WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, June 1, 2010

'อนุดิษฐ์' ซัดรัฐบาล สั่งทหารยิงกระสุนจริง

ที่มา ไทยรัฐ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ

ตั้งข้อหาสั่ง อากาศยานบินล่วงเขตพระราชฐาน โชว์ภาพไอ้โม่งปะปนทหารเข้าสลายชุมนุม ด้าน “อภิสิทธิ์” รีบแจงข้อหาปิดกั้นข่าวสาร รับต้องพยายามตอบโจทย์กองกำลังติดอาวุธ...

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายของนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าได้ให้นโยบายชัดเจนกับช่อง 11 ให้ถ่ายทอดตลอดการอภิปราย และส่วนใหญ่ได้รับแจ้งมาว่ารับชมได้ ไม่มีความพยายามสกัดกั้นเพราะตนมีจุดยืนมาตลอดว่าต้องเปิดให้ฝ่าย นิติบัญญัติตรวจสอบฝ่ายบริหารได้ แนวคิดการบริหารตลอดเหตุการณ์ของรัฐบาลไม่มีเรื่องโกรธแค้น และไม่เชื่อว่าการใช้กำลังจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และเน้นย้ำมาตลอดว่ากลุ่มเสื้อแดง และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. เป็นผู้ก่อการร้ายล้มเจ้าทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า แม้ศาลจะชี้ชัดว่าการชุมนุมดังกล่าว ไม่ใช่การชุมนุมโดยสันติ ไม่ได้คิดตามอำเภอใจ และการดำเนินการของรัฐบาลนี้ต่างจากรัฐบาลในอดีต ทั้งเหตุ 14 ต.ค.2516, 6 ต.ค.2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ไม่มีเจตนาเข้าสลายการชุมนุมในพื้นที่ชุมนุมหลักอย่างแยกราชประสงค์ และการขอคืนพื้นที่ หรือกระชับพื้นที่ไม่ใช่การคิดคำพูด แต่เป็นการวางแนวทางที่ไม่ใช่การเข้าปราบ หรือสลายชุมนุมถึงแม้จะสูญเสียมาก แต่ก็เป็นพื้นที่รอบนอกการชุมนุม ไม่ใช่พื้นที่หลักอย่าง ราชประสงค์

นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า รัฐบาลต้องพยายามตอบโจทย์เรื่องกองกำลังติดอาวุธ รวมถึงการละเมิดสิทธิผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้คงพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อจะกวาดล้างพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม แต่รัฐบาลต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันก็พยายามดำเนินตามแผนปรองดองกับประชาชนที่เห็นต่าง ที่ต่อไปสังคมจะได้รับรู้ถึงความรับผิดชอบทางการเมืองของตนจะต้องมี ไม่ใช่โยนไปให้ศาลรับผิดชอบทั้งหมด อย่างที่สมาชิกตั้งคำถาม โดยตรงนั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องมีคำตอบ สำหรับตนที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้ว่าควรจะเป็นอย่างไรต่อมา

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายว่า การสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย. ถือว่านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ออกคำสั่งสลายการชุมนุม โดยกระทำการเกินสมควร ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักสากล และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลพยายามสร้างตัวละคร สร้างหลักฐานเชื่อมโยงไอ้โม่งเพื่อโยนผิดแกนนำ จะได้สร้างความชอบธรรมต่อการสั่งปราบปรามประชาชนของรัฐบาล จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ที่รัฐบาลพยายามตอกย้ำเรื่องผู้ก่อการร้าย มีกองกำลังไอ้โม่งชุดดำเข้าร่วมก่อเหตุ

ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ตนมีหลักฐานหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า มีการประกอบกำลังทหารกับกองกำลังนอกเครื่องแบบ โดยเฉพาะในวันที่ 10 เม.ย. รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ. ไม่ได้ทำตามหลักสากล 7 ขั้นตอน จากเหตุเสียชีวิตของนายเกรียงไกร คำน้อย อดีตทหารเกณฑ์ในกองทัพเรือ ที่มีพยานยืนยันว่าถูกยิงด้วยกระสุนจริงในช่วงกลางวันแสกๆ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ก่อนที่นายกฯจะประกาศใช้กระสุนยาง โดยมีหลักฐานชัดเจนว่า มีการระดมอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนทราโว และอาวุธสงครามอื่นมาถล่มผู้ชุมนุม ตรงนี้ผู้ที่มีส่วนสั่งการจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาตรา 17

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงการใช้กระสุนจริงของเจ้าหน้าที่รัฐว่า คำสั่งศอฉ.ให้ทหารใช้กระสุนจริงยิงปืนขึ้นฟ้าได้นั้น แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ ออกคำสั่งประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เพราะผลการศึกษาระบุว่า กระสุนที่ยิงจากปืนเอ็ม 16 มีความเร็วต้น 3,000 กม./ชั่วโมง ไปได้ไกล 4 กม. มีความเร็วช้าสุดเมื่อตกลงสู่พื้นที่ 400 กม./ชั่วโมง ให้เทียบกับท่านเอาหัวออกไปนอกรถที่วิ่งด้วยความเร็วขนาดนั้นแล้วเอาก้อนหิน ขว้างใส่ ถามว่าท่านจะตายไหม ขณะเดียวกันยังมีการโยนแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ไม่รู้ว่าคนสั่งการเอาสมองส่วนไหนคิด เพราะเล็งเห็นได้ว่าจะทำให้ผู้ที่โดนอาจบาดเจ็บหรือตายได้ ตามหลักสากลถึงจะยิงกระสุนยางก็ต้องยิงต่ำกว่าช่วงเอวลงมา แต่ภาพที่ปรากฏมีผู้ถูกกระสุนยางที่ใบหน้าหลายคน มีการใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ประชาชนเหมือนพวกเขาเป็นอาชญากรที่ต้องจับตาย และวันนั้นมีการยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้ากี่พันกี่หมื่นนัด ทั้งที่ประเทศที่พัฒนาแล้วสั่งห้ามเด็ดขาด

ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่คนไทยอภัยให้ไม่ได้คือ การละเมิดเขตห้ามบินในเขตพระราชฐาน ที่นักบินทุกคนต้องจำใส่กระบาลว่า ห้ามทำการบินในรัศมี 1 ไมล์ทะเลในเขตพระราชฐาน คือพระราชวังจิตรลดารโหฐาน ซึ่งรวมไปถึงรพ.ศิริราช ที่ทั้ง 2 พระองค์ประทับอยู่ด้วย แต่ก็ยังมีคำสั่งให้อากาศยานทำการบินในพื้นที่นั้น ทราบมาว่าทางสำนักพระราชวังกำลังขอให้เพิ่มเพดานบินไปถึงขีดสูงสุดหรืออันลิมิต

“ที่เลวร้ายสุดคือ อนุญาตให้ทหารยิงปืนขึ้นฟ้า ทั้งที่ไม่สามารถบังคับวิถีกระสุนได้ ซึ่งอาจพลาดไปโดนอากาศยาน ทั้งนี้มีรายงานว่า มีอากาศยานถูกยิง แต่มีความพยายามกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นคนยิง แต่ตนเชื่อว่าประชาชนคงรู้ว่าฝีมือใคร ถือว่าเป็นความประมาท ละเลย เลินเล่อต่อการถวายความปลอดภัย และในวันดังกล่าว แทนที่จะสั่งยุติการสลายชุมนุมเมื่อถึงเวลา 18.00 น. แต่กลับให้เดินหน้าต่อ ทหารทุกคนรู้ดีว่าจะก่อให้เกิดความเสียสูญเสียอย่างหนัก และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของน.อ.อนุดิษฐ์ มีการนำภาพนิ่งการประกอบกำลังทหารที่มีกองกำลังนิรนามนอกเครื่องแบบร่วมอยู่ด้วยในหลายจุดหลายเหตุการณ์ ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯเมื่อวันที่ 10 เม.ย. การกระชับวงล้อมบริเวณบ่อนไก่ สวนลุมพินี โดยน.อ.อนุดิษฐ์ตั้งคำถามว่า คนเหล่านี้คือกองกำลังไอ้โม่ง หรือกองกำลังนิรนามของรัฐบาลหรือไม่

นอกจากนี้ ยังนำภาพทหารเล็งปืนใส่วัดปทุมวนาราม ที่มีการติดสัญลักษณ์ริบบิ้นสีชมพู ถามนายสุเทพด้วยว่า นี่คือโจรที่ยิงใส่ประชาชนอย่างที่นายสุเทพให้สัมภาษณ์หรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ใช้อำนาจจนเกินกว่ากฎหมายกำหนด ถือเป็นการปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไปได้