WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, October 12, 2008

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาตัวรอด เขาไม่ทำรัีฐประหารอย่างแน่นอน

บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหรบกนั้น เป็นคนที่อ่านไม่ยาก และไม่ได้มีความจริงใจกับใครทั้งสิ้น เป็นคนที่ต้องการเอาตัวรอด และค่อนข้างเห็นแก่ตัว

โดยพื้นฐานแล้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั้นเป็นคนฉลาด และส่วนใหญ่คนฉลาด จะไม่โดนใฝครหลอกใช้โดยง่าย และจะเห็นแก่ตัว เพราะคนฉลาด จะสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ หรือผลลัพท์ของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ค่อนข้างดีกว่าคนโง่ ดังนั้น จึงถูกหลอกใช้ได้ยาก แต่ แต่จะหลอกใช้คนอื่นๆ ได้ง่าย การจะใช้คนฉลาด จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน เขาจึงจะทำงานให้ และการแลกเปลี่ยนต้องคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

คนฉลาดไม่ยอมตายเพื่อใครอย่างแน่นอน


เราจะเห็นได้ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เข้าข้าง คมช. ทำรัฐประหาร รัฐบาลนายกฯ ทักษิณ เพราะหากเขาอยู่ข้างทักษิณอย่างจงรักภักดีเต็มที่ คาดว่าไม่มีทางที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะได้ขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ.อย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นแค่ ตท. 10 คนหนึ่งเท่านั้น และทักษิณษิณได้วางตัว พล.อ.พรชัย กรานเลิศ เป็น ผบ.ทบ. ไว้เรียบร้อยแล้ว หากไม่มีการทำรัฐประหาร พล.อ.อนุพงษ์ คงได้อย่างเก่งก็ตำแหน่ง รอง ผบ.สูงสุด หรือปลัดกระทรวงกลาโหม

เมื่อเลือกยืนอยู่ข้าง คมช. ทำรัฐประหาร พล.อ.อนุพงษ์ ก็มีโอกาสเบียดเ้ข้าชิง ตำแหน่ง ผบ.ทบ. แข่งกับ พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร เมื่อมีโอกาสได้เข้าชิงแล้ว พล.อ.อนุพงษ์ก็เลือกเดินเกมอย่างฉลาด เพราะเขายังมีคู่แข่งอีกคนคือ พล.อ.สะพรั่ง เพราะสะพรั่งเลือกเล่นบทรุนแรง หากอนุพงษ์เล่นตาม ก็จะแพ้สะพรั่ง อนุพงษ์จึงเลือกบทอ่อนโยน เพื่อให้เป็นตัวเลือกว่าจะไม่ทำให้สถานการณ์บานปลาย เพราะสถานการณ์ช่วงนั้น คมช. ยึดอำนาจได้แล้ว และไม่คิดว่า พรรคไทยรักไทยเดิม จะกลับมาชิงอำนาจได้อีก พวกอำมาตย์จึงเลือกวางตัว ผบ.ทบ. ที่ประนีประนอม มากกว่าคนเลือดร้อนอย่าง พล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร หากพวกเขาทราบล่วงหน้าว่า พรรค พปช. จะกลับเข้าสู่อำนาจแทนทักษิณ ผมคิดว่าพวกเขาต้องเลือก พล.อ.สะพรั่ง เป็น ผบ.ทบ. อย่างแน่นอน

กลยุทธ์ของ พล.อ.อนุพงษ์ ในช่วงนั้น สถานการณ์แบบนั้นจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีและชาญฉลาด เมื่อได้ตำแหน่ง ผบ.ทบ. แ้ล้ว อนุพงษ์ก็เหมือน ได้บอลไปแล้ว การทำรัฐประหาร สำหรับอนุพงษ์ในขณะนี้ มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีทางได้ดีไปมากกว่านี้อีกแล้ว คนฉลาดอย่างอนุพงษ์ไม่เล่นเกมที่ตัวเองมีแต่เสียอย่างแน่นอน


หาก พล.อ.อนุพงษ์ เล่นบทภักดีต่อใครยิ่งกว่าชีวิต ชีวิตนี้เกิมาเพื่อคนอื่น เป็นทาสรับใช้คนอื่น เหมือนหมาที่ภักดีต่อเจ้าของ สั่งอะไรก็ทำตาม ชีวิตหลังรัฐประหารของ พล.อ.อนุพงษ์ คงไม่มีความสุขสงบ มีเกียรติอย่างแน่นอน
ผมไม่เชื่อว่าคนฉลาดอย่างอนุพงษ์ที่สามารถชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ.มาได้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ตัวเลือกของทักษิณแต่ต้น จะโง่ขนาดนั้น หรือยอมเป็นทาสรับใช้คนอื่นขนาดนั้น

การทำรัฐประหาร ไม่ว่ามองมุมใด ก็ไม่ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ใครบางคนจะดีขึ้น ใครบางคนจะมีอำนาจมากขึ้น และเมื่อทำรัฐประหารแล้ว พล.อ.อนุพงศ์ก็จะสูญเสียอำนาจการต่อรองไปโดยสิ้นเชิง และจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกันกับ พล.อ.สนธิ ที่สู้หน้าสังคมไม่ได้ ต้องอยู่หลังปลดเกษียณอย่างหลบๆ ซ้อนๆ ไม่ได้มีเกียรติยศแต่อย่างใด ไม่สมกับคนที่เคยเป็นถึง รัฐฐาธิปัตย์เลย

ดังนั้น คนฉลาดอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ ผมไม่เชื่อว่าจะยอมทำตามคำสั่งของใคร โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้ประโยชน์อย่างแน่นอน

ทำรัฐประหาร พล.อ.อนุพงษ์ ก็ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หากได้เป็นก็คงอยู่ได้ไม่นานและไม่สามารถรับแรงเสียดทานจากสังคมที่วุ่นวาย ต่างชาติไม่ให้การรับรอง มีสภาพเหมือนออกจากมุม มาโดนชกอย่างเดียว ต้องออกมารับปัญหาทุกอย่างแทน กลายเป็นหนังหน้าไฟ และใช่ว่ามีอำนาจ จะสามารถแก้ปัญหาอะไรในประเทศขณะนี้ได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะมองอย่างไร หากวิเคราะห์อย่างคนมีสติปัญญา ไม่ได้เชื่อตามข่าวลือต่างๆ แต่วิเคราะห์จากตัวแปรต่างๆ แล้ว พล.อ.อนุพงษ์ไม่ทำรัฐประหารอย่างแน่นอน

พล.อ. อนุพงษ์จะทำรัฐประหารได้กรณีเดียวเท่านั้น คือ เขาจะโดนปลดจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.


ในโลกนี้มีคนปลดอนุพงษ์ได้คนเดียวคือ นายกรัีฐมนตรี

องคมนตรีหรือใคร ๆ ก็ไม่สามารถปลด พล.อ.อนุพงษ์ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ได้ ไม่ว่าจะมีอิทธิพลหรือบารมีมากมายแค่ไหนก็ตาม หากนายกรัฐมนตรีไม่ลงนามสั่งปลด ก็ไม่มีใครสามารถสั่งปลด พล.อ. อนุพงษ์ได้

หากนายกรัฐมนตรี (เป็นใครก็ตาม) ไม่ปลด พล.อ.อนุพงษ์ ผมก็ไม่เชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์จะยอมขยับมาทำรัฐประหารตามคำสั่งของใคร หรือการให้สัญญาณของใครอย่างแน่นอน เพราะนั้นไม่ใช่การทำเพื่อตัวเอง หรือประเทศชาติ แต่ทำเพื่อรักษาอำนาจของใครบางคน หรือเพื่อคนบางกลุ่มเท่านั้น

ผมจึงเชื่อว่า คนฉลาดจะไม่ทำอะไรโ่ง่ๆ โดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เป็นแน่

และผมไม่เชื่อว่า ผู้มีบารมีคนใด จะสั่งอนุพงษ์ให้ทำรัฐประหารได้ด้วย

แต่ พล.อ.อนุพงษ์ก็เจ้าเล่ห์ คือ ยื่นมือแตะกับทุกฝ่าย ไม่ว่าเจ้ หรือป๋า หรือนายกฯ

เขาไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่เขาทำเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด และทางรอดเพื่อมีชีวิตอย่างสุขสงบ มีเกีียรติคือ การไม่ทำรัฐประหาร นั่นเอง

เมื่อพล.อ.อนุพงษ์ไม่ทำรัฐประหาร คนที่มีแนวโน้มว่าจะทำรัฐประหารได้อีกคน ที่เราพอมองเห็นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ.

เพราะคนๆ นี้หัวรุนแรง ตอนเป็น แม่ทัพภาค 1 ออกมาเต้นรับใช้ คมช.ตลอด ออกมาโต้รายวัน

แต่ผมเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็ฉลาดๆ พอๆ กับ พล.อ.อนุพงษ์ คือ สมัยเป็นแม่ทัพภาค 1 พล.อ.ประยุทธ์ มีคู่แคนดิเดทหลายคน ก็ต้องออกกำลังเพื่อให้ตัวเองโดดเด่น เป็นตัวเลือกที่จะสืบทอดตำแหน่ง ผบ.ทบ.ในอนาคต

แต่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเข้ามานั่งใน 5 เสือ ทบ. รอสวมตำแหน่ง ผบ.ทบ. ต่อจากอนุพงษ์เรียบร้อนแล้ว ไม่ทำอะไรก็ได้เป็นอย่างแน่นอน

ดังนั้น ความจำเป็นในการ "โชว์ผลงาน" เพื่อให้เ็ป็นตัวเลือกที่โดดเด่น จึงไม่มีอีกแล้ว

กลยุทธ์ที่ดีที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ ในตอนนี้ คือ การเงียบ ไม่ให้โดนแรงต้านจากประชาชน ลดบทบาทลง เพื่อไม่ให้กลายเป็นเป้า

การทำรัฐประหาร สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ในขณะนี้ จึงเป็นการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ผลประโยชน์มีอย่างเดียวคือ ได้เป็น ผบ.ทบ.

แต่ไม่ทำรัฐประหารก็ได้เป็นอยู่แล้ว ผมจึงไม่เชื่อว่า ประยุทธ์ จะโง่อีกเหมือนกัน

ผมว่า ใครบางคน ต้องไปหาทหารโง่ๆ คนอื่น ที่บังเอิญคุมกำลังและหากเสี่ยงแล้วเขาได้มากกว่าเสีย และมีสิทธิขึ้นเสียบแทน พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.อนุพงษ์

แต่เชื่อว่าหายากครับ เพราะหากคนอื่นทำรัฐประหาร ไม่่ใช่ พล.อ.อนุพงษ์ นั้น พล.อ. อนุพงษ์จะเสียประโยชน์โดนปลด ดังนั้น หากมีทหารโง่ๆ อย่างนั้นก็โดนอนุพงษ์ เล่นงานก่อนแน่นอน

ผมคิดว่าการวิเคราะห์การเมือง จะต้องไม่ฟังจากข่าวลือมากนัก แต่จะต้อง "ตั้งสมมุติฐานก่อน" เหมือนการวิจัย แล้วหาข่าว และข้อมูลมายืนยันสมมุติฐาน การหลงไปตามข่าวลือต่าง ๆ จะทำให้เราโดนปั่นหัวไปมา ได้โดยง่าย

การวิเคราัะห์เกมอำนาจ จะต้องมองว่าผู้เล่นคนนั้น กำลังเล่นบท บ่าวหรือนาย

หากเขาเป็นเบี้ย (บ่าว) และกำลังหาทางขึ้นเป็นนาย เขาจะต้องทำอะไรก็ได้เพื่อซื้อใจนาย อาจถึงขั้นยอมเสี่ยง เพื่อให้ได้ขึ้น

แต่หากเขาเป็นนายแล้ว เกมการเล่น หรือกลยุทธ์มันก็ต้องเปลี่ยนไป เขาไม่จำเป็นต้องซื้่อใจใครอีก แต่เขาต้องเล่นเกมอำนาจ กับ เจ้าผู้ครองแคว้นคนอื่ืน เพื่อให้เขาอยู่รอด

เกมเมื่อครั้งเป็นเบี้ย กับตอนเป็นนาย จึงใช้คนละกลยุทธ์กัน

ตอนนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เล่นเป็นนาย ไม่ใช่เล่นเป็นเบี้ยให้คนอื่นเดินบนกระดาน

จาก thaifreenews