ที่มา บางกอกทูเดย์
ผมไม่ให้ความสำคัญกับคลิปเสียง “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ต้น จึงไม่เขียนเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพราะผมรู้ว่า “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ไม่โง่ที่จะพูดอย่างที่ได้ยินในคลิปเสียงหลังจากที่ผมฟังคลิปรอบที่สาม...ผมมั่นใจทันทีว่าเป็นการตัดต่อเสียงเพื่อทำลายชื่อเสียงนายกรัฐมนตรีซึ่งผมถือว่าไม่เป็นธรรมกับเขาและผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะยุติไปแล้ว...แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ได้มีการเอาเข้ามาตั้งกระทู้สดในสภาฯแล้วสิ่งที่เกิดในสภาฯ ก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ คือ การโต้ฝีปากไปมาระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้าน กับฝ่ายรัฐบาลอย่างดุเดือดโดยเฉพาะฝีปากนายกรัฐมนตรี “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ที่เปรียบใครก็ไม่รู้เป็นสัตว์สี่เท้าชนิดหนึ่ง ทำให้ภาพพจน์สภาฯ ที่ตกต่ำอยู่แล้ว ตกต่ำหนักลงไปอีกแล้วจะให้ประชาชนทั่วไปศรัทธาระบอบประชาธิปไตยระบอบที่ฝ่ายอมาตย์และเผด็จการตั้งป้อมทำลายด้วยวิธีการต่างๆมานานได้อย่างไรปกติผมก็เชียร์พวกท่าน “ฝ่ายค้าน” อยู่แล้ว...เนื่องจากผมไม่เห็นด้วยกับการปล้นอำนาจมาของ
รัฐบาลชุดนี้ และไม่ชอบการทำงานแบบเด็กๆ อีกหลายเรื่องที่ท่านสามารถนำมาพูดได้แบบที่ “คุณอนุดิษฐ์ นาครทรรพ” ส.ส.ดอนเมือง กำลังทำอยู่นั่นแหละ!เพราะยังมีเรื่องที่คนในรัฐบาลนี้ทำอย่าง ตะกละตะกลามด้วยความหิวโหยมานานอีกตั้งหลายเรื่องที่ฝ่ายค้านควรขุดคุ้ยโดยเฉพาะ “พี่เหลิม” ที่ทำผลงานดีๆ ฝากไว้กับสภาฯก็มีให้จดจำตั้งหลายเรื่องเรื่องที่ฝ่ายค้านน่าเตือนอีกเรื่อง...ก็คือการรับมือกับการลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรเหลือ 0% จำนวน 23 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ตามข้อตกลงอาฟต้าที่รัฐบาล“พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” ไปลงนามมาซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ว่า...รัฐบาลนี้มีการเตรียมการรับมือทั้งที่เหลือเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้นเกษตรกรที่จะต้องรับเคราะห์หนัก คือ “ชาวสวนปาล์ม”โดยเฉพาะทางใต้ฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์เอง ที่จะสู้ราคาปาล์มจากมาเลเซียไม่ได้และที่สำคัญ คือ...เกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศ ชาวนาที่ราคาข้าวปัจจุบันต่ำมากอยู่แล้ว จะตกต่ำลงไปอีกเพราะจะมีข้าวราคาถูกกว่าข้าวไทยกว่าครึ่งจากพม่า ลาวและเวียดนาม แย่งตลาดส่งออกข้าวของไทยเรา และอาจถึงกับเข้ามาตีตลาดข้าวในประเทศหรือว่าคนไทย เมืองไทย เมืองอู่ข้าว อู่น้ำ อุดมสมบูรณ์ปลูกข้าวกินเอง และเหลือส่งออกอีกครึ่งหนึ่ง ต้องกินข้าวพม่า ลาว เวียดนามกันแล้วอนิจจา...เศร้ามั้ยล่ะครับเรื่องอย่างนี้สมควรที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกมาเตือนเป็นอย่างยิ่งซึ่งผมได้แต่ฝากความหวังและบทความนี้ผ่านไปถึงส่วนรัฐบาล ผมไม่หวังพึ่งอะไรเขาอยู่แล้วครับ! ■