คอลัมน์ : ละครชีวิต
การวางตัวให้เป็นกลางของ “ผู้หลักผู้ใหญ่” ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรงแบบนี้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน ไม่ใช่เกิดความขัดแย้งแบบธรรมดา แต่กำลังเกิดความขัดแย้งที่มากขึ้นทุกๆ วัน จนจะกลายเป็น “สงครามกลางเมือง” อยู่แล้ว
ดังนั้นผู้หลักผู้ใหญ่จะต้องวางตัวให้เป็นกลาง แต่ในทางกลับกัน สถานการณ์ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่าไร กลับไม่เจอผู้ใหญ่ที่วางตัวเป็นกลางเลย
มีบางคนบอกว่ามีแต่ผู้ใหญ่เฮงซวย ...แต่ผมรู้สึกว่าคำๆ นี้มันแรงไป เพราะสังคมไทยไม่ชอบให้ก้าวร้าวกับผู้หลักผู้ใหญ่
ย้อนกลับไปตอนผมเด็กๆ มักจะได้ยินคำว่า “ผู้ใหญ่เฮงซวย” เช่น ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนก็จะเจอคนอื่นด่ากันว่า ผู้ใหญ่เฮงซวย ชอบสั่งสอนในเรื่องผิดๆ ให้เด็ก
ขณะเดียวกันเติบโตขึ้นมาอีกหน่อยเข้าสู่สังคมการทำงานก็จะเจอคนอื่นๆ ที่ด่าผู้ใหญ่เฮงซวยว่า “วางอำนาจบาตรใหญ่” ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ถ้าเขยิบออกไปอีกหน่อยในระดับชาติก็จะเจอผู้ใหญ่เฮงซวยอีกประเภท ซึ่งอันหลังสุดนี้ถือเป็นความเฮงซวยที่ทุกคนต้องได้รับผลกระทบจากผู้ใหญ่ประเภทนี้
ช่วงนี้คอการเมืองคงจะเห็นการปรากฏตัวของ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ที่ไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หัวหน้าการ์ดม็อบพันธมิตรฯ ที่เสียชีวิตคาซากรถจี๊ปเชอโรกีระเบิด
นายอานันท์ ตระเวนเดินสายเยี่ยมนางสาววิชุดา ระดับปัญญาวุฒิ มารดาของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ที่เสียชีวิตจากเหตุสลายม็อบหน้ารัฐสภา
นายอานันท์ ยกย่องบุคคลพวกนี้ว่าเป็น “ผู้เสียสละ” ราวกับว่าไปรบกับโจรใต้
นายอานันท์ไม่ได้ลืมหูลืมตาดูเลยว่าบุคคลพวกนี้ไปก่อเหตุอะไรมา
พวกนี้ไปบุกยึดรัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และไม่ให้เจ้าหน้าที่ของอาคารรัฐสภาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่
พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องไปยกย่องเชิดชูว่าเป็น “คนดี” หรือ “วีรสตรี” แต่สำควรที่จะประณามให้สาสมกับความเลว
นอกจากนายอานันท์แล้ว ยังมีผู้ใหญ่เฮงซวยอีกหลายคน เช่น ศ.ระพี สาคริก ที่ส่งสารไปถึงเวทีพันธมิตรฯ เป็นประจำ
รวมทั้ง นพ.ประเวศ วะสี ที่เคยเขียนบทความ ชื่อ “ถอนเสี้ยนออกจากเนื้อ เพื่อสมานฉันท์ได้”
นพ.ประเวศ บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเสี้ยนที่ตำอยู่ในเนื้อ ต้องถอนเสี้ยนออกก่อนแผลจึงจะสมาน แถมยังตะแบงอีกว่า ทักษิณต้องหยุดเล่นการเมือง
สถานการณ์แบบนี้เมืองไทยกำลังต้องการคนกลางเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ใช่เอาผู้ใหญ่เฮงซวยที่วางตัวไม่เป็นกลาง อคติตั้งแต่เริ่มต้น มาป่าวประกาศให้อีกฝ่ายเป็นนักโทษ
บ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตย ประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาบริหารประเทศ
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ... เพราะฉะนั้น อานันท์ - ประเวศ - ระพี ควรจะสงสาร ลูกๆ หลานๆ บ้าง
ปล่อยให้ประเทศชาติพัฒนาไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ...ไม่ใช่มาสกัดกั้นให้บ้านเมืองล้าหลังเพียงแค่นี้
สงสารประชาชนบ้างเถอะครับ !