ที่มา thaifreenews
โดย bozo
เขียนโดย JJ_Sathon
กทม.ชงข้อเสนอหารืออนุญาโตตุลาการ กรณีรถ –เรือดับเพลิง เข้า ครม.
ตกลง “สไตเออร์ฯ” คิดราคาใหม่ และ กทม.จัดซื้อตามจำเป็น ได้ลดราคาเบื้องต้น 600 ล้าน
แถมค่ารักษาสภาพ 63 ล้าน ด้านสลค. โบ้ยกทม. ต้องแก้ปัญหาเอง
รถดับเพลิงกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) วันที่ 4 ม.ค.นี้
กระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร ( กทม. ) จะเสนอ ครม.พิจารณา
ให้ความเห็นชอบในหลักการเจรจาทำความตกลง
ระหว่าง กทม.กับบริษัท บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ ฯ จำกัด
ผู้ขายรถและเรือดับเพลิงรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ซึ่งขณะนี้ เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดย กทม.ได้เจรจากับฝ่ายบริษัทผู้ขาย
และได้ข้อสรุปคือ
1. กทม.เสนอให้บริษัทผู้ขายยอมรับว่าข้อตกลงซื้อขายไม่มีผลผูกพันมาแต่แรก
ซึ่งสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ดังนั้น เงินที่บริษัทผู้ขายได้รับ ต้องคืนให้ กทม.และรัฐบาล
โดยผลการเจรจา บริษัทผู้ขายยอมรับว่า ข้อตกลงซื้อขายไม่มีผลผูกพันมาแต่แรก
เงินที่บริษัทผู้ขายได้รับ จะคืนให้ กทม. และรัฐบาล
และบริษัทผู้ขายยอมรับว่าของที่ส่งมาทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทผู้ขาย
แต่สำหรับภาระในเรื่องค่าภาษีอากรนำเข้าสินค้า บริษัทผู้ขายเห็นว่า
ทั้งโดยข้อกฎหมายและข้อสัญญา ภาระดังกล่าวนี้เป็นความรับผิดชอบของ กทม.
2.กทม.เสนอให้คณะอนุญาโตตุลาการดำเนินกระบวนการพิจารณา
เพื่อหาข้อยุติเรื่องราคาของยานพาหนะดับเพลิงและอุปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ โดยรับฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอิสระเป็นผู้ประเมินราคา
ให้ กทม.มีสิทธินำสืบหรือเสนอความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และพยานหลักฐานอื่น
ที่เกี่ยวข้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการด้วย บริษัทผู้ขายยอมรับข้อเสนอนี้
3. กทม.เสนอว่า กทม.จะซื้อสิ่งของตามความจำเป็นที่แท้จริง
ที่ต้องใช้ในราชการโดยยึดถือตามราคาที่ได้มีการพิจารณาเป็นที่ยุติ
โดยคณะอนุญาโตตุลาการตามข้อ 2
และการจัดซื้อต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของราชการไทย
โดยบริษัทผู้ขายยอมรับที่ กทม.จะซื้อสิ่งของตามความจำเป็นที่แท้จริง
ที่ต้องใช้ในราชการ แต่มีเงื่อนไขว่าบริษัทจะปรับลดราคาสินค้าให้เป็นตามราคาขั้นต่ำ
ตามการประเมินของผู้ประเมินราคาอิสระที่จะนำเสนอต่อคณะอนุญาโตตุลาการ
ซึ่งเทียบได้เป็นประมาณร้อยละ 10 ของราคาสินค้าตามข้อตกลงซื้อขาย
ซึ่งจะเท่ากับเป็นราคาที่ลดลงประมาณ 668,479,900 บาท
และผู้ขายจะจ่ายเงินช่วยค่าซ่อมและปรับสภาพสินค้าให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี
เสมือนเป็นของใหม่อีกเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 1.528 ล้านยูโร หรือ 63,049,100 บาท
http://www.go6tv.com/2012/01/blog-post_03.html