ที่มา มติชน "หมู่บ้านเสื้อแดง" การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ของคนรากหญ้าสู่รากแก้ว เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าคนเสื้อแดงไม่ถอยไม่กลัวและจะสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยโดยการรวมกลุ่มชาวบ้านตั้งเป็น "หมู่บ้านคนเสื้อแดง" เริ่มต้นที่ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี เพื่อประกาศว่า "กลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี" ที่ไม่มีวันยอมรับการปฏิวัติก่อรัฐประหารในเหตุการณ์ที่ผ่านมา นายอานนท์ ยังกล่าวถึง การผนึกกำลังร่วมต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ที่จุดประกายหมู่บ้านคนเสื้อแดง เริ่มต้นที่ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี เพื่อยืนยันว่า "กลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี" ที่ไม่มีวันยอมรับการปฏิวัติก่อรัฐประหารในเหตุการณ์ที่ผ่านมาและเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งถูกยึดอำนาจจากคณะปฏิวัติกลับมา ในการขยายหมู่บ้านคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี นำร่องโดยหมู่บ้านหนองหูลิง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี มีประชากรอาศัยอยู่ 353 คน มี 75 ครัวเรือน ที่รับปากจะสานต่อภารกิจโครงการหมู่บ้านคนเสื้อแดง ที่ทุกคนจะร่วมกันสานต่อให้ ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ กลายเป็นหมู่บ้านคนเสื้อแดงไปทั่วทั้งจังหวัดอุดรธานี สมกับคำว่า "อุดรธานีคือเมืองหลวงของคนเสื้อแดง" นายสุบิน สาคร หัวหน้าหมู่บ้านโคกสว่าง อำเพ็ญ กล่าวว่า "อย่ารีรอมาร่วมกันคิดร่วมกันทำนำให้เป็น เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว อันความตายใครมาดีหนีไม่พ้น จะมีจนก็ต้องตายกลายเป็นผี ถึงแสนล้านก็ต้องลาห่างทันทีไม่วันนี้ก็วันหน้า" ที่ปรึกกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ประกอบด้วย 1. พ.ต.อ.ไกรจิต รักษาพล ประธานที่ปรึกษา 2. นายเกรียงศักดิ์ พันอินากูล ที่ปรึกษา 3. นายสุพงษ์ พันธุมโน ที่ปรึกษา 4. ผอ.แสนศรี ผัดเชตต์ ที่ปรึกษา สมาชิกทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ของจังหวัดอุดรธานี
นายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ผู้ริเริ่มโครงการหมู่บ้านเสื้อแดงเล่าถึงที่มาของโครงการนี้ว่า ต้องการขยายกลุ่มคนเสื้อแดงให้มีความเหนียวแน่น ร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยรวบรวมคนที่มีหัวใจสีแดง พร้อมที่จะต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่ตั้งมั่น และส่งสัญญาณให้ทุกหลังคาเรือนได้ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยจับมือกันให้มั่น เกาะกลุ่มกันให้เหนียวแน่น เพื่อลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องสิทธิของตัวเองเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่ถูกรัฐประหารโค่นล้มกลับมา และภารกิจที่สำคัญที่สุด คือ การเรียกร้องเพื่อพี่น้องเสื้อแดงที่ต้องจบชีวิตลงในเหตุการณ์เมษาทมิฬด้วยน้ำมือของคนไทยที่มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์การเมืองที่เกิดขึ้น จารึกไว้ในความทรงจำจากรุ่นลูกสู่รุ่นหลานและต่อไปไม่มีวันจบสิ้น ในการจากไปของวีรชนคนเสื้อแดงในเหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย
"หัวใจทุกดวงไม่มีวันสูญสิ้นและแตกดับ เส้นทางเรียกร้องประชาธิปไตยยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้จะรู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะมืดบอด เพราะคนไทยตาสว่างไม่เท่ากัน ถึงแม้จะรู้ดีว่า แค่สองมือเปล่า จะสู้อะไรกับด้ามกระบอกปืน แต่หัวใจทุกดวงก็จะคอยพยุงกันและกันเพื่อให้ก้าวเดินต่อไป ตราบใดที่หัวใจของเพื่อนพ้องน้องพี่คนเสื้อแดงยังคงมีอุดมการณ์ยังคงมีหัวใจที่ตั้งมั่นไม่มีวันเดินถอยหลัง ทุกฝีเท้าก็จะมุ่งหน้าไปในเส้นทางเดียวกัน ไม่มีวันแตกสลาย แตกแยกเป็นหลายเผ่าพันธุ์ ทุกหัวใจจะมีกันและกันตลอดไปเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยกลับมาเต็มใบอีกครั้ง" นายอานนท์กล่าว
"เสียงกรีดร้องเสียงแห่งความเจ็บปวดและการสูญเสีย คือ ภาพที่คนเสื้อแดงไม่มีวันลืมไปจากความทรงจำ มันกลับตอกย้ำชัดเจนว่า ใครสั่งฆ่าประชาชน การออกมาเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้จะไม่เกิดประโยชน์ แต่ทุกคนมีความหวังว่า ชีวิตที่สูญเสียไปต้องมีสักวันที่ได้รับความเป็นธรรม จากการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ของพี่น้องเสื้อแดงที่ผ่านมาจะเห็นว่า มีการออกมาขับเคลื่อนบนถนนราชประสงค์ ด้วยวิถีทางแห่งการต่อสู้ หลากหลายรูปแบบทั้งการ พับนก เพื่อเสรีภาพ การทำตุ๊กตาไล่ฝน การปั่นจักรยาน 2 ขา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับแกนนำและกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องติดคุกได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ กับความหวังถึงแม้จะน้อยนิดแต่ทุกกลุ่มต่างก็เชื่อมั่นว่า "สักวันจะเป็นวันของเรา"
เลขานุการกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี บอกว่า หมู่บ้านคนเสื้อแดง คือ หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในต่างจังหวัดโดยเริ่มจากการประกาศให้รู้ว่า "คนเสื้อแดงอุดรธานีไม่มีวันตาย หรือแตกดับ" มีแต่จะเพิ่มทวีขึ้นเป็นหลักแสนหลักล้าน เพราะการกระทำของรัฐบาลที่กดดันและการบริหารแบบ 2 มาตรฐาน ที่คนไทยหัวใจสีแดงรับไม่ได้ ซึ่งหมู่บ้านคนเสื้อแดงจะออกมาต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ขับเคลื่อนทางความคิด แม้จะมีแรงต้าน แต่ทุกภารกิจในกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ต้องก้าวเดินต่อไปในฐานะของผู้ริเริ่มโครงการหมู่บ้านคนเสื้อแดง
สำหรับสัญลักษณ์ของหมู่บ้านเสื้อแดงนายอานนท์ ระบุว่า การผนึกกำลังรวมกลุ่มแสดงพลังในการต่อสู้ของหมู่บ้านเสื้อแดงจะมี "ธงสีแดง" ติดไว้หน้าบ้านทุกหลังคาเรือน โดยมีเป้าหมายในการรวบรวมพลพรรคคนเสื้อแดงตามหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอในจังหวัดอุดรธานี ได้ออกมาขับเคลื่อนต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ที่จะยึดมั่น และสนับสนุนคนเสื้อแดงทั่วทั้งประเทศ ในการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ที่ทุกคน ต่อสู้กันด้วยสองมือเปล่า หลังจากหมู่บ้านแรกก่อตั้งขึ้นมีเสียงคนเสื้อแดงขานรับและก่อตั้งเป็นแห่งที่ 2 ในหมู่บ้านโคกสว่าง ต.นาเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ที่ประกาศตัวเป็นหมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งที่สองอย่างเป็นทางการ มีชาวบ้านเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเสื้อแดงประมาณ 170 หลังคาเรือน
คุณประยอม เพิ่มพูน ประธานกลุ่มคนเสื้อแดง อ.เพ็ญ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่เฉยๆไม่ได้แล้วเพราะรัฐบาลทำกับประชาชนขนาดนี้แล้วให้ทุกคนออกมาต่อต้านแสดงพลัง อย่ากลัวคนเราจะตายอยู่ที่ไหนทำอะไรก็ตาย ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วความเป็นธรรมไม่มีแล้วก็ต้องช่วยกัน
ทางด้านชาวบ้าน แม่หมาย วงศ์อำมาตย์ ชาวบ้านหมู่บ้านโคกสว่าง กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่นี่ และพร้อมที่จะร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมขอเสียงของพวกเราคืน จะทำทุกอย่างที่จะให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมา ถ้าควักตาข้างหนึ่งทิ้งได้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯได้ก็พร้อมที่จะควักทิ้งทันที เพราะถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ พวกเราก็คงไม่มีทางได้เข้ารับการรักษาพยาบาลและทำให้พวกเราลืมตาอ้าปากได้
ทั้งนี้"หมู่บ้านคนเสื้อแดง" ของกลุ่มคนรักเสื้อแดงอุดรธานี ยังคงชูป้ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
รายชื่อคณะกรรมการหมู่บ้านเสื้อแดง ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหะสุริยะ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี นายเดชา โคตรเถร รองประธานกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี