"สมชาย" ลั่นให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน จับมือแก้ปัญหความขัดแย้ง แจงเหตุสลายม็อบหน้ารัฐสภา พร้อมตั้ง กก. 2 คณะ สอบข้อเท็จจริง "ใครฆ่าประชาชน?" นายกฯปัดกระแส "ไขก็อกหนีม็อบถ่อย" ยันไม่คิดลาออกหรือยุบสภา แนะตั้ง ส.ส.ร.3 คลี่คลายวิกฤตชาติ-ปฏิรูปการเมืองไทย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า ขณะนี้บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งทางความคิดอย่างมากมาย มีการชุมนุมประท้วงที่บางครั้งเกินกรอบที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้การชุมนุมสามารถทำได้แต่ขอให้อยู่ในขอบเขต เพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น พร้อมระบุรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ดังนั้นต้องรับผิดชอบประชาชน รัฐสภา ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ส่วนเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นนั้น ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ และได้ตั้งคณะทำงานขึ้น 2 ชุด ชุดแรก คือ คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะใช้เวลาในการสอบสวนไม่นานนัก ส่วนชุดที่สอง เป็นคณะทำงานที่ทำหน้าที่เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย โดยจะดูภาพรวมในเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมด
นอกจากปัญหาการเมืองแล้ว นายกรัฐมนตรียังระบุถึงปัญหาเศรษฐกิจที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากขณะนี้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก และเชื่อว่าเอเชียก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย การลงทุนธุรกิจขนาดย่อม การจ้างงานจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องร่วมกันรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประเทศโดยรวม
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวาระสำคัญที่ใกล้จะมาถึง คืองานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ขณะนี้การดำเนินการต่างๆ ใกล้แล้วเสร็จ ต่อจากนั้นจะเป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดประชุมอาเซียน ดังนั้นประไทยจะต้องแสดงความพร้อม ความสามัคคีให้ต่างชาติได้รับรู้ และประชาชนได้มีส่วนร่วม พร้อมขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คืนสถานที่เพื่อจัดงานให้สมเกียรติ เพราะเป็นงานสำคัญที่จะเชิดชูเกียรติยศของประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันเกิดข่าวลือหลายอย่าง จึงขอให้ประชาชนรับฟังโดยใช้วิจารณญาณและสามัญสำนึก เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เพราะมีหลายฝ่ายพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หรือให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ตนเองยืนยันไม่คิดยุบสภา หรือลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง อย่างไรก็ตาม หากแนวทางข้างต้นพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเกิดประโยชน์ตนเองก็พร้อมลาออก หรือยุบสภา และเห็นว่าสิ่งสำคัญ คือการหาทางออกโดยการร่วมกันแก้ปัญหา โดยเฉพาะการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปการเมือง