ที่มา ไทยรัฐ "ไพจิต" อภิปรายนายกฯ-สุเทพ สั่งสลายชุมนุม ระบุ รอบ20 ปี ระบอบประชาธิปไตยเกิด 2 วิกฤต ลั่น มีโสเภณีการเมือง และความยุติธรรมไม่มีมาตรฐาน.... ส่วนวิกฤตความยุติธรรม อย่างกรณีเขายายเที่ยง ยึดต้นน้ำ แล้วบอกว่า ขาดเจตนา แต่คนอยู่ตีนเขาถูกจำคุก ซึ่งสังคมไม่มีมาตรฐาน และกรณีการยึดสนามบิน 2 ปี ไม่มีจับกุมคุมขัง แต่ นปช. ยึดราชดำเนิน กลับถูกดำเนินการ และกรณีการชุมนุม 12 พ.ค. เป็นการเสียสละของคนยากจน เพื่อประชาธิปไตย แต่กลับใส่ร้ายว่ารับจ้างมา ซึ่งมาเรียกร้องให้ยุบสภา หากไม่ยุบสภาก็ไม่ควรนำปืนไปยิง ทั้งนี้การชุมนุมโดยสงบสันติ คือ เสน่ห์ของประชาธิปไตย แต่นายกฯ และนายสุเทพ ได้ลุแก่อำนาจ คือ พยายามจัดสถานการณ์ให้รุนแรง เพื่อใช้กำลังและกฎหมาย สำหรับวันที่ 7 พ.ค. ได้มีการย้ายการประชุมมาที่รัฐสภา เพื่อพยายามจะยกระดับจาก พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังจากที่คนเสื้อแดงได้เดินทางมาเพื่อขอให้เปิดสถานีพีเพิลแชลแนล แต่กลับถูกมองว่ามาปิดล้อมสภา และกรณีทหารที่เสียชีวิตที่อนุสรณ์สถานดอนเมือง นายสุเทพ เคยระบุว่าเป็นคนสั่งการเอง และบอกด้วยว่า เป็นกระสุนยาง ไม่มีเจตนาฆ่าผู้ชุมนุม ซึ่งถือเป็นการสารภาพว่า เป็นคนสั่ง จนนำสู่การใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยใช้กำลังทหารเป็นหลัก ทั้งนี้ นายไพจิตร ยังได้แสดงภาพพลทหารที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณอนุสรณ์สถาน และภาพทหารเอาปืนจี้ตำรวจ จากเหตุการณ์ที่ศาลาแดงด้วย
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. เวลา 21.00 น. นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณ๊สั่งสลายการชุมนุม ว่า ขณะนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤตการเมือง 2 เรื่อง โดยในรอบ 20 ปี มีวิกฤตช่วงชิงตำแหน่ง มีโสเภณีการเมือง และวิกฤตเรื่องความยุติธรรม ไม่มีมาตรฐาน โดยที่นายกฯ เคยระบุว่า วันที่ 18 พ.ค. เวลา 18.00 น. ด้านวุฒิสภา ได้พยายามเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง โดยแกนนำบอกยินดียุติชุมนุม แต่เลขาธิการนายกฯ บอกว่าหมดเวลา ทั้งที่ยังเหลือเวลาอีก 12 ชั่วโมง ทั้งนี้เป็นเพราะความอำมหิตในใจของนายกฯ