ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
ผมไม่เห็นด้วยที่คนเสื้อแดงจะเข้าไปข้องแวะหรือสังฆกรรมอะไรกับพวกเสื้อเหลือง
จากกระทู้นี้
http://www.tfn3.info/board/index.php?topic=19892.0
ผมรู้สึกแปลกใจกระทู้ที่เห็นมีภาพคนเสื้อแดงไม่ทราบกลุ่มไหน ไปขึ้นเวทีของพวกเสื้อเหลืองที่ทำเนียบ สร้างภาพว่าคนต่างสีกันก็มีความเห็นร่วมกันได้
ผมยอมรับนครับว่าทุกคนมีเสรีภาพที่จะเลือกสีไหนก้ได้ หากเขาทำอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ที่ผ่านมาคนเสื้อเหลืองทำตัวเป็นปฎิปักษ์กับคนเสื้อแดงโดยตลอดและเป็นคู่ปรปักษ์ทางการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกัน
ผมเห็นด้วยว่าเราควรสู้กันอย่างสันติ และในวิถีทางที่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย แต่ที่ผ่านมาคนเสื้อเหลืองโดยเฉพาะแกนนำ พธม.ทั้งหลายไม่เคยยึดถือแนวทางนี้ แต่ไปดึงอำนาจนอกระบบเข้ามา ทำให้การเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย
ตอนนี้พวกเสื้อเหลืองบางกลุ่ม กำลังมีปัญหากับ "อดีตนายจ้าง" ของตน จึงพยายามสร้างอำนาจต่อรอง โดยการชุมนุม
ตอนนี้เขาก็สร้างอำนาจต่อรอง โดยพยายามสร้างภาพว่าคนเสื้อแดงสนับสนุนพวกเขา ดึงกระแสคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เข้าไปรับใช้แนวทางของเขา
ผมไม่ทราบว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จะได้ประโยชย์อะไรจากการเคลื่อนไหวของพวกเสื้อเหลือง สันติอโศกครั้งนี้ นอกจากเป็นการปลุกกระแสคลั่งชาติ
ตอนนี้พวกเสื้อเหลืองก็เอาภาพการขึ้นเวทีของเสื้อแดงบางกลุ่มบางคน ไปหากินปลุกกระแสคลั่งชาติ ซึ่งเป็นปรปักษ์โดยตรงกับประชาธิปไตย
ผมไม่ออกความเห็นนะครับว่ากลุ่มที่ไป ที่มี ร.อ.พิสิทธิ์ พิพุฒ เป็นแกนนำเป็นใคร ผมไม่ได้ยินคนกลุ่มนี้มาก่อน ไม่คุ้นและมีเจตจำนงค์อย่างไร หากทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับคนเสื้อแดง และผลของการกระทำก็ไปรับใช้ หรือไปเสริมพวกเสือเหลือง "คลั่งชาติ" โดยเฉพาะ
ผมไม่ทราบว่า เสื้อแดงกลุ่มนั้นต้องการสร้างภาพอะไร เป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงในทางยุทธศาสตร์อย่างไร
"ยุทธศาสตร์แดงกับเหลืองร่วมมือกันโค่นอำมาตย์" อย่างนั้นหรือ
ผมไม่คิดว่ายุทธศาสตร์นี้พวกเสื้อเหลืองส่วนใหญ่เขาจะร่วมมือด้วย เพราะพื้นฐานของเสื้อเหลืองคือ "อนุรักษ์นิยม" และเป็นพวก Royalist เต็มที่ ดังนั้นการร่วมมือกับพวกเสื้อเหลืองในทางยุทธศาสตร์แล้วเป็นไปไม่ได้
หรือมียุทธศาสตร์แค่ "โค่นรัฐบาลมาร์ก"
ผมก็ไม่เห็นว่าการโค่นรัฐบาลมาร์ก โดยที่พวกอำมาตย์ยังมีอำนาจอยู่ จะมีประโยชน์อะไร นอกจากได้นายกฯชื่อใหม่ แต่เป็นคนของอำมาตย์เหมือนเดิม
ดังนั้นการไปจับมือกับพวกเสื้อเหลือง จึงรับใช้ยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ของพวกเสื้อเหลืองสันติอโศก และไปส่งเสริมแนวคิด "ชาตินิยมสุดขั้ว" ที่เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยเท่านั้น
ผมเชื่อว่าเสื้อแดงกลุ่มที่ไป ไปโดยพละการ และเป็นกลุ่มที่ไม่คุ้นมาก่อน
Re:
พึงสังวรณ์เอาไว้นะครับว่า พวกเสื้อเหลืองหน้าทำเนียบ เป็นพวกเสื้อเหลือง "ขวาสุดขั้ว" อยู่ปลีกขวาสุดของพวกเสื้อเหลือง อุดมการณ์และแนวคิดตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคนเสื้อแดง ยิ่งแดงสุดขั้วแบบแดงสยามหรือแดงสังคมนิยมด้วยแล้ว ยิ่งอยู่ตรงข้ามกับพวกเสื้อเหลืองหน้าทำเนียบในเวลานี้อย่างสิ้นเชิง
เสื้อแดงขึ้นเวทีเสื้อเหลือง (ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร) เท่ากับสร้างภาพความชอบธรรมให้กับเสื้อเหลือง "ชาตินิยมสุดขั้ว" นี้โดยตรง และบั่นทอนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ทำไปทำไม ทำไปด้วยความคะนอง (แต่บอกว่าเป็นข้าราชการเกษียณ) บุ่มบ่าม หรือเป็นเจตนาอื่นๆ
นี่ผมยังไม่วิจารณ์แรงกว่านี้นะครับ เพราะผมยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นกลุ่มไหน มีที่มาที่ไปอย่างไร เบื้องหลังเป็นอย่างไร
ผมบอกตรงๆ นะครับ ระบอบประชาธิปไตยเป็นปฎิปักษ์โดยตรงกับ "ลัทธิคลั่งชาติ" หรือชาตินิยมสุดขั้ว ประเภททวงดินแดน สร้างกระแสว่าชาติตนเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ (แต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่จริงๆ ) และแนวคิดคลั่งชาติ ก็นำไปสู่ลัทธิเผด็จการขวาจัด
ตัวอย่างชัดเจนคือ "ระบอบนาซีเยอรมัน" ที่เป็นลัทธิชาตินิยมสุดขั้ว อีกเหมือนกัน ที่คิดว่า เยอรมันเชื้อสายอารยันเท่านั้นที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ และสมควรปกครองโลก
ความรักชาติ กับ "ชาตินิยมสุดขั้ว" นั้นแตกต่างกัน
ความรักชาติก็คือเราปกป้องชาติเราไม่ให้มีใครมารุกราน แต่เราก็พร้อมที่จะร่วมมือและอยู่ร่วมกับคนเชื้อชาติอื่นอย่างเสมอภาคกัน ไม่คิดว่าชาติใด สูงส่งกว่าคนชาติอื่น คนแต่ละเชื้อชาติอาจแตกต่างกันได้จาก ระดับเศรษฐกิจ การศึกษา แต่ไม่มีเชื้อชาติใด มียีนส์พิเศษ สูงส่งกว่าเชื้อชาติใด ความแตกต่างกันมีเพียงโอกาสทางเศรษฐกิจ และการศึกษาเท่านั้น
Re:
พวก พธม. นี้วิชามารเยอะเหลือเกิน แสดงให้เห็นถึงความไม่บริสุทธิ์ในการเคลื่อนไหว เป็นกลุ่มที่ไว้ใจไม่ได้ในทางการเมือง ทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น
บอกให้รู้ว่าคนำพวกนี้โดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่คนดีอะไร ไม่ใช่วิญญูชนที่ประชาชนทั่วไปจะสมควรไปรับฟัง
การเคลื่อนไหวทางการเมืองตามความเชื่อของคนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน อันนี้ผมไม่ถืออะไร แต่ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจและโปร่งใส ไม่ใช่มีความเจ้าเล่ห์อะไรทั้งสิ้น คนสนับสนุนน้อยก็ต้องยอมรับว่าประเด็นที่เราเคลื่อนไหวไม่โดนใจประชาชน เขาจึงไม่เข้าร่วม ไม่ใช่เจ้าเล่ห์เพทุบายและแบบนี้
พวกคุณอาจหลอกคนบางคนได้ตลอดเวลา อาจหลอกคนส่วนใหญ่ได้บ้างครั้งบางความ แต่ไม่สามารถหลอกคนส่วนใหญ่ได้ตลอดไปอย่างแน่นอน สักวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฎว่าพวกคุณของแท้หรือของปลอม
ของจริงจะทนต่อการพิสูจน์ เหมือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงทั้งหลาย ที่ทนต่อการพิสูจน์ แม้จะโดนปราบปรามอย่างไร ก็ไม่อาจสลายของจริงได้
สันติอโศกนี่ เป็น" ขบวนการประชาชนทางธรรมมะ" ธรรมย่อมยึดถือความจริงเป็นที่ตั้ง มีสัจจะ และเชื่อถือได้
แต่จากการกระทำที่ผ่านมาหรือแม้แต่ครั้งนี้ พวกคุณก็เจ้าเล่ห์เพทุบายหลอกลวง จนผมไม่เชื่อว่าพวกคุณเป็นกลุ่มคนที่เคร่งธรรมแล้วครับ คนที่เคร่งธรรมมะย่อมไม่อาจประนีประนอมกับการหลอกลวงได้ อย่างน้อยจริยธรรมขั้นพื้นฐานคือความจริง ต้องเป็นสิ่งที่ยึดถือเอาไว้ ไม่ใช่แปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ อย่างนั้นก็ไม่ใช่ศีลธรรม จริยธรรมของผู้ที่เคร่งศาสนาแล้ว
ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่ผัก แต่หลอกลวง เจ้าเล่ห์ มันจะมีประโยชน์อะไร ก็แค่ "รสนิยมการชอบอาหารบางประเภท" เท่านั้น แต่ไม่ได้บรรลุธรรมอะไร ธรรมมะแตกต่างอะไรกับคนที่ทานเนื้อสัตว์แต่มีศีลมีธรรม มีสัจจะไม่เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ผมว่า "สาวกสันติอโศก" ไปทบทวนดูนะครับ
Re:
คุณ boonmie
ครับ
อย่าไปติดกัปดักของฝ่ายตรงข้าม ก็แสดงข้อมูลอย่างที่พวกเราทำอยู่ตรงนี้ และปฎิเสธว่าแดงกลุ่มนั้นไม่ใช่คนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวที่ราชประสงค์และที่อื่นๆ มีเจตนาแอบแฝง
ผมไม่คิดว่า การปฎิเสธการขึ้นเวทีของพวกเสื้อแดงแอบแฝง เราจะปฎิเสธไม่ได้ เราบอกชัดเจนว่าเราต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ใครจะสู้เพื่อประชาธิปไตย ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่สำหรับคนเสื้อเหลือง ก็ให้เขาสู้ของเขาไป คนเสื้อแดงไม่ร่วมมือด้วย จะปรองดองหรือไม่ไม่สำคัญ
และที่สำคัญคนเสื้อแดงไม่ได้ต้องการ "ความปรองดอง"
คนเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตย ความเท่าเทียมกัน และความไม่มีสองมาตรฐาน
หากไม่มีสิ่งเหล่านี้ การปรองดองก็ไม่มีประโยชน์อะไร เราไม่ต้องการความปรองดองแล้วยังอยู่ใต้เผด็จการ
บอกไปเลยว่าเสื้อแดงไม่ต้องการ "ความปรองดอง" แต่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง
ไม่ต้องไปแคร์กับใครทั้งสิ้น ทุกวันนี้สังคมไทยแบ่งออกเป็นสองขั้วอยู่แล้ว
คนเสื้อแดงก็เข้าใจคนเสื้อแดง ส่วนพวกเสื้อเหลือง ไม่เข้าใจก็เรื่องของพวกเขา
เราต้องการประชาธิปไตย เราไม่ได้ต้องการความปรองดอง