ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
ปรับเล็กวุ่นน้อย ปรับใหญ่วุ่นมากคือสัจธรรมในการปรับ ครม. ไม่ว่าจะรัฐบาลชุดไหนๆ
โดยเฉพาะกับรัฐบาลผสมที่ประ กอบด้วยพรรคการเมืองและนักการเมืองร้อยพ่อพันแม่
การปรับครม.แต่ละครั้งจะมีความยุ่งยากซับซ้อน คล่องตัวน้อยกว่าการเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือรัฐบาลผสมน้อยพรรคที่คนเป็นนายกฯ มักมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
ในการเอาคนเข้าคนออกได้มากกว่า
รัฐบาลพรรคไทยรักไทยสมัย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ อยู่มา 6 ปีปรับครม.มากกว่า 10 ครั้ง คือตัว อย่างที่เห็นได้ชัดเจน ถึงจะกระเพื่อมบ้างแต่ก็น้อย
ด้วยความจริงดังกล่าวทำให้นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจปรับ ครม.ครั้งแรกเพียงเก้าอี้เดียว
อันมีต้นสายปลายเหตุจากการที่พรรคภูมิใจไทยกดดันนายชาติชาย พุคยาภรณ์ จนต้องลาออกจากรมช. เกษตรฯ
เพื่อเปิดทางให้เด็กชุบเลี้ยงของ"ขาใหญ่"ประจำซอยเสียบแทน
ตอนแรกพรรคประชาธิปัตย์ก็เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายตามไปด้วย ยังดีที่"อภิสิทธิ์-สุเทพ"จบปัญหาได้เร็ว
นี่ก็เรื่องหนึ่งทำให้ใครต่อใครหลายคนสงสัย ว่าพรรคภูมิ ใจไทยคิดทำอะไรอยู่
บวกกับความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างผิดปกติในหมู่นักการเมืองต่างถิ่น ซึ่งไปปรากฏตัวที่พรรคภูมิใจไทยโดยไม่เกรงใจต้นสังกัด
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งก็ยังไปร่วมสังสรรค์กับน้องชายขาใหญ่ จนมีข่าวกระฉอกว่าพรรคภูมิใจไทยกำลังเร่งเครื่อง"ดูด"ส.ส. เข้าพรรคแบบเต็มสูบ
ผสมกับปฏิบัติการ"ดึงอ้อยจากปากช้าง"กรณีเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน และยังมาซ้ำรอยกับโครงการการระบาย สต๊อกข้าวและสินค้าเกษตรของกระ ทรวงพาณิชย์
ทำให้หลายคนจับตาว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่อย่างไร
นักการเมืองได้กลิ่นเลือกตั้ง ก็เหมือนฉลามได้กลิ่นคาวเลือด
จากที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ก็คึกคักผิดหูผิดตา
ในการประชุมพรรคภูมิใจไทยวันก่อน ข่าวแจ้งว่าแกนนำสั่งจัดทัพจัดแถวเตรียมตัวรับเลือกตั้งกันแล้ว ซีกฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน
พรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งสัญญาณด่วนให้ลูกพรรคลงเกาะติดพื้นที่
อย่างนี้แล้วต่อให้อมพระมาพูด ว่ารัฐบาลยังไม่คิดจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่เร็วๆ นี้
ก็เลยไม่อยากจะเชื่อ