WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, May 30, 2010

วิกฤตซึมลึก "มาร์ค"ลากยาว

ที่มา ข่าวสด



บรรยากาศประเทศไทยหลังสลายม็อบ 19 พฤษภาคม เน้นไปที่การเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์

ฟื้นฟูสภาพของกรุงเทพฯ และจังหวัดที่ถูกเผาศาลากลางและสถานที่ราชการ

ดำเนินคดีกับแกนนำเสื้อแดงหลายระดับ

เป็นการเยียวยาและฟื้นฟูในเรื่องของทรัพย์สิน อาคารสถานที่ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณมหาศาล ทั้งภาครัฐและเอกชน

และใช้เวลาอีกนับเดือนนับปี กว่าจะกลับเข้าสู่ปกติ

แต่ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงกันมากนัก ก็คือการเยียวยาและฟื้นฟูในทางการเมือง

การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิป ไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือนปช.ที่ยุติลงด้วยการสลายม็อบและเผาเมืองเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ส่งผลเสียหายทางใจยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าความเสียหายทางทรัพย์สิน

ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจระหว่างพี่น้องร่วมชาติถูกลดทอนลงไป ความคิดเห็นที่แตกต่างขยายกลายเป็นความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์

เพิ่มความรู้สึกเหลื่อมล้ำต่ำสูงระหว่างคนต่างฐานะ และระหว่างคนเมืองกับชนบท

ทั้งหมดเป็นโจทย์ที่ยากยิ่งสำหรับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แม้นายกฯ อภิสิทธิ์ได้ประกาศว่า จะเดินหน้าแผนปรองดอง เพื่อแก้ไขความขัดแย้งแตกแยก

เตรียมตั้งคณะกรรมการ คณะทำงานกันหลายชุดอย่างใหญ่โต

แต่ก็ยังไม่มีใครมั่นใจว่ารัฐบาลจะแก้โจทย์นี้ได้สำเร็จ

เพราะโจทย์การเมืองระดับนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดการอภิปราย

แต่จะต้องแก้ด้วยการลงมืออย่างจริง จัง ลดละอคติ ผลประโยชน์ทางการเมือง

และมีจิตใจที่เปิดกว้างอย่างแท้จริง

**********

สิ่งหนึ่งที่จะนำไปสู่การปรองดอง ลดรอยร้าวของคนในชาติได้ ก็คือการสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการชุมนุมของนปช.

ประเด็นปริศนาทั้งหลาย จะต้องตีแผ่ออกมาอย่างเสมอภาคและตรงไปตรงมา

หากพบว่ามีการกระทำผิด มีการใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายตามแนวของ "นิติรัฐ" ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ประกาศแนว ทางไว้

ใครคือ "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" ที่ยิงเอ็ม 79 สังหารเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยซุ่มยิงที่สังหารผู้ชุม นุมนปช., มือมืดที่สังหารชาวสีลม, มือสังหารที่ยิงทหารกองพล 9 ที่ดอนเมือง

หน่วยซุ่มยิงที่สังหาร พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล, กองกำลังที่ยิงเอ็ม 79 และขว้าง ระเบิดใส่ทหารเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม และใครคือผู้สังหารนปช. 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม

รวมถึงมือเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โรงภาพยนตร์สยาม ห้างเซ็นเตอร์วัน และสถานที่อื่นๆ ฯลฯ

จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย และจะเป็น ผลเสียต่อรัฐบาลด้วยซ้ำ หากรัฐบาลตั้งกรรม การสอบสวน แต่ผลออกมาไม่มีความน่า เชื่อถือ

เพราะไม่ได้กระทำอย่างตรงไปตรงมาหรืออาจใช้วิธีการ 2 มาตรฐาน

เหมือนกับที่รัฐบาลใช้ข้อหาก่อการร้ายเล่น งานผู้ชุมนุมนปช. เร่งรัดคดีให้คืบหน้าได้อย่างรวดเร็ว

แต่กลับเตะถ่วงคดียึดสนามบินสุวรรณ ภูมิอย่างน่าเกลียด

ปัญหาคือ รัฐบาลมีความพร้อมที่จะให้มีการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างอิสระและตรงไปตรงมาหรือไม่

เพราะเพียงแค่สื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็ยังโดนข่มขู่คุกคามเสียแล้ว

หรือว่ารัฐบาลต้องการใช้กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง มาฟอกตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้นเอง

เพื่อจะได้ลากยาว อยู่ในอำนาจต่อไป

******

ในแวดวงพรรครัฐบาล ทราบกันทั่วไปแล้วว่า พรรคแกนนำจะ "ลากยาว" ต่อไป

เฉพาะหน้าจะต้องผลักดันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2554 ให้ ผ่านไปให้ได้ และขณะนี้ผ่านวาระ 1 ขั้นรับหลักการไปแล้ว อีกเรื่องคือการโยกย้ายข้าราชการ

แต่ประเมินได้ว่า เส้นทางของการลากยาวจะไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะหากรัฐบาลยังไม่วางตัวเป็น "คนกลาง" ในความขัดแย้ง แต่ลงไปเป็นคู่ขัดแย้ง เสียเอง

การเยียวยา การฟื้นฟูที่ดำเนินการขณะนี้ ยังมีเสียงวิจารณ์ว่า มีการเลือกปฏิบัติ เลือกเยียวยา

วิกฤตทางการเมืองของประเทศไทยขณะนี้ เกิดจากความผิดพลาดหลายประการ

เริ่มจากการบริหารแบบเหลิงอำนาจในยุครัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร, การรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549, การแทรกแซงการเมืองโดยกลุ่ม ผู้มีบารมีและกองทัพ ฯลฯ

กลายเป็นความไม่เป็นธรรมที่ผลักไสผู้คนให้หันไปเข้าร่วมกับนปช.จนเติบใหญ่แข็งกล้า

ความผิดพลาดล่าสุดคือ การใช้ทหารเข้าสลายการชุมนุม จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

และรัฐบาลซึ่งเป็นผู้สั่งการพยายามอยู่ในอำนาจต่อไป แทนที่จะพิจารณาตนเอง เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านปลายเดือนนี้ น่าจะทำให้รัฐบาลได้มองเห็นข้อ เท็จจริงมากขึ้น และได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์

หรืออาจจะกลายเป็นสงครามน้ำลายในสภาอีกครั้ง

ที่แน่นอนก็คือ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ได้กลายเป็นวิกฤตที่จะ "ซึมลึก" ไปเรื่อยๆ

จะเกิดการปะทุแตกหักเมื่อไหร่ หรือระเบิดออกมาอีกครั้งหรือไม่

สวิตช์และชนวนล้วนแต่อยู่ในมือรัฐบาลนั่นเอง