คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม (ตามเวลาในประเทศไทย) สำนักข่าวเอพี รายงานจากเมืองเวลลิงฟอร์ด รัฐคอนเน็กติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินร่วมงานประชุมทางวิชาการ ณ โรงเรียนโช้ต โรสแมรี่ฮอลล์ โดยในที่ประชุม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตรัสถึงความสำคัญของงานบริการภาคสาธารณะ และหลังเสร็จสิ้นการประชุม มีผู้สื่อข่าวทูลถามพระองค์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า ทรงเห็นด้วยหรือไม่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงระบุว่า ประท้วงเพื่อสถาบันกษัตริย์ (The princess was asked at a press conference following her talk whether she agreed with protesters who say they are acting on behalf of the monarchy.)
เอพีรายงานว่า สมเด็จพระเทพรัตนราขสุดาฯ ตรัสตอบคำถามดังกล่าวว่า "I don’t think so." "They do things for themselves." หรือแปลเป็นไทยได้ความว่า "ข้าพเจ้าไม่คิดเช่นนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมดำเนินการสิ่งต่างๆ เพื่อตัวพวกเขาเอง" ผู้สื่อข่าวทูลถามอีกว่า "Why the king has not spoken out?" หรือ "เหตุใดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังมิได้ทรงออกมาตรัสถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตรัสตอบว่า "I don’t know because I haven’t asked him." หรือ "ข้าพเจ้าไม่ทราบ เนื่องจากมิได้ถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงเรื่องนี้"
เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่!!! หลังจากที่กลุ่ม “พันธมารธิปไตย” มีการอ้างสถาบันเบื้องสูงหลายครั้งหลายคราว เพื่อมาปลุกระดมคนในสังคมให้เกิดความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคมไทย กรณีนี้ศาลชั้นต้น ได้เคยพิพากษาแกนนำ หัวโจกใหญ่ของม็อบ (ฝูงชนผู้บ้าคลั่ง-คงแปลไม่ผิด คงไม่มีใครไปตะแบง)
เรื่องนี้ไม่ควรเป็นประเด็นเกิดขึ้นเลย หากไม่มี ม็อบป่วนเมือง จงใจสร้างสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรง เพื่อหวังให้ทหารเข้ามากระทำการปฏิวัติรัฐประหาร นี่คือสิ่งที่คนในสังคมไทยและสังคมโลกเขาแลเห็น
เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน...อยู่ในสถานะที่ทุกคนในสังคมไทยต้องเคารพบูชา ทุกพระองค์ทรงอยู่เหนือจากปัญหาทางการเมือง
เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เสด็จพระราชดำเนินไปยังต่างประเทศ คนกลุ่มนี้ยังไม่สำนึกถึงสิ่งที่เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง และที่สำคัญคือ ต่อสถาบันสูงสุดของชาติ
มีความพยายามบิดเบือนคำแปลข่าวต่างประเทศชิ้นนี้ ทั้งที่การพาดหัวข่าวมีความชัดเจน จนแทบไม่ต้องมีข้อถกเถียงกันอีก เพราะการโปรยหัวข่าว บริบท คือประเด็นที่นักข่าวเขาต้องการจะสื่อสารให้คนได้รับรู้
มีความพยายามที่จะไม่ให้ หนังสือพิมพ์ฉบับใด ฉบับหนึ่งในเมืองไทย ลงข่าวชิ้นนี้ เพราะจะเป็นความเสียเปรียบ เมื่อความจริงปรากฏออกมา แต่...ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด โดยประกาศว่าจะไปเยี่ยมหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ และคิดว่าสมาคมสื่อทั้งหลายจะไม่คัดค้าน
เป็น ความพยายามแทรกแซงการทำหน้าที่สื่อสารมวลชน พอๆ กับที่พวกมันทำกับนักข่าวและช่างภาพหลายครั้งหลายหน แต่สมาคมวิชาชีพ บอกให้อดทนกับสิ่งที่เรียกว่าเป็น การคุกคามสื่อเต็มรูปแบบ
วันนี้บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร หากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพระราชประสงค์ส่งสาร มีพระราชประสงค์บอกข้อเท็จจริง มีพระราชประสงค์จะพัฒนาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย แล้วหากปรากฏว่าไม่มีสื่อใดๆ ในประเทศไทยให้การสนับสนุน ... น่าเศร้าใจไหม (ไปหาอ่านสิ่งที่นักข่าวในสำนักข่าวเขาแฉกันเองเถอะในข่าวต่อหน้า 1)