WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, June 1, 2010

ความหงุดหงิด งุ่นง่าน จากคนของ "ประชาธิปัตย์" ต่อการ "ตรวจสอบ"

ที่มา ข่าวสด


ทำไมเมื่อ มูลนิธิกระจกเงา แสดงความห่วงใยต่อจำนวนคนหายในระหว่างสถานการณ์กระชับพื้นที่ของทหารเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม คนของพรรคประชาธิปัตย์จึงบังเกิดความหงุดหงิด

หงุดหงิดถึงกับออกมากล่าวหา มูลนิธิกระจกเงา

ไม่เพียงแต่จะหงุดหงิดต่อ มูลนิธิกระจกเงา ใครก็ตามที่ตั้งคำถามต่อการตายและบาดเจ็บของผู้คนในสถานการณ์กระชับพื้นที่ของทหารเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็แสดงความไม่พอใจ

ไม่เพียงไม่พอใจ หากยังมองด้วยความมุ่งร้าย แสดงความกังขา

แม้ผู้สื่อข่าวเสนอคำถามเชิงตั้งข้อสังเกตว่า "นักข่าวชาวอังกฤษ ที่ถูกยิงในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารระบุว่าโดนทหารยิง"

คำตอบจาก นายสาธิต ปิตุเดชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ คือ "เป็นเพียงคำพูดของคนๆ เดียว เชื่อไม่ได้"

คำถามก็คือ แล้วจะปล่อยให้คนหาย ปล่อยให้คนตาย โดยไม่มีการเสาะหาข้อเท็จจริงหรือ

แท้จริงแล้วความห่วงใยในจำนวนคนหาย 39 คนจากมูลนิธิกระจกเงามิได้เป็นความห่วงใยอันเลื่อนลอยและว่างเปล่า

ทั้งมิได้เป็นการคิดหรือนิมิตจำนวนขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

"ศอฉ.เป็นคนส่งเรื่องจากที่มีการแจ้งคนหายมาให้ศูนย์ข้อมูลคนหายของมูลนิธิเป็นผู้ดำเนินการ"

เป็นถ้อยแถลงจาก นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานกรรมการมูลนิธิ

ขณะเดียวกัน ความห่วงใยของมูลนิธิกระจกเงาก็มิได้เริ่มต้นจากความหวาดระแวงหรือจ้องจับผิด หากแต่มาจากบทเรียนในการเสาะหาคนหายจากสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 เป็นสำคัญ

เพราะคราวนั้นรัฐบาลปล่อยให้สถานการณ์ล่วงเลยประมาณ 1 เดือนจึงสรุปจำนวนคนถูกจับกุมว่ามีอยู่ 80 คน

คิดดูเถิด 80 คนนี้ย่อมมีครอบครัว ย่อมมีญาติพี่น้องที่คอยห่วงใย มิใช่หรือ

อย่าว่าแต่มูลนิธิกระจกเงาอันมีบทเรียนจากการทำงานล่าช้าของรัฐบาลในสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 เลย

แม้กระทั่งองค์การนิรโทษกรรมสากลก็กังขาในเรื่องนี้

สิ่งที่องค์การนิรโทษกรรมสากลเรียกร้องต่อรัฐบาล ประการหนึ่ง คือเรียกร้องให้เปิดเผยจำนวนคนตาย คนบาดเจ็บและคนที่ถูกจับกุมจากสถานการณ์อันเริ่มขึ้นจากเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคม 2553

ประการหนึ่ง คือ เรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระ เป็นกลาง เพื่อสอบข้อเท็จจริงอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน องค์การนิรโทษกรรม ก็ขอมีส่วนร่วมในการสอบข้อเท็จจริงนี้ด้วย

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความห่วงใย ทั้งต่อคนที่เสียชีวิต คนที่บาดเจ็บและที่สำคัญคือคนที่ถูกจับกุมและคนที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยในสถานการณ์

ความห่วงใยเช่นนี้ไฉนจึงสร้างความหงุดหงิดให้กับคนของพรรคประชาธิปัตย์

จึงแทนที่จะหงุดหงิดและไม่พอใจ คนของพรรคประชาธิปัตย์สมควรที่จะแสดงความขอบคุณ

เพราะหากว่ามีองค์การทางสังคมห่วงใยไม่ว่าจะจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะจากภายในประเทศล้วนทำให้การตรวจสอบในเรื่องนี้มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือต่างหากคือเป้าประสงค์แท้จริงของการตรวจสอบ