ที่มา มติชน "สุชาติ-ภท."จวกพผ."หน้าด้าน" เอาอะไรมาต่อรอง จี้นายกฯต้องไม่มีพผ. เพื่อแผ่นดินกร้าว!! จี้นายกฯ ปลด "ชวรัตน์-โสภณ"พ้นเก้าอี้รมต. "สุเทพ"รุดพบ"มาร์ค"คาดถกปรับคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังได้รับมอบหมายให้ทำความเข้าใจกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน กรณี ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินลงมติไม่ไว้วางใจ 2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ คาดว่าการเข้าพบดังกล่าวเป็นการนัดหมายพูดคุยถึงแนวทางการปรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงความคืบหน้าการทาบทามบุคคลเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการอิสระตรวจสอบเหตุการณ์กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ที่ผ่านมาด้วย ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ กล่าวถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ว่า เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ ต้องค่อยๆศึกษาประเมินสถานการณ์พบปะพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่มีสิทธิมีเสียงในพรรคการเมืองต่างๆ บรรยากาศการเมืองหลังการอภิปรายน่าจะแจ่มใสขึ้นหลังจากที่ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้อภิปรายทำให้ประชาชนเห็นข้อเท็จจริงในเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่เมื่อมีปัญหาเราก็ต้องแก้ปัญหา ตนต้องไปดำเนินการจัดการแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้พรุ่งนี้ แต่ต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่ไม่มากนัก ปัญหานั้นแก้ได้ แต่แก้แล้วต้องให้มีเสถียรภาพ ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่ต้องเลือกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนต้องคิดทุกทางว่าจะเลือกหรือไม่เลือก และแสวงหาแนวทางในการแก้ปัญหา เราต้องแก้ทั้งปัญหาการเมืองและปัญหาประเทศคู่กัน ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรการเมืองเป็นไปได้ทั้งนั้น อะไรที่ดีที่สุดก็จะให้เป็นอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทยเข้าใจมากขึ้นไหม นายสุเทพ กล่าวว่า การคุยกันเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) เป็นเหตุบังเอิญที่ไปทานอาหารโรงแรมเดียวกัน ตนได้นัดส.ส.ไปทานอาหาร แต่เมื่อเจอกับพรรคภูมิใจไทยก็ยังตกใจว่าเอาอีกแล้ว และที่พบกันก็ไม่ได้คุยเรื่องงานมีแต่การกระเซ้ากัน จนถึงในขณะนี้ยังไม่มี ส.ส. พรรคภูมิใจไทยคนไหนมาพูดจากับตนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ไปเรียนต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง และนายกฯก็ได้สั่งการขณะที่ไปประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้ตนไปประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล และตั้งแต่วันนี้คงต้องเดินสายพูดคุย กันให้รู้เรื่อง และให้ทำตามกติกามารยาท นริศรา ไล่ “พญานาค-โคราช” พ้น คณะรัฐมนตรี ข้อหา“กบฎ” น.ส.นริศรา ชวาลตันติพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ กลุ่มบ้านริมน้ำ พรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับกลุ่มเพื่อนเนวิน จากพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงความขัดแย้งในการลงมติอภิปรายไม่วางใจรัฐมนตรีระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อแผ่นดินว่า เป็นที่รู้กันว่าภายในพรรคเพื่อแผ่นดินมี ส.ส. 4 กลุ่มได้แก่ 1.กลุ่มบ้านริมน้ำ 2.กลุ่มโคราชของ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี 3.กลุ่มพญานาค ของนายพินิจ จารุสมบัติ 4.กลุ่มปากน้ำของ นายมั่น พัธโนทัย หากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะมีการปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกจาก ครม. ก็ควรปรับเฉพาะกลุ่มที่เป็นปัญหาออกไป เพราะกลุ่มบ้านริมน้ำยังสนับสนุนรัฐบาล และสามารถทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทยได้เป็นอย่างดี โดยทั้ง 32 เสียงของพรรคเพื่อแผ่นดิน มี 15 เสียง ที่โหวตไว้วางใจให้พรรคภูมิใจไทย และมีถึง 30 เสียง ที่โหวตไว้วางใจนายกฯ ยืนยันว่า เราพร้อมทำงานร่วมกับนายกฯอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้วันที่ 2 มิ.ย. 53 นายบุญจง กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเสียมารยาทมาก ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง พรรคภูมิใจไทย จึงมีมติให้นายพิจารณาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะนายกฯเป็นผู้มีวิจารณญาณว่า ควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ ไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยนายสุชาติ กล่าวว่า การมารับประทานอาหารในครั้งนี้ เป็นเพียงการบังเอิญครั้งที่ 2 เท่านั้น ไม่ได้นัดกันมา ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า พรรคภูมิใจไทย จองห้องอาหารไว้ 40 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ จองห้องอาหารไว้ 15 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการจองแยกห้องกัน "ชวรัตน์" อัด พผ.เสียมารยาททางการเมือง ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูร รมว. มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงการทำงานร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) หลัง ส.ส.พผ. งดออกเสียง และลงมติไม่ไว้วางใจ 2 รัฐมนตรีจาก ภท. ว่า หลังจากนี้ขึ้นกับ พผ.ว่าจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ แต่ ภท. คงไม่เสนอให้มีการปรับ พผ. ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการเสียมารยาททางการเมือง เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ถ้าอยู่ต่อก็ต้องทำงานร่วมกัน แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไม่ต้องทำ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการมีกับไม่มี พผ. ร่วมรัฐบาล อะไรจะทำให้รัฐบาลมีเอกภาพมากกว่ากัน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องจำนวนเสียง มันก็ต้องมีเสียงข้างมากถึงจะเข้มแข็งกว่า แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ถือว่ารัฐบาลสอบผ่านไปแล้ว โดยที่ พผ. ก็ไม่ได้โหวตให้เรา "อภิสิทธิ์"ให้"สุเทพ"เคลียร์"ส.ส.พรรคร่วมหักหลัง แย้มโยงปรับ ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการลงคะแนนเสียงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) ไม่โหวตให้รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า จะตรวจสอบการลงมติของส.ส.พรรคต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะนัดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราต้องไล่ดูว่า ส.ส.แต่ละคนลงมติอย่างไร เมื่อถามว่า หากมีพรรคที่แตกแถวออกไปจะพิจารณาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ให้นายสุเทพได้คุยแล้วจะมีข้อสรุปอีกที แล้วจะโยงไปถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้วย" เมื่อถามว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "จะทำให้เร็วจะได้มีเวลาทำงาน" "โสภณ"แค้นถูกดิสเครดิต-มองหน้ากับ พผ.ไม่ติด ขณะที่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจากพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ 234 เสียง ซึ่งน้อยที่สุดในกลุ่มรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการดิสเครดิตกัน เชื่อเป็นเกมการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยและเพื่อแผ่นดิน(พผ.) อย่างไรก็ตาม ต่อไปยังมองหน้ากันได้แต่อาจต้องใส่หน้ากากเข้าหากัน ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การที่รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนไว้วางใจน้อยนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการลงมติ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการที่จะปรับครม.หลังการอภิปราย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลทำงานมากว่า 1 ปีแล้ว จะต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง "สุเทพ"ขู่เลือกตัด"เพื่อแผ่นดิน"พ้น ครม. หลังเสียงแตกโหวตสวน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินบางส่วนไม่โหวตให้รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นปัญหา ซึ่งตนต้องตรวจสอบดูให้ชัดเจนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไรแล้วแก้ไขปัญหา เพราะเป็นหน้าที่ของตน มีเป้าหมายให้รัฐบาลอยู่และทำงานให้บ้านเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเห็นว่าปัญหานั้นจะทำให้ชาติบ้านเมืองกระทบกระเทือนไปด้วย เพราะรัฐบาลไม่แข็งแรง ตนก็ต้องหาวิธีการแก้ไข "สุเทพ"ยัน รบ.ยังแน่นปึ้ก บอกเอา มท.ให้ ปชป.ดูแลต้องหารือก่อน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ว่า ขณะนี้ยังคุยกันอยู่ ซึ่งโดยหลักการพรรคร่วมรัฐบาล ควรลงคะแนนเสียงให้กับรัฐมนตรีพรรคร่วมด้วยกัน ตน ยืนยันว่าเสถียรภาพของรัฐบาลยังดีอยู่ มีปัญหาเฉพาะบางพรรคเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังแน่นหนาอยู่ เพื่อแผ่นดินเสี้ยมตำแหน่ง"มท.1"ควรให้"ปชป."ดูแล นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ถึงกรณีที่จะมีการโหวตลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลใจ ว่า ทางพรรคไม่มีมติว่าจะให้ ส.ส.โหวตอย่างไร แต่ให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ซึ่งเชื่อว่า ส.ส.จะคำนึงถึง จริยธรรม คุณธรรม และประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ส.ส.กลุ่ม"ประชา พรหมนอก"เตือน รบ.อย่าเหลิง เสียงโหวตหนุนเป็นแค่มารยาท นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่ม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะได้รับเสียงสนับสนุนให้อยู่บริหารประเทศต่อ แต่อยากให้ตระหนักว่า เป็นมารยาท ซึ่งตนเชื่อว่า ส.ส.ในสภา ที่ยกมือสนับสนุนยังต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งหากรัฐบาลและรัฐสภาไม่นำพาในจุดนี้ จะส่งผลให้กระบวนการทางรัฐสภาเสื่อมลง และจะกลายเป็นกระบวนการแสดงละครเท่านั้น "เฉลิม"คุยลั่น รบ.อยู่ลำบากหลังจบซักฟอก ชี้"มาร์ค"ไม่สบายใจแต่ถอยไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยว่า ข้อมูลที่ฝ่านค้านนำเสนอมีความชัดเจน โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้น มีการทุจริต ที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ก็มีความชัดเจน งบประมาณ 36,055 ล้านบาทมี 4 โครงการแต่กลับนำไปทำในโครงการเดียว และภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อไม่ได้ใช้ก็ต้องคืนให้หลวง ไม่ใช่โยกงบไปใช้กันเองโดยไม่เพิ่มวงเงินให้ ครม.อนุมัติ
นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.) จี้ให้นายกรัฐมนตรี ปลดนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกะรทรวงคมนาคม ออกจากตำแหน่งว่า ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะเอาอะไรมาต่อรอง ใช้อำนาจอะไรไม่ทราบ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อแผนดินมีมติที่จะไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ยังไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วด้วยซ้ำ เพราะในการอภิปรายงานประมาณ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ต่อร้องเพื่อของบประมาณในส่วนของตัวเอง และก็เขาพบนายกฯ จากนั้นก็มีปฏิกิริยาตั้งแต่ตอนนั้น และก็ประกาศออกมาก่อนที่จะมีการอภิปราย ว่าจะไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย เพื่อที่จะต่อรองอีก แต่ไม่มีใครสนใจ คิดว่าจะทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหน้า แต่ไม่สำเร็จ
"พรรคเพื่อแผนดิน เล่นเกมการเมืองมากเกินไป ไม่มีมารยาท หน้าด้าน ไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วก็มาพาลคนอื่น เพราะหากคิดที่จะยกมือไม่ไว้วางใจพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อแสดงความรับผิดชอบในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่คิดจะกบฏแต่ไม่สำเร็จ แล้วยังจะมาไล่คนอื่น ดังนั้นอย่าเอาขี้มาป้ายกันดีกว่า เพราะตอนนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าส.ส.เพื่อแผ่นดินกลุ่มนี้ต้องการจะทำอะไร แล้วจะเอาอะไรมาต่อรอง ไม่ดูพวกตัวเองว่ามีกันอยู่กี่คน อีกทั้งพรรคตัวเองก็แตกออกเป็น 4-5 ก๊ก ดังนั้นตอนนี้ไม่ต้องมาพูดกับเรื่องการเจรจา ถ้าส่งคนมาเจรจาก็ไม่จำเป็น เพราะบอกได้เลยว่า ถ้านายกฯเลือกเพื่อแผ่นดิน ก็ไม่มีภูมิใจไทย ถ้าเลือกภูมิใจไทยก็ต้องไม่มีเพื่อแผ่นดิน และถ้าเอาออกไปได้ ก็จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีคืนอีก 3 ตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์ก็เอาไปให้หมดเลย พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีการต่อรอขอเก้าอี้ในส่วนนี้เพิ่มแน่นอน เพราะเราไม่สน" นายสุชาติ กล่าว
"สุเทพ"โยนเผือกร้อนให้ที่ประชุมส.ส.ปชป.ตัดสินปมเกาเหลาพรรคร่วม
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าหารือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นาน 30 นาที ถึงกรณีความขัดแย้งง2พรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า จะนำปัญหานี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และที่ประชุมส.ส.ของพรรคในวันพรุ่งนี้(4 มิ.ย.) ซึ่งภายใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ จะทราบถึงการตัดสินใจในการเข้าร่วมรัฐบาลของสองพรรคการเมือง
นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคภูมิใจไทยว่า แกนนำ รวมถึง ส.ส.ของพรรคทุกคนเสียใจอย่างมาก ต่อการแสดงออกของส.ส.รวมถึงแกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่หาว่าพรรคหักหลังเพื่อนหรือแทงข้างหลังเพื่อน ยืนยันว่าพรรคเพื่อแผ่นดินมีมารยาททางการเมือง เพราะก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 วัน แกนนำพรรคได้บอกกล่าวไปทางนายกรัฐมนตรีว่าจะโหวตสวนรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 2 คน ซึ่งการแสดงออกดังกล่าว เป็นการแสดงถึงการไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีที่สังคมทั่วไปเคลือบแคลงสงสัยในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยใช้กลไกของรัฐสภาในการตรวจสอบ และพรรคยินดีสนับสนุนรัฐมนตรีคนใดก็ตามที่สามารถทำงานให้กับพี่น้องประชาชนโดยไม่มีการทุจริต แต่หากมีการบริหารงานที่เกิดความผิดพลาด ท่ามกลางข้อครหาว่าทุจริต พรรคคงไม่สามารถสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อไปได้ และส.ส.ทุกคน ก็ย่อมมีเอกสิทธิ์ที่สามารถยกมือสวนได้
นพ.อลงกต กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีทั้งสองคนของพรรคภูมิใจไทยควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง และขึ้นอยู่กับนายกฯ ว่าจะคิดเห็นไปในแนวทางไหน ทั้งนี้การจะนำบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีแทนโควตาของพรรคภูมิใจไทยทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องเป็นคนในพรรคใดพรรคหนึ่ง อาจนำคนนอกหรือคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถมาทำงานและดำรงตำแหน่งแทนได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการบริหารแผ่นดินท่ามกลางความขัดแย้งของสังคม
"หากนายกฯ ไม่ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีทั้งสองคนของพรรคภูมิใจไทย ผมในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล รวมทั้งวิปรัฐบาลของพรรคคนอื่นๆ ขอลาออกไม่ร่วมทำงานกับรัฐบาล เพราะไม่รู้จะทำงานอยู่ไปทำไม เพราะหากทั้งสองรัฐมนตรียังทำงานอยู่ก็เหมือนไม่มีความผิด โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น" นพ.อลงกต กล่าวและว่า ส่วนรัฐมนตรีในโควตาของพรรคจะแสดงออกอย่างไร หากรัฐมนตรีทั้งสองคนไม่ถูกปรับออกนั้น ขณะนี้ทราบมาว่ารัฐมนตรีของพรรคกำลังหารือเพื่อหามาตรการกันอยู่ โดยเบื้องต้นให้ตนและสมาชิกพรรคที่อยู่กับวิปรัฐบาลลาออกก่อน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดิน กรณีลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงบ่ายนี้
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่าน เนชั่นชาแนล ในช่วงเช้าว่า ถึงกรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดินโหวตสวนไม่ไว้วางใจ 2 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคเพื่อแผ่นดินทำแบบนี้ เป็นการไร้วินัยทางการเมือง พรรคภูมิใจไทยก็มีมติไปแล้ว อยู่ที่การตัดสินใจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าจะทำอย่างไร เพราะแนวโน้มในการทำงานร่วมกันยาก การกระทำของพรรคเพื่อแผ่นดิน ถือว่า เป็นการขาดวินัยทางการเมือง ปล่อยไปแบบนี้จะมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
เมื่อถามว่า หากจะมีการปรับครม.ในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็ควรปรับเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ใช่หรือไม่ นางนริศรากล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ แต่สำหรับตนแล้ว ยังรักและถนัดการทำงานในกระทรวงศึกษาธิการอยู่
เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีการแย่งชิงพื้นที่ในจ.นครราชสีมาหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะตอนนี้ไม่ใช้กำลังจะเลือกตั้ง ไม่จำเป็นที่จะต้องแย่งชิงพื้นที่กัน อีกทั้งในพื้นที่จ.นครราชสีมา ก็เป็นพื้นที่ของหลายพรรคการเมือง ทุกคนก็ทราบดี และยื่นยันว่าเร่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนตัว
นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย มีมติให้นายกฯเลือกว่าจะเลือกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อแผ่นดิน เพราะตอนนี้ ถือว่าเราไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ให้เวลานายกฯตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่า หากนายกฯ เลือกไม่ได้จะทำอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องดูตอนต่อไป เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร นายสุชาติ กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องบประมาณ ที่เกี่ยวข้องกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน รัฐมนตรี และส.ส.ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ทั้งหมด ได้มาร่วมรับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารจีนลินฟ้า โรงแรมสยามซิตี้ ด้านข้างอาคารสิริภิญโญ ปรากฏว่า ภายในห้องอาหาร พบว่ามี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายเชน เทือกสุบรรณ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นั่งรับประทานอาหารอยู่ในห้องอาหารก่อนแล้ว จากนั้นนายสุเทพ ได้เดินมาทักทายนายชวรัตน์ และขอคุณรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ที่ร่วมงานกับรัฐบาลด้วยดีเรื่อยมา
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายชวรัตน์ ได้ออกมาจากห้องอาหาร พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่า รู้สึกน้อยใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าพรรคเพื่อแผ่นดิน เสียมารยาททางการเมืองอย่างรุนแรง ไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เขาหารือกับนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมครม.วันนี้ (2 มิ.ย.) ทันที เพราะที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลควรที่จะมีแนวทางไปในทิศทางเดียวกันเมื่อถามว่า ควรที่จะปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ
นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย มีมติให้นายกฯเลือกว่าจะเลือกพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคเพื่อแผ่นดิน เพราะตอนนี้ ถือว่าเราไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ให้เวลานายกฯตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่า หากนายกฯ เลือกไม่ได้จะทำอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องดูตอนต่อไป เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร นายสุชาติ กล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องบประมาณ ที่เกี่ยวข้องกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
โฆษกปชป.รับต้องสะสาง พผ.โหวตสวน - "สุเทพ"ยังนิ่ง
ขณะที่ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย ว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคสามารถมีความคิดที่แตกต่างกันได้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมีอะไรมาก เมื่อถามว่าจะปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า พรรคเพื่อแผ่นดินยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องมีการสะสาง
เมื่อถามย้ำว่าโดยมารยาทจะต้องมีการปรับพรรคเพื่อแผ่นดินออกหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า จะต้องฟังเสียงสะท้อนของประชาชน เพราะตอนนี้ เราจะต้องเร่งสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น และพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมที่จะรับฟัง และได้ยินเสียงทุกเสียง และมติไม่ไว้วางใจ เป็นคะแนนสะท้อนตัวบุคคล
เมื่อถามว่า คะแนนที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังไม่มีเสถียรภาพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "เดี๋ยวจะให้นายสุเทพ เชิญพรรคร่วมเพื่อมาสอบถามเรื่องความคิด"
เมื่อถามว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ก็ออกปากว่าต่อไป คงต้องทนใส่หน้ากากทำงานร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดินใน ครม. นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึงใครเป็นส่วนตัว แต่ในหลักการนั้นรัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลชาติบ้านเมือง ดังนั้นก็ต้องแข็งแรง
เมื่อถามว่า จะสามารถปรับความเข้าใจกับพรรคเพื่อแผ่นดินได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนต้องตรวจดูอะไรให้เรียบร้อยก่อน เมื่อถามว่าการจะทำให้รัฐบาลมีเอกภาพ จำเป็นต้องมีพรรคเพื่อแผ่นดินอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ผมยังไม่พูดอะไรเร็วไปถึงขนาดนั้น แต่เป็นหน้าที่ผม ท่านนายกฯ จะมอบให้ผมในฐานะผู้จัดการรัฐบาลให้จัดการต่อไป"
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดินหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า "วันนี้ยังไม่ถึงตรงนั้น แต่พรุ่งนี้มะรืนนี้อาจนจะถึงก็ได้ และเมื่อผมตัดสินใจอย่างใดแล้วก็จะเรียนให้ทราบ แต่ยังไม่ต้องรีบอะไร เมื่อตนตัดสินใจได้แล้วจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง"
มื่อถามว่าผลการลงมติที่ออกมากระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล เมื่อถามว่าจะไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกเมื่อไร นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่รีบ เพราะตนต้องการเวลา เมื่อถามว่า เสียงจากการลงมตินายชวรัตน์ ชายวีรกูล รมว.มหาดไทย กับนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ชนะฝ่ายค้านแต่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ที่มีอยู่จะมีปัญหาทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันและยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ได้
เมื่อถามว่า สาเหตุที่มีปัญหา เป็นเพราะเรื่องงบประมาณหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ มนุษย์อยู่ด้วยกันมีปัญหากันบ้างธรรมดา
เมื่อถามว่า นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคพผ. ระบุว่าให้พรรคปชป.เอากระทรวงมหาดไทยกลับมาดูแล นายสุเทพ กล่าวว่า "เป็นเรื่องของพรรคปชป.ในฐานะพรรคแกนนำที่ต้องตัดสินใจ"
เมื่อถามถึงการโหวตให้รัฐมนตรีของทางพรรคภูมิใจไทย นายชาญชัย กล่าวว่า ต้องดูการบริหาร แต่โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ตำรงตำแหน่งอยู่นั้น น่าจะให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ดูแลดีกว่า
นายสมเกียรติ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญให้อิสระ ส.ส.ตัดสินใจ ดังนั้น ส.ส.ควรใช้สติปัญญาที่เหมาะสมในการยกมือ และเห็นว่าประเด็นที่มีการอภิปรายเกี่ยวกับการสลายการชุมนุม เป็นเรื่องใหญ่กว่าประเด็นการทุจริต ซึ่งให้น้ำหนักในการนำประเด็นนี้มาตัดสินใจมากกว่า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไป และยังทำให้สังคมร้าวลึก
"สำหรับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปแสดงความคิดเห็นระหว่างการบรรยายก็ไม่เหมาะสมในฐานะรัฐมนตรีและสังคมไทย ส่วนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่มีสมรรถภาพในการบริหารบ้านเมืองแล้ว แม้จะยังไม่เห็นว่าหลักฐานการทุจริตชัดเจน แต่พฤติกรรมมันปฏิเสธไม่ได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้าน เป็นการนำพฤติกรรมต่างๆ มาให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะในสภาฯ แต่ที่คาดหวังคือการทำให้สังคมหูตาสว่างมากขึ้น ซึ่งตนกำลังรวบรวมหลักฐานบางเรื่องอีก สำหรับการโหวตนั้น เราไม่ได้คาดหวัง เพราะพวกนี้ตั้งจิตมาแต่ไกล ตั้งใจมาตั้งแต่บ้านเพื่อมาโกง ดังนั้น ยังไม่ใช่เวลาของพวกเราและเราสามารถรอได้ แต่อะไรที่ทำให้ประเทศเสียหายเราก็ต้องดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านจะลงพื้นที่พบประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมเลยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือปิดกั้นสื่อมวลชน ไปจนถึงการดำเนินคดีที่ยังสองมาตรฐานและไล่ล่าอีกฝ่ายหนึ่ง คงจะปรองดองไม่ได้ และจะทำให้คนที่อยู่กลางๆ ปฏิเสธรัฐบาลมากขึ้นๆ เพราะการออก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นไม่ได้คำนึงถึงประเทศชาติ แต่คำนึงเฉพาะตำแหน่งของตัวเอง ทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจ การต่างประเทศและการท่องเที่ยว หลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะประชุมกันเพื่อสรุปผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และรวบรวมทั้งหมดมาวิเคราะห์ เพื่อกำหนดทิศทางของพรรคต่อไป
"การลงพื้นที่พบปะประชาชนกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น เจตนาของกฎหมายจะไม่เหมือนกัน หากรัฐบาลยังคง พรก.ไว้ก็แสดงว่ากลัวพรรคฝ่ายค้านที่จะพบปะประชาชน ขอให้เขียนใส่ซองไว้เลยว่ายังไงๆ รัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ลำบาก เหนื่อย จะไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายหรอก และจากนี้เราก็รอลุ้นเรื่องยุบพรรค" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เปิดเผยภาพคนชุดดำที่ปะปะอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เห็นว่ามีคนชุดดำ และมีเยอะด้วย แต่ไม่อยากตอกย้ำให้เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนจะต้องชิงชังกันมากกว่านี้ เรื่องทั้งหมดนั้นอยู่ที่นายอภิสิทธิ์ เพียงคนเดียว คือถ้ามองว่าประชาชนมาเรียกร้องก็ยุบสภาแล้วเลือกตั้งกันใหม่ เรื่องก็จะไม่เกิด นายอภิสิทธิ์ ก็ผลักภาระให้เจ้าหน้าที่ เรื่องมันถึงบานปลาย ซึ่งวันนี้นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่สบายใจ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว