ที่มา Thai E-News
โดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
(เขียนเมื่อ 23 เมษา 2551)
ที่มา Charnvit Ks
ดร.ชาญ วิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอธิการบดี ธรรมศาสตร์ ตอบคำถาม เรื่องธรรมเนียมการยืนเคารพเพลง สรรเสริญพระบารมี ในโรงหนัง ในเมล์ลิสต์ ของนักวิชาการและนักกิจกรรมกลุ่มหนึ่ง ดังนี้
ต่อคำถามที่ว่า ธรรมเนียมการยืนเคารพเพลงสรรเสริญ พระบารมี ในโรงหนัง มีมาแต่เมื่อไร และมีขึ้นเพราะเหตุใดนั้น ขอตอบว่าธรรมเนียมนี้ สยามประเทศ (ไทย) ลอกเลียนมาจากอังกฤษ เมื่อประมาณเกือบ 1 ร้อยปีมาแล้ว
กล่าวคือ เมื่อประมาณทศวรรษ 1910 เมื่อเริ่มต้น มีโรงหนังนั้น เมื่อฉายหนังจบ อังกฤษ ก็ให้มีการฉายพระฉายาลักษณ์ ของคิงยอร์ชแล้วก็ให้บรรเลงเพลง God Save the King ธรรมเนียมนี้ เกิดขึ้นในยุคสมัยที่อังกฤษ ต้องการปลุกระดมลัทธิชาตินิยม และความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ ตามคำขวัญว่า God, King, and Country
สมัยนั้น อังกฤษต้องต่อสู้กับเยอรมนี และอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กษัตริย์อังกฤษ ต้องทำตนให้เหมือน เป็นอังกฤษแท้ๆ ต้องเปลี่ยนนามราชวงศ์ ที่ฟังดูเป็นเยอรมันคือ 'Saxe-Coburg-Gotha' ให้ฟังดูเป็นอังกฤษ คือ 'Windsor'
ธรรมเนียมนี้ ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด ในเมืองแม่ และถูกนำไปใช้บังคับในอาณานิคมทั่วโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในอินเดีย สิงคโปร์ มลายา และพม่า
ธรรมเนียมดังกล่าว ตกทอดมาจนถึงตอนต้นๆ ของรัชสมัยควีนอลิซาเบธ แต่ปัจจุบันนี้ อังกฤษได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะเมื่อประมาณปลายทศวรรษ 1950 กับต้นทศวรรษ 1960 บรรดานักศึกษาชั้นนำ ของทั้งออกซฟอร์ด และเคมบริดจ์ เริ่มประท้วงไม่ยอมยืนเคารพ แถมยังเดินออกจากโรงหนัง เมื่อหนังจบอีกด้วย ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ และเจ้าของโรงหนัง ต้องแก้ไขด้วยย้ายการบรรเลงเพลงสรรเสริญ/การฉายภาพมาไว้ ก่อนหนังฉาย แต่ก็ไม่ได้ผล ตกลงเลยต้องยกเลิกธรรมเนียมนี้ไป เมื่อประมาณ 30 หรือ 40 ปีมานี้เอง
สำหรับสยามประเทศ (ไทย) ของเรา ก็ได้ลอกเลียนธรรมเนียมนี้มาจากอังกฤษ โดยบรรดา "พวกหัวนอก/นักเรียนอังกฤษ" กับ "เจ้าของโรงหนัง" แต่เดิม ก็บรรเลงเพลง/ฉายภาพ เมื่อหนังเลิกส่วนก่อนหนังฉาย ก็มักจะมีโฆษณาสินค้า แต่เมื่อสักประมาณทศวรรษ 1970 ได้ดัดแปลงธรรมเนียมนี้ใหม่คือ ย้ายการเปิดเพลง "ข้าวรพุทธฯ" มาไว้ตอนก่อนหนังฉาย กระทั่งทุกวันนี้
เข้า ใจว่าในปัจจุบัน ธรรมเนียมดังกล่าว ถูกยกเลิกไปหมดแล้ว ในประเทศในยุโรป รวมทั้งก็ได้ยกเลิกไปจากโรงหนัง ในอดีตอาณานิคมทั้งหลายเช่นกัน
รวมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า . . .
พลงสรรเสริญพระบารมี มีมาแต่หนไหน
แต่เดิม ไทยสยาม ไม่มีเพลงเช่นว่านี้
แต่เมื่อต้องคบหากับฝรั่งเจ้าลัทธิอาณานิคม ก็รับทำเนียมฝรั่งมา
และในสมัยรัชกาลที่ 4 และต้นรัชกาลที่ 5
ก็เคยยืม God Save the Queen (วิกตอเรีย) มาใช้
ต่อมา เมื่อ พ.ศ. 2431 (1888) กลางสมัยรัชกาลที่ 5
ทรงเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะทำให้ดูเหมือนสยามเป็น มลายู/สิงคโปร์
จึงทรงจ้างฝรั่งรัสเซีย นาม ปโยตร์ ชูรอฟสกี้ (Pyotr Schurovsky)
ประพันธ์ทำนอง
แล้วโปรดให้ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ นิพนธ์ เนื้อร้องขึ้น
(เนื้อร้องเดิม ลงท้ายด้วยคำว่า "ฉนี้" ก่อนถูกเปลี่ยนเป็น "ชโย")
cK@Singhapura
กล่าวคือ เมื่อประมาณทศวรรษ 1910 เมื่อเริ่มต้น มีโรงหนังนั้น เมื่อฉายหนังจบ อังกฤษ ก็ให้มีการฉายพระฉายาลักษณ์ ของคิงยอร์ชแล้วก็ให้บรรเลงเพลง
สมัยนั้น อังกฤษต้องต่อสู้กับเยอรมนี และอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่
ธรรมเนียมนี้ ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด ในเมืองแม่ และถูกนำไปใช้บังคับในอาณานิคมท
ธรรมเนียมดังกล่าว ตกทอดมาจนถึงตอนต้นๆ ของรัชสมัยควีนอลิซาเบธ แต่ปัจจุบันนี้ อังกฤษได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะเมื่อประมาณปลายทศวรรษ 1950 กับต้นทศวรรษ 1960 บรรดานักศึกษาชั้นนำ ของทั้งออกซฟอร์ด และเคมบริดจ์ เริ่มประท้วงไม่ยอมยืนเคารพ แถมยังเดินออกจากโรงหนัง เมื่อหนังจบอีกด้วย ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ และเจ้าของโรงหนัง ต้องแก้ไขด้วยย้ายการบรรเลงเพลง
สำหรับสยามประเทศ (ไทย) ของเรา ก็ได้ลอกเลียนธรรมเนียมนี้มาจาก