WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, September 8, 2009

เอ็นจีโอสื่อตื่น ชี้รัฐแทรกแซงสื่อ บีบ ‘จอม’ ยุติจัดรายการ สร้างบรรยากาศความกลัว

ที่มา ประชาไท

คปส. ออกแถลงการณ์ “รัฐต้องธำรงเสรีภาพสื่อมวลชนในฐานะเสรีภาพของประชาชน” ระบุ 'สาทิตย์' สั่งตรวจสอบจอม เพชรประดับ และ อสมท.กรณีสัมภาษณ์ทักษิณ คือการเข้าแทรกแซงสื่อ ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความกลัวในแวดวงสื่อ

7 ก.ย. 52 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ออกแถลงการณ์ “รัฐต้องธำรงเสรีภาพสื่อมวลชนในฐานะเสรีภาพของประชาชน” ระบุ การที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสื่อของรัฐ ได้สั่งให้มีการตรวจสอบกรณีการออกอากาศคำสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการวิทยุเอ๊กซ์คลูซีฟ ในเครือ อสมท คลื่นเอฟเอ็ม 100.5 เมื่อ 6 กันยายน 2552 ซึ่งส่งผลให้นายจอม เพชรประดับ ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ต้องตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ดำเนินรายการ คือการเข้าแทรกแซงกลไกการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความกลัวในแวดวงนักสื่อสารมวลชน และขัดรัฐธรรมนูญ

โดยแถลงการณ์ฉบับนี้ยังเรียกร้องให้รัฐสร้างหลักประกันความเป็นอิสระในการทำหน้าที่แก่สื่อมวลชนทุกแขนง ให้รัฐสภาเร่งออกกฎหมายจัดตั้ง กสทช. องค์กรอิสระเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อวิทยุและโทรทัศน์ และขอให้สื่อมวลชนทำหน้าที่โดยอิสระ รอบด้าน เป็นธรรม และยืนหยัดในการคลี่คลายปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมืองโดยวิถีทางประชาธิปไตย
0 0 0
แถลงการณ์คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.)
รัฐต้องธำรงเสรีภาพสื่อมวลชนในฐานะเสรีภาพของประชาชน
จากกรณีที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสื่อของรัฐ ได้สั่งให้มีการตรวจสอบกรณีการออกอากาศคำสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการวิทยุเอ๊กซ์คลูซีฟ ในเครือ อสมท คลื่นเอฟเอ็ม 100.5 เมื่อ 6 กันยายน 2552 ซึ่งส่งผลให้นายจอม เพชรประดับ ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ต้องตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ดำเนินรายการดังกล่าวนั้น
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) เห็นว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวคือการเข้าแทรกแซงกลไกการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ส่งผลให้เกิดความชะงักงันในการทำงาน และก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความกลัวในแวดวงนักสื่อสารมวลชน และถึงแม้ว่ารัฐจะมีอำนาจโดยตรงในการกำกับดูแลสื่อในเครือบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) แต่การเข้าแทรกแซงด้านเนื้อหาและการดำเนินรายการดังกล่าวนั้นถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
คปส. ยืนยันเสมอมาว่าสื่อมวลชนต้องมีสิทธิและเสรีภาพเต็มเปี่ยมในการเลือกนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนภายใต้กรอบจรรยาบรรณเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่หลากหลาย รอบด้าน ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ ภายใต้การกำกับดูแลกันเองของนักวิชาชีพและการตรวจสอบจากสาธารณชน ในทางกลับกัน ความพยายามในการปิดกั้นหรือแทรกแซงสื่อย่อมนำไปสู่แรงเสียดทานต่ออำนาจรัฐมากขึ้น และก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการบริหารประเทศ ดังนั้นการยอมรับและสนับสนุนให้มีสื่อเสรี ตลอดจนความอดทนอดกลั้นของรัฐบาลต่อเสียงของฝ่ายค้านย่อมนำไปสู่การยอมรับของกลุ่มต่างๆ และสร้างดุลยภาพทางการเมืองได้ เพราะท้ายสุดหลักการเรื่องเสรีภาพสื่อและการแสดงความคิดเห็นคือสิ่งที่ทุกฝ่ายจำเป็นต้องยอมรับร่วมกัน
คปส. จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังที่ได้ประกาศพันธะสัญญาต่อสาธารณะ รวมถึงข้อเรียกร้องต่อรัฐสภา ดังนี้
1. ขอให้รัฐบาลให้หลักประกันความเป็นอิสระในการทำหน้าที่แก่สื่อมวลชนทุกแขนง ทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อของรัฐ สื่อภาคธุรกิจเอกชน และสื่อของภาคประชาชน โดยต้องยุติกระบวนการควบคุม แทรกแซง การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทุกรูปแบบ
2. ขอให้รัฐสภาซึ่งกำลังพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. … ดำเนินการโดยเร็ว เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งองค์กรอิสระ (กสทช.) ในการทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อวิทยุและโทรทัศน์ต่อไป
3. ขอให้สื่อมวลชนทำหน้าที่โดยอิสระ ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน เป็นธรรมและยืนหยัดทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการคลี่คลายปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมืองโดยวิถีทางประชาธิปไตย
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.)
7 กันยายน 2552