ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
10 กันยายน 2552
ศาลพิพากษาจำคุก"สนธิ ลิ้มทองกุล" 2 ปี คดีหมิ่นประมาท "มรว.ปรีดียาธร เทวกุล" หัวโจกโจรไม่สะท้านปากดีไม่เคยกลัวสิ่งใด พร้อมประกันตัวไม่ต้องนอนคุก ลั่นสู้ถึงฎีกา
(10ก.ย.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เวลา 10.30 น. ศาลพิพากษาจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นเวลา 2 ปี ในความผิดฐานหมิ่นประมาท หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯและรมว.คลัง โดยการโฆษณาด้วยเอกสารและสิ่งบันทึก ภาพและเสียงกรณีเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2550 นายสนธิ จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ออกอากาศทางช่อง NEWS 1 ของสถานีโทรทัศน์ ASTV ซึ่งต่อมาบริษัทไทยเดย์ ดอดคอม ได้จัดทำวีซีดี จ่ายแจกขณะที่บริษัท เมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายงาน ได้นำข้อความหมิ่นประมาท มาตีพิพม์เผยแพร่ ระหว่างวันที่ 12-16 ม.ค.2550
โดยศาลยังมีคำสั่งให้นับโทษจำคุกนายสนธิต่อจากคดีหมิ่นประมาทบุคคลอื่นซึ่งศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษแล้วด้วย ส่วนบริษัท ไทยเดย์ ศาลพิพากษาให้ปรับ 200,000 บาท และพิพากษาจำคุกนายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิพม์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 30,000 บาท แต่เนื่องจาก นายขุนทอง ไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา กำหนด 2 ปี แต่หากนายขุนทอง ไม่ชำระข้าปรับให้ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ให้นายสนธิ,บริษัท ไทยเดย์ และนายขุนทอง ร่วมกันโฆษณา ขอขมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ในหนังสือพิมพ์ มติชน , ไทยรัฐ, เดลินิวส์ และผู้จัดการรายวัน
โจรชั่วไม่ต้องนอนคุกปากดีสู้ถึงฎีกาไม่กลัวสิ่งใด
มูลเหตุคดีมาจากการที่นายสนธิ ใส่ความโจทก์ผ่านรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ออกอากาศทางช่อง New 1 เอเอสทีวี ทำนองว่าโจทก์ล้างมลทินให้กลุ่มอำนาจเก่า ปล่อยให้มีการออกสลากบนดิน 2 ตัวขัดต่อกฎหมาย และโจทก์ช่วยเหลือ นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่ไม่ตรวจสอบการขายหุ้นแอมเพิลริชให้กลุ่มทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ และปกป้องผู้กระทำผิดกรณีที่ปล่อยให้มีการโอนหุ้นชิน บมจ.ชินคอร์ป โดยไม่เสียภาษี
ทางด้านนายสนธิ ซึ่งได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง กล่าวว่า วันนี้ศาลพิพาษาจำคุก 2 ปี ตนไม่รู้สึกตื่นเต้น เมื่อศาลชั้นต้นตนแพ้ก็จะยื่นอุทธรณ์สู้ต่อไป และเดินหน้าสู้ถึงชั้นฎีกาที่ผ่านมาสู้เพื่อชาติไม่เคยกลัวสิ่งใด
สมาคมตำรวจชี้ ป.ป.ช.ไม่เป็นกลาง-อคติชี้มูล ซัดนายกฯจงใจกลั่นแกล้ง
ขณะเดียวกันตำรวจได้เคลื่อนไหวต่อต้านการที่ปปช.ชี้มูลความผิดตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม เป็นไปตามการชี้นำของหัวโจกก่อการร้ายนายสนธิ ลิ้ม ในช่วงเช้าวันนี้
พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ประธานชมรมข้าราชการตำรวจนอกราชการ และ พล.ต.อ.วิรุณ ฟื้นแสง นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พร้อมอดีตข้าราชการตำรวจ ได้ร่วมกันแถลงที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551
พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า การพิจารณาของ ป.ป.ช.ไม่มีความเป็นกลาง เพราะก่อนจะมีการวินิจฉัยมีการระบุว่าการสลายการชุมนุมเป็นความผิด ทำให้เห็นได้ว่าเป็นอคติตั้งแต่แรก แต่ขอเป็นกำลังใจให้กับตำรวจทุกนายอย่าท้อถอย ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถต่อไป และอยากฝากถึงรัฐบาลว่า การปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นธรรม คือเป็นเสาค้ำอันมั่นคงของรัฐบาลเอง หลังจากนี้สมาคมจะเข้าไปช่วยเหลือด้านกฎหมายกับผู้ที่ถูกกล่าวหา
พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจงใจกลั่นแล้งตำรวจ ทำให้การชี้มูลเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรม และขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรี และ ป.ป.ช.ว่า การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไรจะไม่มีความผิด
ส่วนการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นการสนองผลประโยชน์ทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี ที่จะเลือกตำรวจเข้าไปดูแลเรื่องการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.บุญจิตต์ พันธุมจินดา อดีตข้าราชการตำรวจที่มีความอาวุโสสูงสุด คือมีอายุถึง 94 ปี รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตำรวจถูกกระทำในครั้งนี้ ไม่เคยเห็นวงการตำรวจถูกนักการเมืองแทรกแซงในถึงขนาดนี้