WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, April 25, 2010

ทั้งเจ็บทั้งอาย!ซูจีเหน็บพม่าตามก้นเผด็จการไทย อินโดฯจี้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจจัดเลือกตั้งใหม่

ที่มา Thai E-News



อนาคตประเทศไทย..-[ภาพซ้าย]เด็กน้อยไร้เดียงสาที่เข้าร่วมกิจกรรมม็อบหลากสีที่สวนจตุจักรวานนี้ เรียกร้องรัฐบาลปราบปรามเสื้อแดงเด็ดขาดภายใน 7 วัน(ภาพ:เวบผู้จัดการ) [ภาพขวา]เด็กน้อยไร้เดียงสายังเพลินเล่นอยู่ในบริเวณที่ชุมนุมคนเสื้อแดง ย่านราชประสงค์วานนี้ ขณะที่วิกฤตการณ์ทวีความตึงเครียดขึ้นและนำไปสู่หนทางตัน เมื่อรัฐบาลได้ปฏิเสธข้อเสนอเพื่อการรอมชอมจากคนเสื้อแดง ซึ่งต่อมาได้ประกาศพร้อมจะต่อสู้อย่างเต็มที่(ภาพข่าว:AFP)


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา มติชนออนไลน์
25 เมษายน 2553

สำนักข่าวต่างประเทศยังคงเกาะติดสถานการณ์การเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนใหญ่จะเห็นว่าสถานการณ์ตึงเครียดผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากมีความพยายามจะเปิดการเจรจารอบใหม่กันขึ้น ก็ยังมีสื่อต่างประเทศบางส่วนเห็นว่า ความพยายามที่จะสลายการชุมนุมยังคงมีอยู่

ซูจีเปรยได้เจ็บพม่ากำลังตามก้นไทยแล้ว

นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของประเทศพม่า ได้แสดงจุดยืนวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ของรัฐบาลทหารพม่า โดยเปรียบเทียบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

"รัฐบาลใหม่ที่ขึ้นมามีอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งเขียนโดยกองทัพนั้นจะไม่มีทางมีเสถียรภาพ ไม่ต้องดูอื่นไกล เราดูแค่สถานการณ์ในไทยก็ได้ ทักษิณคือผู้ที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา แต่กองทัพกลับยึดอำนาจจากคนที่ชนะการเลือกตั้ง แล้วรัฐธรรมนูญก็ถูกเขียนขึ้นมาใหม่โดยทหาร"
นายยาน วิน อ้างคำกล่าวของนางซูจี

"หลังจากนั้น อะไรเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดแรกภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ของไทย? รัฐบาลชุดนั้นไร้เสถียรภาพ นี่คือผลที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยกองทัพ"
นางซูจีกล่าวในที่ประชุม

ชาติอาเซียนผ่าทางตันตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจเลือกตั้งใหม่

หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับกองทัพไทยผู้หนึ่งระบุว่า การชุมนุมที่แยกราชประสงค์จะถูกแก้ไขแล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมงนี้ โดยรายงานชิ้นเดียวกันนี้ระบุว่า รัฐบาลกำลังได้รับแรงกดดันจากหลายๆ ด้านให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดกรณียิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่พื้นที่สาธารณะที่ถนนสีลมก่อนหน้านี้

ทางด้านนางเหงียน ฟอง งา โฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม เป็นประเทศล่าสุดที่แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในไทย โดยระบุว่า ทางการเวียดนามในฐานะประธานอาเซียนขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในไทยใช้ความอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงจากความรุนแรงและแก้ไขความขัดแย้งด้วยการเจรจาอย่างสันติ เพื่อนำประเทศกลับสู่ความมีเสถียรภาพที่จะยังประโยชน์ให้แก่ชาวไทยทั้งมวล

ทางด้านสำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซียเผยว่า นายอับดิลเลาะห์ โทฮา อดีตประธานองค์การความร่วมมือระหว่างรัฐสภา (บีเคเอสเอพี) ของอินโดนีเซีย ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกของอาเซียน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย รีบให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ในไทยโดยเร็ว

นายโทฮาระบุว่า สมาชิกอาเซียนที่ประกอบด้วย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งไม่ได้มีชายแดนติดกับไทย ควรรวมตัวกันเป็นทีมเฉพาะกิจ กระตุ้นให้เกิดการเจรจากันระหว่างฝ่ายขัดแย้งในไทย เพื่อหาทางออกที่คู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับ ซึ่งอาจจะเป็นการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป โดยมีคณะกรรมการนานาชาติทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบการเลือกตั้งที่อาจจะจัดขึ้นในช่วงเวลาที่คู่ขัดแย้งเห็นตรงกันระหว่างเวลานี้เรื่อยไปจนถึงเดือนธันวาคมปีนี้ โดยระหว่างนั้นควรจัดให้มีรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมกันทำหน้าที่บริหารประเทศชั่วคราว

ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ของเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (ANFREL)

อันเฟรลเสนอทางออกและแผนการเลือกตั้ง ชี้วิน-วินทุกฝ่าย

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรีนำเสนอโรดแมพสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าให้พิจารณา โดยระบุว่าเป็นทางออกที่ชนะทุกฝ่าย

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Elections or ANFREL) เผยแพร่แถลงการณ์ว่าด้วย ทางออกและแผนการการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมให้กับรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเท่าเทียมกัน มีรายละเอียดดังนี้

0000


แถลงการณ์

Road Map for Peaceful Solution and Win/Win Game
for Thai Government and Red Shirts
17 เมษายน 2553


เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Elections or ANFREL)ทางออกและแผนการการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ให้กับให้กับรัฐบาลและกลุ่มเสื้อแดง

หลายฝ่ายได้เสนอให้เปิดการเจรจารอบที่สามระหว่าง รัฐบาลไทยและผู้แทนคนเสื้อแดง ทางอันเฟรลเชื่อมั่นว่าสังคมไทยมีทางออก โดยสามารถจัดทำแผนการการลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมให้กับรัฐบาลและกลุ่มเสื้อแดงอย่างเท่าเทียมกัน

ซึ่งข้อเสนอดังต่อไปนี้น่าจะเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย และเดินหน้าเลือกตั้งได้อย่างอิสระเสมอภาคโดยประชาชนไทยต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยโดยไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ด้วยความเชื่อมั่นที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรง

เนื่องด้วยคู่กรณีอาจจะกังวลว่าการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฏรในครั้งต่อไปนี้จะทำให้รัฐบาลได้เปรียบกว่าพรรคการเมืองที่ฝ่ายเสื้อแดงสนับสนุนอยู่ เพราะรัฐบาลอาจจะใช้กลไกของรัฐอำนวยความสะดวกให้ตนได้คะแนนเสียงมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็เกรงว่าจะลงพื้นที่เลือกตั้งไม่ได้ในทุกจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดต่างๆในภาคเหนือและอีสาน ซึ่งเสื้อแดงเองก็กังวลเช่นกันว่าอาจจะลงไปหาเสียงภาคใต้ไม่ได้ ส่วนประชาชนและผู้สมัครรับการเลือกตั้งและหัวคะแนนก็เกรงกลัวอย่างยิ่งว่าจะเกิดความรุนแรงปะทะกันระหว่างการหาเสียง หรือในวันเลือกตั้ง อันเป็นผลพวงจากความขัดแย้งที่ฝังลึกเป็นความเกลียดชังอยู่ในขณะนี้

ซึ่งเป็นความกังวลที่จะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากกลัวความรุนแรงจนไม่อยากออกมาใช้สิทธิเช่นกัน และนั่นย่อมจะทำให้ผู้จัดการเลือกตั้งทุกจังหวัดประสบความล้มเหลว เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้จนทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับ หรือต้องมีการเลือกตั้งใหม่มากมายในหลายจังหวัด บรรยากาศการเมืองในระยะเปลี่ยนผ่านดังนี้เป็นประสบการณ์ที่ประเทศไทยและในหลายประเทศกำลังประสบปัญหานี้มาตลอด

เพื่อไม่ให้เหตุการณ์การสูญเสียในชีวิตและเงินงบประมาณของรัฐ และเพื่อให้เกิดบรรยากาศความสมานฉันท์ ก่อนการยุบสภา จึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายถอยกันคนละก้าวเพื่อเปิดทางให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการเมืองของประเทศไทย โดยยอมให้มีการจัดตั้งกลไกเพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมกับพรรคเล็กและฝ่ายค้านเป็นสำคัญ เพราะรัฐบาลย่อมมีความได้เปรียบอยู่แล้ว โดยมีขั้นตอนที่ประเทศต่างๆได้นำมาใช้เป็นกลไกให้เกิดการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วดังนี้

ทั้งสองฝ่ายต้องยุติความขัดแย้ง เริ่มต้นด้วยการเจรจาเรื่องกลไกการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมก่อนการยุบสภา และต้องให้เวลาในการจัดกลไกต่างๆเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม

กลไกดังกล่าวอาจจะเป็นการให้มี พรบ.พิเศษ กำหนดให้มีคนกลางขึ้นมาสร้างความเป็นธรรมในการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับของสังคม ที่เรียกว่า Non Party Care Taker Government หรือรัฐบาลรักษาการณ์ (1) ขึ้นมาคุมอำนาจในทุกกระทรวง เป็นระยะเวลา60 วันก่อนการเลือกตั้ง และ 30 วันหลังการเลือกตั้งเพื่อสร้างสูญญากาศให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนสู่พรรคตนเอง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะตกอยู่ในสภาวะพรรคการเมืองและผู้สมัครรับการเลือกตั้งธรรมดาๆ ทำการหาเสียงเลือกตั้งในระยะเวลา 60 วันนี้เท่านั้น รัฐบาลรักษาการณ์จะไม่มีอำนาจสั่งการให้ผู้ใดทำการเอื้อประโยชน์แก่ตนในการหาเสียงอย่างเด็ดขาด รัฐบาลรักษาการณ์น่าจะมีมากกว่า 10 คนจะคุมเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างๆ ให้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชนตามปกติ เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรือเกรงกลัวผู้แทนจากรัฐบาลรักษาการณ์เพราะไม่ใช่นักการเมือง (ข้อเสนอนี้มาจากการศึกษาการแก้ปัญหาในประเทศบังคลาเทศและใช้ปฏิบัติมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้)

ในเนื้อหาของการเจรจา ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องมีข้อตกลง เป็นสัญญาประชาคมที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในทุกพื้นที่ ไม่มีการหมายหัว หรือคิดลอบทำร้าย โดยผู้แทนทุกภาคส่วนร่วมเป็นสักขีพยาน และเป็นหน้าที่ของพรรค และคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องทำหน้าที่แจกจ่ายข้อตกลงดังกล่าวให้สมาชิกพรรค หัวคะแนน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้รับรู้อย่างทั่วถึงกัน ใครละเมิดข้อตกลงนี้จะต้องโทษมากเป็นพิเศษกว่าปกติ

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งบทบาทของสื่อมวลชนจะต้องร่วมมือกันขอความร่วมมือให้หน่วยงานต่างๆ ป่าวประกาศให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงกันเพื่อเปิดโอกาสให้ คนไทยทุกคน ต้อนรับพรรคทุกพรรคที่ลงไปหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่สร้างอุปสรรคใดๆ หรือใช้ความรุนแรงเข้าสกัดการเดินทางลงไปเยี่ยมเยียนประชาชน ห้ามไม่ให้ใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด หรือกลไกใดๆกีดกันการเดินทางลงพื้นที่อย่างเสรี ทั้งนี้ถือว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นขั้นตอนของการสมานฉันทน์ของคนไทยทั้งชาติในเวลาเดียวกัน

เมื่อเจรจาตกลงทำความเข้าใจกันได้แล้ว ทุกพรรคการเมืองจะต้องให้มีการทดลองลงพื้นที่ใน 76 จังหวัด ได้อย่างอิสระ ด้วยตราพรรค ชื่อพรรค ตัวบุคคล ตัวจริงเสียงจริง รวมทั้งผู้แทนของพรรคคนอื่นๆ เพื่อทดสอบความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมัน ลดความเกลียดชัง ทั้งนี้เพื่อให้สภาวะทางการเมืองกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างแท้จริงและเพื่อไม่ให้มีการเสียเลือดเนื้อแม้แต่น้อยนิด

กกต. และ คู่ความขัดแย้งทั้งสองฝ่าย รวมทั้งบทบาทของสื่อมวลชนจำเป็นจะต้องดูแล ตรวจสอบไม่ให้มีการใช้อำนาจอิทธิพล จากกลุ่มการเมืองระดับต่าง ๆ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระสงฆ์ ผู้นำศาสนา หรือข้าราชการ นักธุรกิจ ผู้ทรงอิทธิพลท้องถิ่นอื่นๆ หรือสื่อมวลชนเองให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ทำหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทำการข่มขู่ ให้สัญญาผลประโยชน์ก่อนและหลังการเลือกตั้ง ผู้ละเมิดกฏกติกาสัญญา จะต้องได้รับโทษอย่างจริงจังโดยไม่มีการยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติอันเนื่องจากความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง

การซื้อเสียงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องจับตามองเป็นพิเศษในทุกการเลือกตั้ง แต่เนื่องจากครั้งนี้จะมีการแข่งขันกันสูงมาก จนถึงกับมีเดิมพันชีวิต และอนาคตทางการเมืองของตนเอง จึงเห็นว่าควรจะลงโทษผู้ละเมิดกฏหมายในความผิดดังกล่าวทั้งผู้ซื้อเสียงและขายเสียง อย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยปละเหมือนดังที่ผ่านมา ด้วยความเห็นใจว่าผู้รับเงินนั้นเป็นคนยากคนจนจึงปล่อยให้รับเงินจนเคยชินและคิดว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

ในขณะที่มีการดำเนินการดังกล่าวนั้น ทุกพรรคและทุกภาคส่วนควรให้มีการประชุม หาทางปฏิรูปสังคม ปรับโครงสร้างเพื่อประชาชนไปพร้อมๆ กัน เพื่อมิให้ประเด็นดังกล่าวถูกลืมเลือนไปในอนาคต และเพื่อเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงใจของนักการเมืองทุกคน และเป็นโอกาสที่ภาคประชาชนได้แสดงออกในประเด็นสำคัญต่างๆ เพราะประเทศเป็นของทุกคน มิใช่เป็นของผู้นำไม่กี่กลุ่ม

เสนอให้มีการจัด ศาลเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง การพิจารณาคดีการเลือกตั้งควรมีความรวดเร็วและเป็นธรรม กกต. จะมีบทบาทหน้าที่เพียงการจัดการการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพแต่สามารถพิจารณาตัดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งเบื้องต้นได้

อนึ่งขอให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริงว่า เราได้สูญเสียเลือดเนื้อชีวิต เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เสียโอกาสในการพัฒนาประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรงไปมากแล้ว การให้เวลาเพื่อต่อยอดในสิ่งที่สูญเสียไปนั้นไม่ถือว่าเป็นการซื้อเวลาให้ใครทั้งสิ้น ควรคำนึงว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการให้เวลาแก่ตนเองอย่างมีนัยสำคัญให้โอกาสประเทศชาติ และให้บทบาทคนทั้งประเทศในการมีส่วนร่วมปรับเปลี่ยนสังคมไทยให้คุ้มค่ากับชีวิตของผู้สูญเสียไป

ทั้ง 8 ข้อนี้ควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างถาวรในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งใดๆ และได้โปรดพิจารณาเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคมไทย


สมศรี หาญอนันทสุข

ผู้อำนวยการบริหารของอันเฟรล



----------------------
<1>ศึกษารัฐบาลรักษาการณ์ของประเทศบังคลาเทศเป็นต้นแบบ, CHAPTER IIA (of the Bangladesh Constitution)