ้องล่อใคร
แต่โดยเนื้อในของประชาธิปัตย์ มันหลอกตัวเองไม่ได้ว่า กำลังมีสนิม
ที่แน่ๆกับมุกที่นายกฯอภิสิทธิ์ขึ้นเวทีปลุกใจลูกทีม ปั่นตัวเลขเลือกตั้งรอบหน้า ประชาธิปัตย์หวังกวาด ส.ส. 240 ที่นั่ง เลือกได้อยากเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ก็แค่มุกตลกดับอารมณ์เครียด
ประชาธิปัตย์กระเพื่อมหนักเพราะแย่งกันเป็นรัฐมนตรี ในอารมณ์ที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยก็ยังปั่นป่วนไม่จบ
กั๊กกันเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพรรค
จากชื่อของ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ที่มาแรงในโค้งแรก ก่อนจะแผ่วลงไป พร้อมกับการปล่อยชื่อใหม่ๆอย่างนายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.อยุธยา ประธานวิปฝ่ายค้าน ไปยันนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส. ยโสธร มือกฎหมาย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีต รมว.ยุติธรรม หรือคนนอกอย่างนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกฯ นายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง ก็ยังโผล่เข้ามาอยู่ในโผ
โชว์ตัวเช็กเรตติ้งไม่ซ้ำหน้า
สรุปว่า ยังปิดกล่องไม่ลง
แนวโน้มก็อย่างที่นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค แบะท่า ถ้ายังเคลียร์กันไม่จบก็อาจต้องเลื่อนคิวประชุมใหญ่เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
อย่างว่า มวยเอกก็ไม่กล้าเสี่ยง "โดนล้างน้ำสาม" พวกที่เสนอหน้าก็แค่พวกมวยวัด
หาจุดลงตัวลงล็อกไม่เจอ
แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยยุทธศาสตร์การปรับเกมรบใหม่ เพื่อหลบเลี่ยงสงครามล้างเผ่าพันธุ์ โดยรูปการณ์ของลูกข่ายนายใหญ่ หนีไม่พ้นต้องแตกตัวเป็นพรรคเอสเอ็มอี ค่ายขนาดกลาง และขนาดเล็ก
เลี่ยงเป็นเป้าใหญ่
ถึงที่สุดอาจแยกกันไปตั้งค่าย ปักหลักลุยกันไปเลยคนละภาค เน้นเป้าได้ชัวร์ๆในอีสาน ภาคเหนือ และกรุงเทพฯกับภาคกลาง
แยกกันตีแล้วไปรวมกันจัดรัฐบาล.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน