WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, January 22, 2011

เปิดจม.นักโทษแดงร้องกก.สิทธิถูกทหารทรมานน้ำมันราดขู่เผา ชีวิตคุกสุดโหดวอนอย่าทอดทิ้งกัน

ที่มา Thai E-News


ทหารไม่เชื่อได้ซ้อมพวกเรา ทำร้ายร่างกายทั้งมือและเท้า เอาแส้มาฟาด นำน้ำมันมาราดตัวเราสองคน จะจุดไฟแช็กเตรียมเผาพวกเรา ขู่ฆ่าพวกเรา ถ้าไม่ยอมบอกข้อมูลชายชุดดำในราชประสงค์ จากนั้นทหารอีกกลุ่มหนึ่งมาทรมานพวกเราต่อ โดยทหารสวมหมวกคลุมหน้าบอกว่าเป็นหน่วยสังหารได้บีบคอพวกเราจนหายใจไม่ออกทรมานมาก


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
22 มกราคม 2554

ทนายอานนท์ นำภา หัวหน้าสำนักงานกฎหมายราษฎรประสงค์ ได้เผยแพร่จดหมายของนักโทษการเมืองฉบับหนึ่งที่ส่งถึงนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิของพวกเขาที่โดนทำร้ายอย่างทารุณ ในช่วงของการจับกุมในเหตุการณ์ชุมนุมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

จดหมายของนักโทษการเมือง 2 รายคือนายกฤษณะ ธัญชัยพงศ์ และนายสุรชัย พริ้งพงษ์ ลงวันที่ 17 มกราคม 2554 ส่งจากเรือนจำคลองเปรม (แดน 8) 33/2 มีใจความว่า

"กระผมเป็นนักศึกษาถูกเจ้าหน้าที่ทหารตั้งด่านจับกุมหลังสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ขณะขับรถยนต์เดินทางกลับบ้านในวันที่ 16 พฤษภาคม 53 ถูกเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจยัดเยียดข้อกล่าวหาโดยมิชอบ ข่มขู่บังคับให้รับสารภาพ โดนดำเนินคดีละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศาลตัดสินจำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ทั้งที่พวกกระผมไม่ได้กระทำผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินใดๆทั้งสิ้น

สืบเนื่องจากพวกกระผมสัญจรเส้นทางถนนบันทัดทองปกติทุกวัน โดยระหว่างขับรถยนต์เดินทางกลับบ้านได้เจอทหารตั้งด่าน ทหารได้เรียกให้จอดรถ ให้ลงจากรถไปยืนพิงกำแพงมัดมือพวกเราค้นตัวพวกเราไม่เจออะไร ทหารได้ถามว่ารู้จักชายชุดดำที่ราชประสงค์หรือไม่ พวกเราเป็นนักศึกษากำลังจะกลับบ้านซึ่งอยู่ในวัดชัยมงคล ถนนพระราม1ห่างจากด่านจับกุม200เมตร ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชายชุดดำที่ราชประสงค์

ทหารไม่เชื่อได้ซ้อมพวกเราสองคน ทำร้ายร่างกายทั้งมือและเท้า ได้เอาแส้มาฟาด นำน้ำมันมาราดตัวเราสองคน จะจุดไฟแช็กเตรียมเผาพวกเรา ขู่ฆ่าพวกเรา ถ้าไม่ยอมบอกข้อมูลในราชประสงค์ จะให้ทหารสังหารอีกกลุ่มหนึ่งมาทรมานพวกเราต่อ พวกเราไม่ทราบทั้งสิ้น หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 นาที ได้มีทหารที่บอกไว้เข้ามาหาพวกเรา ทหารสวมหมวกคลุมหน้าบอกว่าเป็นหน่วยสังหารได้บีบคอพวกเราจนหายใจไม่ออกทรมานมาก แถมเตะด้วยเท้าทำร้ายร่างกายโดยอำมหิต ขู่พวกเราว่าเดี๋ยวจะเรียกนักข่าวมา ถ้าปากดีบอกอะไรไม่ดีโดนฆ่าแน่

หลังจากนั้นนักข่าวจากที่ไหนไม่รู้กว่า10คนมาถ่ายรูปพวกเรา นักข่าวถามพวกเราบอกว่าเป็นนักศึกษา ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการชุมนุมเลย หลังจากนั้นทหารได้จับพวกเราส่งสน.ปทุมวัน ทหารจะมาข่มขู่ตำรวจให้ยัดเยียดพวกเราในสน. ทหารมาคุมตำรวจทำคดีถึงในห้องสอบสวน พวกเราได้ยินมาว่าเป็นทหารจาก ร.31 พัน2 รอ.มีประมาณ10กว่าคน พวกเราจำหน้าได้ทุกคน และตำรวจที่ยัดเยียดข้อกล่าวหาด้วย

ซึ่งกระผมและทนายขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าหน้าที่ทุกคนในการจับกุมพวกกระผม คำให้การของพวกเราเป็นจริงทุกประการ ขอแสดงความเคารพอย่างสูง"

นักโทษการเมืองที่ไม่ใช่แกนนำเผยชีวิตในคุก ขอบคุณห้องแคมฟร็อกไม่ทอดทิ้ง

ขณะที่กระดานสนทนาอินเตอร์เน็ตฟรีด้อม ได้ลงจดหมายจาก"ผู้ต้องขังนิรนาม"รายหนึ่งเพื่อ ขอขอบคุณสหายกลุ่มเรดแคมฟร็อก โดยมีเนื้อหาดังนี้

สวัสดีครับพี่พิชัย และพี่มิโกะที่นับถือ ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบคุณ พี่ทั้ง 2 คนรวมถึงคณะทำงานในกลุ่ม “เรดแคมฟร็อก” ทุกท่านสำหรับการให้ความช่วยเหลือพวกเรา เหล่าผู้ต้องขังคดีเสื้อแดงที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำอื่นๆ ที่ทางกลุ่มได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือใน 2 ครั้งที่ผ่านมา และต้องกราบขออภัยจริงๆ ที่ผมยังไม่เคยได้แสดงการขอบคุณทางกลุ่ม “เรดแคมฟร์อก” อย่างเป็นทางการซักที (เพราะลืมขอที่อยู่ในการติดต่อกลับ) ดังนั้นผมขอถือเอาโอกาสนี้ ในการแสดงความขอบคุณในน้ำใจ และความเสียสละ ที่ช่วยเหลือพวกเราแบบปิดทองหลังพระมาโดยตลอด

ผมขอบอกตามตรงนะครับว่า ภายหลังจากที่พวกเราหลายคน รวมถึงแกนนำถูกจับกุมคุมขังมาตั้งแต่เริ่มชุมนุมใหญ่ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน 12 มีนาคม 2553 พวกเราต่างประสบความยากลำบากแตกต่างกันไป ในที่นี้ผมจะไม่ขอกล่าวถึงกลุ่มแกนนำที่พวกเขาอาจได้รับความสะดวกสบาย มากกว่า เพราะทาง นปช ได้ให้การดูแลอยู่ในฐานะแกนนำ ซึ่งพอจะมีทุนอยู่บ้าง และแน่นอนถ้าพูดตามหลักความจริงแล้ว แกนนำย่อมสำคัญกว่าเสมอ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ยังมีนักโทษอีกกลุ่มหนึ่ง ที่สำหรับผมแล้วคิดว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในด้านชีวิตความเป็นอยู่ การสนับสนุนต่างๆ ตลอดเวลาทีอยู่ในเรือนจำบางคนไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายเลย บางคนไม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น บางคนต้องต่อสู้คดีโดยลำพัง อย่างโดดเดียวไร้การแนะนำทางคดี บางคนไม่มีแม้ญาติพี่น้องมาเยี่ยม หรือบางคนญาติไม่กล้ามาก็มี เหล่านี้คือความจริงที่เกิดขึ้นกับพวกเราในปัจจุบันนี้ ซึ่งใครไม่เคยเข้าคุกมาก่อนย่อมไม่เข้าใจหรอกว่ามันมีความทุกข์ทรมานเพียงใด ซึ่งผมเองก็อยู่ในกลุ่มหลังนี้ และเข้าใจในจุดนี้ดี

บางคนไม่รู้ ก็อาจจะได้ทราบข่าวว่า มีการยื่นมือเข้ามาช่วยของภาพส่วนต่างๆ เช่นตัวแทนพรรคการเมือง ตัวแทนของฝ่าย นปช.เอง หรือองค์กรอื่นๆ เข้ามาดูแลเอาใจใส่พวกเราเป็นอย่างดี แต่ในความจริงแล้ว มีการเข้ามาจริง แบบนับครั้งได้ นั้นคือครั้งแรกเมื่อตอนหลังสลายการชุมนุมใหม่ๆ มีคณะ สส.จากเพื่อไทยเข้ามาขอพบพวกเราทั้งหมด และครั้งนั้นได้มอบเงินช่วยเหลือคนละ 2,000 บาท พร้อมข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่ง รวมถึงอาหาร 1 มื้อ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยเข้ามาอีกเลย ครั้งที่ 2 เมื่อไม่นานมานี้ คือการได้รับเงินช่วยเหลือจากทาง นปช จำนวน 5,000 บาท (ทราบว่าเป็นเงินที่ได้จากการจัดคอนเสิร์ต) และล่าสุดหลังจากที่ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการประชาชน นปช.ใหม่ๆ ก็มีการเข้ามาพบครั้งใหญ่ และบอกว่าจะช่วยเหลือเงินคนละ 1,000 บาท แต่จนถึงวันนี้พวกเราหลายๆ คนก็ยังไม่ได้รับเลย

การใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำดูแล้วอาจจะเหมือนง่าย เพราะมีอาหารให้กันครบ 3 มื้อ ไม่ต้องเสียเงิน แต่ “อาหารคุก” ก็จะมีคุณภาพในระดับหนึ่ง ซึ่งผมเองคงไม่สามารถจะบรรยายให้เห็นภาพได้ แต่คิดว่าพวกเราน่าจะเข้าใจดีว่ามันจะให้ดีเท่ากับข้าวแกง ถุงละ 20 บาทที่เราหาซื้อได้ตามข้างถนนก็คงเป็นไปไม่ได้

ดังนั้นถ้าเราอยากจะกินของดี เราก็ต้องซื้อเอง ไหนจะสบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม แฟ๊บของใช้ส่วนตัวจิปาถะ ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น (ไม่นับรวมค่าขนมที่บางทีเราอยากจะกินอะไร,เล่นๆ บ้าง) มิหนำซ้ำบางคนจะมี คชจ.ในการจ้างงานเข้ามาอีก เพราะการอยู่ในคุกก็ต้องทำงาน เช่นทำถ้วยกระดาษ งานเย็บรองเท้า เป็นต้น เหล่านี้ล้วนต้องมีค่าใช่จ่ายทั้งสิ้น ถามว่าไม่จ้างได้มั้ย ? ตอบว่าได้นะ แต่เราก็คงต้องเหนื่อยกันทั้งวัน บางทีก็อยากจะพักบ้าง เอาเป็นว่าการใช้ชีวิตอยู่ในนี้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เงินบ้างเป็นธรรมดา ลองคิดดูละกันว่า จนถึงวันนี้บางคนเข้าเดือนที่ 8 บ้างก็ 9 กับเงินได้รับการช่วยเหลือมามันจะเพียงพอหรือไม่?

อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าการได้รับกำลังใจจากเพื่อนๆ ร่วมอุดมการณ์ ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าพวกเราได้รับน้อยมาก เพราะพี่น้องส่วนใหญ่ที่มาเยี่ยม ก็จะเยี่ยมแต่แกนนำ แกนนำมีคนมาเยี่ยมทุกวัน มีของฝากทุกวันอย่างเหลือใช้ แถมมีคนมาให้กำลังใจทุกวัน แล้วพวกที่ไม่ใช่แกนนำละ เค้าแตกต่างจากแกนนำตรงไหน ทุกคนก็รู้สึกอยากได้กำลังใจบ้าง อยากมีคนมาเยี่ยมบ้าง อยากได้ของฝากบ้างเช่นกัน แต่พวกเราหลายคน จนถึงตอนนี้ บางคนก็ไม่เคยมีญาติมาเยี่ยมเลยก็มี

ขออภัยที่คุยนอกเรื่องไปมาก ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ก็เพราะต้องการจะขอนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้น ให้กับพี่ๆ เพื่อนๆ ได้รับรู้และเข้าใจความจริงจากคนที่อยู่ในคุกจริงๆ อย่างผมบ้างก็เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดก็คือ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าในขณะที่พวกเรา ต่างเฝ้าคอยการช่วยเหลือ เอาใจใส่ดูแลจากกลุ่มบุคคล องค์กรที่เราต่างก็คาดหวัง และฝากความหวังไว้ และท้ายสุดก็พอกับความผิดหวัง แต่กลับมีกลุ่มบุคคลที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเรา นั้นคือกลุ่ม “เรดแคมฟร็อก” ที่มีพี่พิชัย พี่มิโกะ และอีกท่านหนึ่งที่ผมขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้ (พี่พิชัยบอกชื่อผมแล้วและผมลืม)

การเข้ามาช่วยเหลือในครั้งแรก ผมจดไว้ว่ามาวันที่ 12 ตุลาคม 2553 (มีพี่พิชัย,พี่มิโกะ,คุณเปมิกาและคุณสุนัน) ครั้งนั้นทราบว่าพี่ๆ ได้รายได้จากการจัด โบว์ลิ่งการกุศล และได้มอบเงินช่วยเหลือให้ผม 2,000 บาท รวมถึงสบทบทุนช่วยค่าใช้จ่ายแก่บุตรผมเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทเช่นกัน ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้พบสหายที่รู้จักทางไซเบอร์ คนแรกตั้งแต่ผมถูกจับเข้ามา คือ พี่มิโกะ พี่สาวคนสวยของผม และครั้งนี้เองที่ทำให้ผมได้พบกับพี่ชายที่น่ารักอย่างพี่พิชัย (พี่ๆ อีก 2 คน ที่มาด้วยกันผมก็ดีใจที่ได้พบเช่นกันนะครับ) และครั้งนี้เช่นกันที่ทำให้ผมรู้สึกว่า “เพื่อนๆ ทางไซเบอร์ ไม่ได้ทอดทิ้งผม

พี่มิโกะบอกว่ากลุ่มเรดแคมฟร็อก เป็นกลุ่มทำงานเล็กๆ ที่ทำกันเพียงไม่กี่คน และพี่พิชัยก็เคยเล่าให้ผมฟังว่า พวกพี่ๆ และทีมงานเพียงไม่กี่ชีวิตนี่แหละ ที่เสียสละความสุขส่วนตัวกัน โดยการไปยืนถือกล่องรับบริจาคเงินให้กับพวกเราโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พี่เชื่อมัยว่าผมจินตนาการเห็นภาพ พี่ๆ ยืนถือกล่องรับบริจาคเงินเพื่อมาช่วยพวกผมแล้ว ผมตื้นต้นใจจริงๆ เพราะแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่กว่าจะได้เงินแต่ละบาทมาช่วยเหลือพวกเรา เหรียญบาท 5 บาท 10 บาท แบงก์ 20 แบงก์ 50 จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน, เป็นหมื่น ที่หามาให้พวกเรา จากน้ำใจพี่น้องของเราเอง มันได้สร้างความประทับใจมิอาจจะลืมได้ กับพวกเราทุกคน ที่ได้รับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ ผมกราบขอบคุณแทนพวกเราที่อยู่ในเรือนจำแห่งนี้จริงๆ ครับ

และสำหรับล่าสุด กับการช่วยเหลือครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 พี่มิโกะ พี่พิชัย ก็ได้กรุณาช่วยพวกเราอีกครั้ง ทราบมาว่าได้มาจากการจัดงานโบว์ลิ่งการกุศล แต่รายได้หลักมาจากได้รับความเมตตา บริจาคใส่กล่องมาให้ ครั้งนี้ พี่พิชัยได้กรุณามาเยี่ยมผม เพราะมีมิโกะต้องทำหน้าทีโอนเงินเข้าบุ๊ค (บัญชี) พวกเรา ซึ่งดูเหมือนครั้งนี้จะให้จำนวนคนมากกว่าครั้งก่อน

พี่พิชัย ดูออกจะเหนื่อยๆ สักนิด แต่ยังคงความหล่อเนี๊ยบเหมือนเช่นครั้งก่อนๆ ผมเองทราบดีว่าพี่ๆ ทุกคนต่างทุ่มเทและเสียสละเพื่อพวกเราจริงๆ ผมไม่ทราบว่าพี่จะสามารถตีเยี่ยมผู้ต้องขังที่อยู่ในลิสต์ได้ครบทุกคนหรือ เปล่า แต่เข้าใจว่าไม่น่าจะทำได้ด้วยเวลาอันจำกัด และอาจจะโอนเงินได้อย่างเดียว ซึ่งแน่นอนทุกคนที่ได้รับเงินคงจะแปลกใจว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีได้อย่างไร และพวกเค้าเหล่านั้น จะรู้มัยว่ากลุ่มพวกพี่ “เรดแคมฟอกซ์” เป็นผู้ให้มา แล้วกลุ่ม นปช.จะรู้มัยว่าพี่ๆ ได้ช่วยแบ่งเบาภาระจากเค้า เอเชียอัพเดทจะประกาศสดุดีในการทำประโยชน์ของ “เรดแคมฟรอก” ให้คนเสื้อแดงทั่วโลกได้รับรู้ถึงความเสียสละของพวกพี่หรือเปล่า คำถามเหล่านี้เอง ที่ผมพอจะทราบคำตอบถึงได้กล้าบอกว่า การช่วยเหลือของพวกพี่คือ การ “ปิดทองหลังพระ”จริงๆ

ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงจำเป็นที่จะต้องเขียนหนังสือแสดงความขอบคุณ ในความเสียสละของพวกพี่ๆ ทุกคน ในฐานะที่เป็น “สื่อเสื้อแดง” คนหนึ่ง แม้เสียงของผมจะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ ที่สะท้อนออกมาจากเรือนจำก็ตาม แต่มันมีความหมายกับผมมากถึงมากที่สุด และผมอยากให้พี่น้องของผมอีกหลายๆ คนได้รับรู้ถึงความเสียสละของพวกพี่ด้วยความจริงใจ

สุดท้ายนี้ ผมอยากให้พี่ช่วยอ่านข้อความของผมอ่านออกอากาศในช่องทางของพี่ นี่คือความจริงที่ผมอยากให้ทุกคนได้รู้ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปนะครับ เพราะผมเชื่อว่าข้อความของผม จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน ทุกๆ ส่วนอีกมากมาย เพราะความดีควรได้รับเปิดเผย ตีแผ่ ข้อผิดพลาดควรได้รับการแก้ไขจริงมัยครับ

ผมไม่มีเจตนาที่จะก่อความเสียหายให้ใครที่ผมได้อ้างอิ้งอยู่ในข้อความฉบับ นี้ และผมไม่มีเจตนาที่จะเชิดชูยกย่องใครจนเกินจริง ผมเพียงแต่ต้องการบอกความจริงที่เกิดขึ้น เท่านั้นจากมุมมอง และความคิดของผู้ต้องขังเสื้อแดงคนหนึ่งเท่านั้น

กราบขอบคุณสำหรับความเสียสละของพี่ๆ เพื่อนๆ ทีมงาน “เรดแคมฟร็อก” รวมถึงแฟนรายการห้องเรดแคมฟรอก และพี่น้องเสื้อแดงทุกท่านที่เคยร่วมบริจาคเงินให้กับทางกลุ่ม เงินทุกบาททุกสตางค์ของพวกท่านได้ทำให้พวกเราหลายคนอยู่ได้ระยะเวลาหนึ่ง และมีกำลังใจที่จะเผชิญอุปสรรคต่อไป พร้อมๆ กับคนเสื้อแดงทุกคนครับ

เชื่อมั่น ศรัทธา ตลอดไป

จาก ผู้ต้องขังนิรนาม

ขณะที่กลุ่มเรดแคมฟร็อกแจ้งว่า เมื่อคืนวันที่ 21 มกราคม 2554 เอกสารฉบับนี้เราได้อ่านให้คนในห้อง Cam frog ฟังกันประมาณ 80 คนได้ จากที่ได้อ่านแล้ว คุณแต้ม (Tammpa) และตัวมิโกะ ต้องน้ำตาร่วง หดหู่ เศร้าใจ สงสารพวกเขา พวกเราทำได้แค่เพียงเยียวยาให้กำลังใจ แค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่รู้เมื่อไรพวกเขาจะได้รับอิสระภาพออกมา

พี่น้องร่วมอุดมการณ์ ขอให้เข้าใจเจตนาที่พวกเราขอรับบริจาคเงิน เราได้นำไปให้ถึงพวกเขาแล้วคะเงินที่ได้จากการจัดงานโบว์ลิ่ง กับเงินรับบริจาคเราจะกระจายให้ถึงพวกเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีพี่น้องที่โดนขังที่ ตชด. คิดว่าแค่ 7 คนแต่ไปจริงกลับเพิ่มเป็น 14 คน ทางน้องเอ็มเลยต้องกระจายเหลือแค่คนละ 500 บาท ขั้นตอนเยี่ยมก็ยุ่งยากพอสมควร

ได้ข่าวอีกว่าบางคนโดนย้ายจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปลพบุรี เพราะเขาเห็นกิจกรรมเคลื่อนไหวของกลุ่มเรา กรรมจริงๆ พวกเขาลำบากไปไกลมากขึ้นอีก ขอให้พวกเขาอย่าคิดสั่น ตัดสินใจทำร้ายตัวเองซะก่อน ให้พระคุ้มครองพวกเขาด้วยเทอญ

ขอชี้แจ้งรายละเอียดคร่าวๆ ตามรายการนี้คะ

รายการ จำนวนเงิน วันที่
เงินฝากคนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 35 คนๆ 1,000 บาท 35,000.00 6/1/2554
เงินฝากในเรือนจำกลางคลองเปรม 7 คนๆ 1,000 บาท 7,000.00 6/1/2554
ซื้อของใช้เยี่ยมคนในเรือนจำ 3,000 บาท 3,000.00 6/1/2554
ให้เงินทนายอานนท์ นำภา 10,000.00 6/1/2554
ให้ทีมงาน "บ้านกบแดง" เยียวยาช่วยเหลือคนในเรือนจำ 10,000.00 9/1/2554
เงินฝากคนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 4 คนๆ 1,000 บาท 4,000.00 13/1/2011
เงินฝากคนในเรือนจำ ทัณสถานหญิง 3 คนๆ 1,000 บาท 3,000.00 18/1/2554
เงินฝากคนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 3 คนๆ 1,000 บาท 3,000.00 18/1/2554
จ่ายให้ (น้องที่ออกจากเรือนแล้ว 3 คน) 3,000.00 19/1/2554
ให้ทนายอานนท์ นำไปช่วยคนในเรือนจำขอนแก่น 4,000.00 ซื้อเป็นสิ่งของ
ให้น้องเสกสิทธิ์ (ตาบอด 2 ข้าง) 3,000.00
เงินฝากเรือนจำธัญุบุรี ปทุมธานี 14 คนๆละ 500 บาท 7,000.00 19/1/2554
ค่ารถน้องเอ็มไปเรือนจำปทุมธานี 500.00 19/1/2554
รวมยอดที่จ่ายไปแล้ว 92,500.00

ยอดเงินช่วยเหลือทั้งหมด 105,750.00
หัก นำไปช่วยเหลือพี่น้องในเรือนจำ 92,500.00
เหลือเงิน 13,250.00

ทีมงาน Red Cam frog มี Mivakoe,Tammpa,BUN,Fullmoonnight ,และบ้านกบแดง มีน้องนก น้องทาทา น้องเอ็ม น้องโต้ และอีกหลายคน คงต้องช่วยหาทุนไปเยี่ยวยา ให้กำลังใจต่อ ตราบใดที่พวกเขายังไม่ได้รับการปล่อยตัว พวกเราก็คงต้องทำต่อไปคะ

ฝากขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่มีส่วนช่วย ปั่นน้ำใจสู่เรือนจำ พี่น้องเราไม่ทิ้งกัน คะ

แกนนำก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าเยี่ยมกันได้ง่ายๆ

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมบรรดาแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.)ที่ถูกควบคุมตัวมานานกว่า 8 เดือน ยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี ว่า ได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจกลุ่มเพื่อนๆ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ ทั้งนี้ระหว่างเข้าเยี่ยมได้มีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาขอสอบปากคำ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ น.พ.เหวง โตจิราการ พอดีตามที่ได้เคยร้องเรียนไว้ในเรื่องการคุมขังโดยมิชอบ จึงไม่ได้พบกับบุคคลทั้งสองนี้ ส่วนกรณีการยื่นขอประกันตัวแกนนำนี้คงต้องพยายามกันต่อไป