ที่มา บางกอกทูเดย์ การเมืองคือเรื่องของ “อำนาจ” ใครบ้างเมื่อมีอำนาจทางการเมืองที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้วยังต้องการ “ยืมจมูก” บุคคลอื่นเพื่อหายใจ ภาพความแตกแยก “ระส่ำระสาย” ภายในรัฐบาลหลังการ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” โดยมีตัวประกอบคือ “พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล” กับ “พรรคร่วมรัฐบาล” สุดท้ายคงไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากการ “ขัดแข้งขัดขา” กันเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง...ซึ่งต่างฝ่ายต่างพยายาม “ขี่คอ” ฝั่งตรงข้าม เมื่อสบโอกาส มิเช่นนั้น กระทรวง ทบวง กรม จะถูกจับให้กลายเป็น “สินค้า” เพื่อไว้ต่อรองและแลกเป็น “ตัวเงิน” ที่ถูกใจอย่างนั้นหรือ? ถามว่า...วันนี้ “พรรคประชาธิปัตย์” กับ “พรรคภูมิใจไทย” ซึ่งเป็นแกนหลักในรัฐบาล...พวกเขาจะยังคง “เชื่อมั่น” ซึ่งกันและกันต่อไปหรือไม่? ถามว่า...วันนี้ “พรรคประชาธิปัตย์” กับ “พรรคภูมิใจไทย” พร้อมหรือยังที่จะแยกจากกัน...ต่างคนต่างหาพื้นที่กันเองเพื่อยืดคอ “สูดอากาศหายใจ” มันจะเป็นการเร็วไปหรือไม่ที่ต้องมีการ “หักดิบ” ทางการเมือง...เพื่อให้พรรคการเมืองทั้งสองสามารถเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะการเยียวยาในเรื่อง “วิกฤติศรัทธา” ของประชาชน และการบริหารประเทศ ที่ไม่ได้เรื่อง เพราะผลกำไรทางการเมืองไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชน สำหรับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” วันนี้เขาเดินมาไกลกว่าเมื่อปีที่แล้วที่ยังเป็น “เด็กในโอวาท” และ “เชื่อฟังคำสั่ง” นักการเมืองรุ่นพี่เพื่อก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางทางการเมือง และสำหรับ “เนวิน ชิดชอบ” วันนี้เขายังคงเดินบนเส้นทางแห่งอำนาจ อย่าง “เสมอต้นเสมอปลาย” โอนอ่อนผ่อนตามไปตามทิศทางลม...และเขารู้ว่า “การเมือง” ควรเดินหน้าหรือถอยหลังไปทางใด เมื่อผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ทางการเมืองทั้งสองคน “ใหญ่โต” เกินกว่าที่จะอยู่ร่วมถ้ำเดียวกัน...เพราะต่างคนต่างเชื่อว่าตัวเองมี “ศักยภาพ” และ “ปีกกล้าขาแข็ง” พร้อมบินเดี่ยว คงต้องมีสักคน ที่เป็น “ฝ่ายไป” และจะเกิดการผลักมิตรเป็นศัตรู...กระทั่งกลายเป็นนักการเมือง “ฝ่ายตรงข้าม” สองขั้วจะเกิดการ “สู้รบปรบมือ” ด้วยอำนาจล้นในมือที่ขุดขึ้นมาเพื่อทำลายล้างกันอย่างที่พวกเขาเคย “ร่วมมือ-ลงขัน” ทำกันวันนี้ เรื่องของเขา...แต่เราต้องสนใจ เพราะยังมีอีกพรรคการเมืองที่น่าจับตามอง!