WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, September 10, 2009

ชื่อนั้น? สำคัญไฉน

ที่มา บางกอกทูเดย์

หลายทศวรรษในพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนใต้”ถูกเปลี่ยนให้เป็น “สมรภูมิรบ” มีการเข่นฆ่า...สร้าง“ความสูญเสีย” ทุกครั้งที่ผู้บริสุทธิ์ต้องมีอันเป็นไป“ต้นเหตุ” แห่งปัญหาที่ถูกมองข้าม...เริ่มต้นจากจุดเล็กๆนำไปสู่ปัญหาที่ “ใหญ่โตบานปลาย” ในปัจจุบันไทยพุทธ...ไทยมุสลิม...ไทยคริสต์ มีความ “แตกต่าง”กันอย่างไร? ในเมื่อประชากรร่วม 60 ล้านชีวิต อาศัยอยู่บน“ผืนแผ่นดินไทย” เดียวกันโดยเฉพาะ “สามจังหวัดชายแดนใต้” ทำไมหน่วยงานราชการรวมถึง “ผู้มีอำนาจ” มักชอบลั่นวาจากล่าวถึง...เรียกประชาชนเหล่านั้นว่า “ไทยมุสลิม”มุสลิม คือ ผู้นับถือ “อิสลาม” เป็นกลุ่มคนที่อาศัยครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรไทย...ไม่เฉพาะแต่ในพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนใต้”พวกเขาเป็น “คนไทย” ไม่ใช่แขกที่ข้าราชการ “ในเครื่องแบบ”ใช้อคติใส่ความคิดร้ายว่า...พวกเขามิใช่คนไทย“ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ข้าราชการในบริเวณนั้นเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มีเครื่องแบบ เขาไม่ชอบพวกผมเพราะเห็นว่าพวกผมไม่ได้เป็นคนไทย...เป็นพวกแขกเกิดเหตุอะไรร้ายแรงขึ้นมา เขาก็เอาพวกผมเป็นแพะไว้ก่อน”ปัญหาต่างๆ เป็นเพราะไทยแยกไทย โดยขาดการคิดให้รอบคอบและลึกซึ้ง

หรือไม่?สังเกตได้จาก บัตรประชาชน รูปแบบใหม่ ซึ่งระบุตัวเลขจำนวน 16 หลัก พร้อมที่อยู่ “ถิ่นฐาน”ปัจจุบันไม่มีการระบุว่า...ผู้ถือบัตรนับถือ “ศาสนา”ใด...แต่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขลงข้อความพิมพ์ด้านบนด้วยข้อความเดียวกัน“Thai National ID Card” ทุกคนที่ถือบัตรนี้เป็น“คนไทย”ศาสนาไม่มีการแบ่งแยก...และผมก็เชื่อว่า “คนไทยภาคใต้”ส่วนใหญ่ พวกเขาอยากมี บัตรประจำตัวประชาชน อันแสดงถึงการเป็นคนไทย โดยครบถ้วนสมบูรณ์มิใช่บัตรหลักบัตรเสริมหรือบัตรประจำตัวใบที่สองใบที่สามอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้สิ่งเหล่านี้เกิดจากการ “ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ” และเกิดจากการที่คนไทยส่วนหนึ่งมองพวกเขาว่า เป็น “พลเมืองชั้นสอง”แค่หน่วยงานราชการเขียน “คำร่าง” อ้างอิงพูดถึงว่าเขาเป็น “ไทยมุสลิม” มันได้เกิดการแบ่งแยกขึ้นแล้วในตัวด้วยน้ำมืออ้ายอีผู้มี “จิตใจคับแคบ”ศรีสะเกษก็มีมุสลิม...กรุงเทพฯ ก็มีมุสลิม ทั้งหมดไม่เคยถูก “ค่อนแคะ” กระแหนะกระแหนแบ่งแยกเป็น“ไทยมุสลิม”ในเมื่อเราอยากมี “สมานฉันท์” เราอยากอาศัยร่วมกันด้วยความ “ปกติสุข” ทำไมไม่ใคร่รู้จักที่จะ “เรียนรู้”คิดแต่ผลักไสไล่ส่ง...ให้บุคคลเหล่านั้นใช้ชีวิตเกลือกกลั้วอยู่ใน “สังคมร้าว” ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่สนใจไยดีแล้ว “มนุษย์หน้าไหน” มันคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกถูกกดขี่ข่มเหง...เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูงขนาดไทยยังเรียกขานไทยด้วย “คำพูด” ที่แบ่งแยก...อย่าไปหวัง แดง เหลือง เขียว น้ำเงิน สมัครสมานกลมเกลียวล้มเหลวแถมยังเป็นคำพูดที่ “เหม็นขี้ฟัน” ■