ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งชัดเจนขึ้นทุกขณะ และกลุ่มคนที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองก็ยังคงพยายามทำตัวเหนือกฎหมายหนักข้อขั้นทุกที พยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายรุนแรงในบ้านเมืองอบ่างต่อเนื่อง นั้น
ลือกระหึ่มทหารเตรียมปฏิวัติ
ได้เกิดข่าวลือว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง มีการยืนยันว่ามีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าวจริง โดยมีนายทหารนอกราชการเป็นแกนนำ สั่งการให้นายทหารยศพลเอก เป็นผู้ดำเนินการ แต่แนวคิดดังกล่าวก็ถูกคัดค้านจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่มีทีท่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหารมาอย่างต่อเนื่องและเชื่อว่าปัญหาบ้านเมืองยังมีทางออก
ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นยังไปสอดรับกับท่าทีของ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผบ.ทอ. หรือพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ที่ระบุว่าได้เตรียมทางออกของปัญหาบ้านเมืองเอาไว้แล้ว รวมไปถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เลี่ยงที่จะไปร่วมพิธีเปิด โครงการ "สานใจไทยสู้ใจใต้" รุ่นที่ 10 ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ที่มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดงาน และมีนายทหารหลายนายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
จี้สอบวินัยพวกเปิดประเด็นปฏิวัติ
ผศ.จรัล ดิษฐาอภิชัย หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงข่าวลือที่จะมีการปฏิวัติโดยทหารอีกครั้งภายว่า ทราบเรื่องนี้มาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นนายทหารในกองทัพบก คาดว่าหากจะมีการปฏิวัติก็จะเกิดภายใน 2-3 วันนี้ จากเดิมที่มีการกำหนดจะปฏิวัติกันในค่ำวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยเหตุบางอย่างที่ไม่สามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ มีการยืนยัรนถึงผู้สั่งการและผู้ที่รับมาปฏิบัติอย่างชัดเจน และกรณีที่มีการระบุว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอแนวความคิดนั้น ผศ.จรัล ปฏิเสธที่จะพูดถึงรายละเอียด และมองว่าทหารคนใดที่ออกมาพูดว่าจะทำการปฏิวัติอย่างชัดเจน ควรตั้งคณะกรรมการสอบวินัย แต่ทั้งนี้คนที่เกษียรไปแล้วก็คงจะไม่ได้รับผลอะไร
พร้อมปลุกประชาชนต้านปฏิวัติ
นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ประธานชมรมพิทักษ์สิทธิประโยชน์คนขับรถแท็กซี่ หยึ่งในแกนนำ นปช. กล่าวถึงข่าวลือปฏิวัติว่าตนเองและสมาชิกในกลุ่มไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการเมืองจะต้องแก้ไขด้วยการเมือง หากเกิดการปฏิวัติจริง ตนและประชาชนที่ท้องสนามหลวงจะลุกขึ้นสู้และปลุกระดมให้พี่น้องทั่วประเทศขัดขวาง และปกป้องอำนาจอธิปไตย
“ประเทศไทยจะต้อิงปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่ใช่เผด็จการ”
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตลอดจนนายทหารและคนบางกลุ่ม พยายามชี้ชวนใหฟ้เกิดการรัฐประหารอีกครั้งนั้น การกระทำอย่างนี้เข้าข่ายยุยงให้เกิดการกบฏ ล้มล้างอำนาจอธิปไตย และรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายหลายมาตรา การพูดของพล.อ.ชวลติ เป็นการพูดเรื่อยเปื่อย หาจุดยืนไม่ได้ ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่
แนวร่วมยึดคืนทำเนียบคึกคัก
ด้านพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ (รอง อ.ตร.) ออกมาย้ำอีกครั้งถึงแผนการยึดทำเนียบรัฐบาลคืน โดยระดมอดีตครูฝึกหน่วยคอมมานโด หน่วยปราบจราจล และตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) ให้เข้ามาอยู่ในทีม เพื่อเรียกลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจนอกราชการมาตั้งเป็นกองกำลังยึดทำเนียบรัฐบาลคืนจากพันธมิตรฯ
ขณะที่แกนนำชมรมคนรักอุดรยอมรับได้รับการติดต่อจาก พล.ต.อ.สล้าง ให้นำคนมาเข้าร่วม รวมทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ออกมาขานรับความคิดดังกล่าว และประกาศยินดีจะส่งคนมาเข้าร่วมกับกองกำลังเพื่อล้อมกรอบกลุ่มพันธมิตรฯ
สะท้อนพลังเงียบสุดทนพันธมิตร
ส่วนการจัดรายการ “ความจริงวันนี้สัญจร” ที่ผ่านมา ที่อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งมีผู้คนหลายหมื่นคน เดินทางเข้าไปร่วมงานกันอย่างล้นหลาม นั้น ก็ถูกมองว่าเป็นอีกสัญญาณที่ดีของฝ่ายประชาธิปไตย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการสะท้อนถึงพลังของประชาชนที่ต้องการปกป้องบ้านเมืองให้ดำรงอยู่โดยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจากการที่ได้สังเกตดูพบว่าเป็นคนกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนเมื่อครั้งที่เป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) บุคคลกลุ่มนี้เป็นพลังเงียบในสังคมที่เริ่มส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งตนมั่นใจว่าหากจัดกิจกรรมเช่นนี้ขึ้นอีก จะยิ่งทำให้คนเข้าร่วมชุมนุมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมตนคิดว่าจะมีผู้คนเข้าร่วมงานเพียง10,000 – 15,000 คน เท่านั้น
ทั้งนี้การที่บุคคลเข้าไปร่วมงานโดยไม่ได้นัดหมายเป็นปรากฏการณ์การส่งสัญญาณของบุคคลพลังเงียบ ซึ่งหลังจากนี้จะมีคนส่งเสียงดังมากขึ้น อีกทั้งทางรายการความจริงวันนี้จะจัดกิจกรรม “ความจริงวันนี้สัญจร” ขึ้นอีก
“การที่คนเข้าร่วมงานครั้งนี้ได้สะท้อนถึงพลังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการปกป้องบ้านเมืองให้ดำรงอยู่โดยระบอบประชาธิปไตย และจากการที่ได้สังเกตดูพบว่าคนจำนวนมากที่มางานเป็นคนกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยเจอหน้า เป็นพลังเงียบในสังคมที่เริ่มส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ” นายณัฐวุฒิกล่าว
35ปี14ตุลาถอยหลังเข้าคลอง
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีการเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อ 35 ปี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่า ตนไม่สามารถเรียกกลุ่มพันธมิตรฯว่าเป็นการทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างเมื่อ 35 ปีก่อนได้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ได้ออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจากการยึดอำนาจที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีก่อน ได้มีบุคคลหลายคนเข้ามามีบทบาทและตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ไหนเข้าไปร่วมเหตุการณ์ยึดอำนาจและเข้าไปมีบทบาทในรัฐบาลชุดเผด็จการเลย
อีกทั้งการเคลื่อนไหวเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับเหตุการณ์เมื่อ 35 ปีที่แล้วไม่ได้เลย หากเปรียบเทียบถึงความแตกต่างจะเห็นได้ชัด แต่ถ้าเปรียบถึงเรื่องความเรียกร้องในความเป็นประชาธิปไตยไม่มี
“การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ จะเอามาเปรียบเทียบเมื่อ 35 ปีก่อนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะเปรียบเทียบถึงความแตกต่างเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน แต่อย่าเอามาเปรียบเทียบถึงความเป็นประชาธิปไตยเพราะมันไม่มีเลย” โฆษกรัฐบาลกล่าว
คนรักปชต.หนุนรัฐบาลสู้
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เป็นการสะท้อนว่าขณะนี้ได้รู้ว่าประชาชนคิดอะไร ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นที่เมืองทองเป็นการแสดงว่าถึงเวลาแล้วที่คนรักประชาธิปไตยจะไม่ยินยอมให้ทำร้ายบ้านเมือง และกลุ่มคนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมเป็นเครื่องหมายที่สื่อออกมาว่าไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ หรือพวกเผด็จการจะกระทำการใดๆ กลุ่มคนใส่เสื้อแดงจะต่อสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งผู้คนในอาคารธันเดอร์โดมได้ส่งเสียงออกมาเพื่อไม่ให้รัฐบาลยุบสภาหรือลาออกจนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหนทางข้างหน้าเป็นหน้าที่ของฝ่ายพลังเสื้อแดงที่ต้องรักษาปกป้องรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้อยู่ในกลไก แต่ด้วยพลังประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะเป็นคนโอบหลังไว้ อีกทั้งสิ่งที่จะดำเนินการต่อไปคือการทำความจริงให้ปรากฏจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเรื่อง
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความรับผิดชอบโดยการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 2 ชุด และระหว่างที่รอผลการตรวจสอบกลุ่มพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรไหม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแกนนำกลุ่มพันธมิตรทั้ง 9 คนได้ลดคดีลงถึง 2 คดีจาก 4 คดี พาประชาชนไปตายแต่โทษลดลงหมายความว่าอย่างไร อีกทั้งเหตุการณ์รถจิ๊ประเบิดมีทหารเสียชีวิตแต่กลุ่มพันธมิตรไม่เชิดชูยกย่องเหมือนกับนางสาวอังคณาที่เสียชีวิตทั้งๆที่เป็นกลุ่มพันธมิตรเช่นกัน จึงมีความสงสัยว่าทำไมปฏิบัติต่อคนทั้ง 2 ไม่เท่ากัน นั่นเป็นเพราะทั้งหมดเป็นกระบวนที่กลุ่มพันธมิตรฯจัดขึ้น ฉะนั้นหลายอย่างต้องมีการสอบสวน
คนเสื้อแดงพร้อมใจหาความถูกต้อง
นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย พร้อมใจกันสวมเสื้อแดงมาร่วมงาน ความจริงวันนี้ ที่อาคารทันเดอร์โดม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุที่มีประชาชนคนไทยร่วมหลายหมื่นคนมาร่วมงานครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะประชาชนได้รับความอึดอัดใจ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ประชาชนรู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรที่รักษาความเป็นธรรม อย่างเช่นในตอนนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังถูกยำยี จากหลายกระแส จึงเชื่อว่าเป็นเหตุหนึ่งที่ทำประชาชนมาร่วมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง และความเป็นธรรม
“ตำรวจถูกย่ำยี และไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งเมื่อใดที่ประชาชนเชื่อและรู้สึกอึดอัดใจจากองค์กรที่รักษาและให้ความเป็นธรรมว่ามีพฤติกรรม มันก็จะเกิดปรากฏการณ์อย่างงานความจริงวันนี้ นี่เป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่า คนมากันอย่างล้นหลามให้ความสนใจอย่างอุ่นหนาฝาครั่ง เป็นเพราะว่าระบบความยุติธรรมทุกวันนี้มันมีการเลือกปฏิบัติ เรามาเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง”
คนตจว.จ่อเดินทางร่วมชุมนุม
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนทำการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่จ.ลพบุรี ในพื้นที่อ.เมือง อ.บ้านหมี่ และ อ.ท่าวุ้ง ตามปกติ พร้อมกับมีการพูดคุยปฏิสัมพันธ์ทางการเมือง
โดยประชาชนในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความเบื่อหน่ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก โดยมองว่าที่ผ่านมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งในวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ ประชาชนทั้งหลายในพื้นที่จะรวมกลุ่มกัน ประมาณ 500-600 คน เพื่อมาร่วมแสดงจุดยืนในประชาธิปไตยกับกลุ่มนปช.ที่ท้องสนามหลวง
“ไม่น่าเชื่อว่าชาวบ้านเขาจะพูดกับผมว่า ถ้าต้องมีการเลือกข้าง ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่ขอเลือกข้างประชาธิปไตย ไม่ขอเลือกข้างพันธมิตรฯ เพราะตอนนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วว่า ประเทศชาติเสียหายเพราะใคร” นายสุชาติกล่าว
เช่นเดียวกับประชาชนอีกหลายจังหวัดที่แสดงความประสงค์จะเข้าร่วมการชุมนุม