ที่มา Thai E-News
หมายเหตุไทยอีนิวส์:ต่อไปนี้เป็นรายงานข่าวและบรรยากาศแบบสดๆของไทยอีนิวส์ในช่วงเหตุการณ์พันธมิตรปิดล้อมรัฐสภา และบชน.เมื่อ7ตุลาคม2551 และเปิดฉากก่อความรุนแรง จนตำรวจเข้าควบคุมการชุมนุม
000000000000
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา Nation breaking news สำนักข่าวINN
7 ตุลาคม 2551
ณัฐวุฒินั่งโษกรัฐบาลเต็มตัว เตือนคืนนี้อาจมีลอบวางระเบิดกรุง
สำนักข่าวINNรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ตนดำรงตำแหน่ง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีผลตั้งแต่คืนนี้ ส่วนทีมโฆษกจะมีการแต่งตั้งอีกครั้งในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ครั้งนี้ เพื่อให้ตนเข้ามาดูแลสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เพราะรัฐบาลรู้สึกเป็นกังวลและเสียงใจต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนมีผู้ได้มรับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมกันนี้เปิดเผยด้วยว่าภายในค่ำคืนนี้อาจจะมีการลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า หากสามารถผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผุ้ชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นเพียงการเปิดทางให้ ส.ส. ส.ว. และ คณะรัฐมนตรี ให้เข้าประชุมสภาได้ โดยไม่ได้เป็นการสลายการชุมนุมตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ
ตำรวจเผยม็อบใช้อาวุธพยายามฆ่า เตรียมระเบิดขวดอีก200ลูก
INNรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวกรณีกลุ่มผุ้ชุมนุมพันธมิตร ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกพิชัย โดยเบื้องต้นพบว่า ด.ต.ทวีป กลั่นเนียม เจ้าหน้าที่สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ถูกผู้ชุมนุมแทงด้วยด้ามธง บริเวณหน้าอก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และล่าสุดอาการปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 10 นาย ถูกส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เชื่อว่า คงไม่ใช่ที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าจะมีการชุมนุมกันอย่างสงบ และปราศจากอาวุธ เนื่องจากมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุจนถึงที่สุด ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมประกอบระเบิดขวดกว่า 200 ลูก ไว้เตรียมก่อเหตุ รวมถึงราดน้ำมันก๊าซตามพื้นถนนรอบทางออกรัฐสภาทุกทิศทางด้วย แต่เชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดการจลาจล
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวอีกว่า ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจากับแกนนำพันธมิตรตลอดทั้งวันในหลายระดับ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม
พันธมิตรยิงตำรวจเจ็บ2นาย
ข่าวNation breaking newsรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต้องถอยร่นกลับเข้ารัฐสภาอีกครั้งนั้น ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ที่ถูกกระสุนปืนจากกลุ่มพันธมิตรฯยิงเข้าใส่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฐมพยาบาล และพยายามจะประสานรถพยาบาล เพื่อให้เข้ามารับตัวนายตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ออกไปรักษาต่อไป
เวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานรถพยาบาล เพื่อเข้ามารับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ถูกยิงบาดเจ็บ จากการสาดกระสุนใส่ของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่จนถึงขณะนี้ รถพยาบาล ก็ยังไม่สามารถเข้าไปในอาคารรัฐสภาได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายแรก ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกยิงเข้าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา มีการใช้มีดผ่าลูกกระสุนออก ซึ่งล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายหนึ่ง ที่ถูกยิงบริเวณราวนมด้านขวา ยังอยู่ในอาการอันตราย ซึ่งหน่วยพยาบาล กำลังเร่งปฐมพยาบาล และประสานรถพยาบาล ให้เข้ารับตัว
เนชั่นรายงานเหตุการณ์นี้เพิ่มเติมว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลียร์พื้นที่ ถ.ราชวิถี จนถึง ถ.อู่ทองใน เพื่อหลักดันผู้ชุมนุมสภาให้ถอยร่นไปที่หน้าอาคารจอดรถสวนสัตว์ดุสิต ขณะที่ บริเวณ ถ.ราชวิถี ทางพันธมิตรฯ ได้ปาระเบิดขวดและยิงปืนใส่ตำรวจเพื่อที่จะยึดพื้นที่กลับมา โดยตำรวจมีเพียงโล่ และกระบอง ป้องกันตัวเท่านั้น ทำให้ตำรวจต้องหนีเข้ามาในรัฐสภา ทั้งนี้รถของ ส.ส. สว. ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่สภา ยังไม่สามารถออกจากสภาได้ทั้งหมด เนื่องจากประตูทางออกมีรถสิบล้อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ต้องทยอยออกทีละคัน ขณะที่ผู้ชุมนุมก็ยิงปืนใส่ตำรวจ พร้อมทั้งขว้างปาสิ่งของและไม้ใส่ ส่วนตำรวจก็พยายามยิงก๊าสน้ำตาสกัด จนกลุ่มผู้ชุมนุมต้องถอยมารวมตัวที่บริเวณประตูปราสาทเทวฤทธิ ถ.ราชวิถี แต่ไม่สามารถสกัดผู้ชุมนุมได้ ส่วนตำรวจบางส่วนที่อยู่บริเวณด้านนอกรัฐสภาได้ถูกปืนยิงไล่ออกมาจาก ถ.ราชวิถี ไปยังแยกการเรือน และต้องหนีเข้ามาในรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุปะทะดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดย 2 รายอาการหนักถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา อีกนายถูกยิงที่ไหปลาร้า โดยเพื่อนตำรวจหามผู้บาดเจ็บเข้ามาในรัฐสภาเพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมประตูเข้า-ออก รัฐสภา จึงไม่มีหน่วยพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือได้ ขณะที่พันธมิตรก็ยังคงใช้ปืน และลูกเหล็กยิงเข้ามาในอาคารรัฐสภา ฝั่งอาคารวุฒิสภา อย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำโล่มากำบังให้ตำรวจที่นอนบาดเจ็บ ทั้งนี้ในส่วนของสื่อก็ยังติดอยู่ภายในไม่สามารถออกไปได้ ต้องหาที่หลบกำบัง
นาทีระทึกพันธมิตรขับรถชน รองสวป.สน.เตาปูนกะถึงตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รพ.วชิระ ได้มีการลำเลียงคนเจ็บ ทั้งทางกลุ่มพันธมิตรและทางตำรวจ โดยตำรวจได้รับบาดเจ็บประมาณเกือบ 10 ราย โดยมีรายที่หนักที่สุด ตำรวจถูกรถกระบะชนขณะที่กำลังถอนกำลังออกมา ทำให้ขาทั้งสองข้างบาดเจ็บ
จ.ส.ต.นฤพล แกล้วกล้า ผบ.หมู่ ป.สน.เตาปูน เปิดเผยถึงนาทีระทึกว่า ขณะที่ ร.ต.ต.เกรียงไกร ถิ่นสามี รองสวป.สน.เตาปูน ซึ่งขณะนั้นได้ประจำจุดบริเวณแยกอู่ทองใน ม.สวนดุสิต ระหว่างที่ร.ต.ต.เกรียงไกร กับทางผู้ใต้บังคับบัญชา ออกมา ปรากฏว่าทางฝ่ายพันธมิตรได้ลุกฮือ และได้ขับรถยนต์ไล่อย่างต่อเนื่อง
จากนั้น ฝ่ายพันธมิตร ได้ขับรถยนต์ โตโยต้า ไทเกอร์ รุ่น 4 ประตู จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขับไล่ชน ลักษณะเหมือน คนโยนโบว์ลิ่ง หลังจากไล่ชนแล้วได้ถอยรถมาเหยียบ ร.ต.ต.เกรียงไกรซ้ำอีกที ลักษณะดังกล่าว เหมือนเอากันให้ตาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมอย่างมาก
วางระเบิดรถหน้าพรรคชาติไทยตาย1
เมื่อเวลา 15.45 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าพรรคชาติไทย โดยจุดที่ระเบิดเป็นรถจี๊ปเชโรกี ทะเบียน พต 4755 กทม. ซึ่งรถดังกล่าวเป็นของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ โดยตัวรถฉีกขาดทั้งหมด และมีผู้หญิงนอนเสียชีวิตคาที่อยู่ข้างรถ ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะมีการนำระเบิดไว้ในรถ และกดจุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล โดยได้มีหน่วยแพทย์จากวชิรพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณรถได้ เนื่องจากมีเพลิงลุกไหม้รุนแรงตลอดเวลา และเกรงว่าจะมีระเบิดซ้ำสอง ขณะที่รถกระบะและรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายคัน
ซึ่งขณะนี้ได้มีเปลวไฟระเบิดทั่วคันรถ โดย มีการระเบิดเป็นระยะ มีรถดับเพลิงของ กทม.2 ค้นเข้าฉีดน้ำดับเพลิงไเรีบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังเข้าไปเก็บกู้ และดูซากรถ เนื่องจากจุดที่ไหม้ ไฟได้ลุกลามขึ้นบริเวณบริเวณสายไฟฟ้าที่อยุ่ด้านบน ทำให้สายไฟไหม้บางส่วน
ในเวลาต่อมาตำรวจระบุ เหตุระเบิดรถจิ๊ปเชโรกี สีขาว ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าที่ทำการพรรคชาติไทยบริเวณถ.พิชัย เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย นั้นน่าจะเป็นการก่อเหตุคาร์บอม
"น่าจะเป็นคาร์บอม เพราะความเสียหายทำให้กระโปรงรถเปิดสูง ชิ้นส่วนศพกระจัดกระจาย" พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผู้กำกับ สน.ดุสิต กล่าว
เขา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเพศของผู้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ สถานที่ตั้งพรรคชาติไทยอยู่ห่างออกไม่กี่ร้อยเมตรจากที่ตั้งรัฐสภา
191ยันระเบิดพธม.ปาใส่ ตร.เป็นของจริง
ตำรวจ 191 ยัน ระเบิดที่กลุ่มพันธมิตรปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจในกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นระเบิดจริงก่อนจะยิงปะทะด้วยแก๊สน้ำตา
ก่อนหน้านั้น ได้เกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่อยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าได้ใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดโยนเข้ามาภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาลบริเวณข้างกองทัพภาคที่ 1 แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายมีอาการระคายเคืองตา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนได้ใช้แก๊สน้ำตายิงตอบโต้กลับไปอีกจำนวนหลายสิบนัด พร้อมทั้งนำกำลังออกไปผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเป็นระยะเกือบ 50 ลูก ทำให้ผู้ชุมนุมวิ่งหนีกระเจิง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตอบโต้ด้วยการยิงลูกเหล็ก น็อต ลูกหิน และลูกแก้วเข้าใส่ตอบโต้กันนานประมาณ 30 นาที ขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะที่ พ.ต.ท.ภาสกร สถิตยุทธการ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ เปิดเผยว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดจริงที่ผลิตขึ้นจากประเทศจีนแต่โชคดีขณะโยนเข้ามาระเบิดไม่ทำงาน
จนท.สภาแค้นขว้างก้อนหินใส่ม็อบ พันธมิตรจุดไฟเผาสภา
เวลา 16.40 น.หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมตั้งแต่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต จนมาถึงหน้าอาคารรัฐสภา ฝั่งสามแยกพิชัย ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ในสภารวมถึง ส.ส. และรัฐมนตรีต่างโห่ร้องเป็นระยะๆ ด้วยความดีใจ
ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่สภาส่วนหนึ่ง ได้นำก้อนหินและเศษหินบริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารรัฐสภา 2 ขว้างปาใส่ผู้ชุมนุม ขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมติรฯ ได้จุดไฟเผาที่บริเวณประตูทางเข้า จึงทำให้เกิดไฟลุกท่วม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามจราจล พร้อมด้วยอาวุธครบมือกว่า 100 นาย มุ่งหน้ามาประชิดประตูเตรียมนำขบวนรถของ รัฐมนตรี ส.ส.และเข้าราชการสภาเคลื่อนออกจากรัฐสภา
และเมื่อเวลา 16.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ได้นำสายยางเพื่อนำน้ำไปฉีดดับเพลิงหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้จุดไฟเพื่อเผาประตู จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการระดมกำลังเพื่อที่จะเข้ามาเปิดประตู หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำโซ่และลวดหนาม และรถบรรทุกขนาดใหญ่ มาขวางไว้