ที่มา ไทยรัฐ
สัญญาณท้ารบเริ่มแล้ว
กับปฏิบัติการของไอ้โม่งก่อเหตุปาระเบิดใส่บ้านย่านบางพลัดของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ที่ได้ขายต่อให้คนอื่นไปตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
ไม่มีใครบาดเจ็บ แค่โรงรถเสียหาย
เพราะโดยเป้าหมายมันคือการส่งเทียบ "เตือน" ว่า สงครามในฝ่ายถืออำนาจ ศึกล้มโต๊ะกันเองในหมู่ผู้คุมเกมประเทศไทย
จะเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ในสถานการณ์ที่โดนรุกไล่จนแทบไม่มีที่ยืน กับชะตากรรมโหดๆของ "บิ๊กป๊อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ที่ชิงยื่นใบลาออก ไม่ยอมไปนั่งตบยุงที่สำนักนายกฯ ตามคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เทคแอกชั่น ปกป้องศักดิ์ศรี
แต่ก็เจอลูกตามบี้ของนายกฯอภิสิทธิ์ ไม่ยอมอนุมัติใบลา ประกาศให้รู้เลยว่า เป็นผู้กำชะตา "บิ๊กป๊อด" จะปลดออกหรือไล่ออก
ตั้งท่าตอกตะปูปิดฝาโลง ฆ่าสะกดวิญญาณ
ในอาการของพี่ชายอย่าง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม "บิ๊กบราเธอร์" น้องพี่สีเขียวบูรพาพยัคฆ์ ยังกัดฟันกลืนเลือด
ไม่หือไม่อือ ปัดตอบข่าวลือไขก๊อกตามน้องชาย
ขณะเดียวกันก็มีการปล่อยชื่อของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม จ่อรอเสียบตำแหน่งใหญ่แทน
"บูรพาพยัคฆ์" โดนต้อนเข้ามุมอับ
ตั้งรับอิทธิฤทธิ์เด็กดื้อ จนป่วนไม่เป็นขบวน
ล่าสุดก็เป็น พล.ต.อ.สุเทพ ธรรมรักษ์ 1 ใน 5 เสียง ก.ต.ช.ที่หักหน้านายกฯอภิสิทธิ์ โหวตไม่รับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ได้ตัดสินใจลาออกจาก ก.ต.ช.แบบกะทันหัน
แทนการไปพบกับนายกฯอภิสิทธิ์ที่ต่อสายเรียกไปเคลียร์
นั่นก็เท่ากับว่า เกมตัดแต้ม พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.หายไปอีก 1 เสียงเพิ่มโอกาสให้กับ พล.ต.อ.ปทีป เข้าป้ายตามโพยของนายกฯอภิสิทธิ์
แทบจะปิดกล่องได้แล้ว
แต่นั่นไม่มีความหมาย โดยปรากฏการณ์เลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ที่คนรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่าเบื้องหน้าเบื้องหลัง อะไรเป็นอะไร
แม้จะได้ชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตามโพย ประเทศชาติและประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเมื่อเทียบความแตกต่างกับ พล.ต.อ.จุมพล
คนที่ต้องตอบก็คือนายกฯอภิสิทธิ์ ภูมิใจตรงไหน
กับสถานะของ "ผู้นำ" ที่ล็อบบี้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้โหวตไปในทางเดียวกับตัวเองไม่ได้ ต้องใช้วิธีเล่นเกม ไล่ตัดแต้มทีละคน
เหมือนเด็กเล่นต่อสู้กัน
ที่สำคัญ หลังจากชนะในเกมแล้ว "อภิสิทธิ์" จะต้องไปเจอกับสงครามอะไร
รู้ทั้งรู้อยู่ว่า ขัดใจใคร แล้วยังกล้า
อีกนัยหนึ่งมันก็น่าเอะใจ "อภิสิทธิ์" ดื้อยังไง ก็ไม่น่ากล้าเขียนบทเล่นเอง
ฟันธงเลือกข้างซะขนาดนี้ เหมือนชัวร์แล้วว่า อนาคตอยู่รอดปลอดภัย
คุ้มที่ต้องเสี่ยงแลก
ที่แน่ๆกับปรากฏการณ์ภาพเชิงซ้อน ที่ว่ากันว่า นักข่าวต้องขยี้ตามอง
สังเกตรูปลักษณ์ของนายกฯอภิสิทธิ์ที่เปลี่ยนไปในพักหลังๆ จากหนุ่มหล่อเหลา ผมดำ ตาคม บางทีก็เห็นเลือนๆ เหมือนเป็นชายชราผมขาววัยเกือบ 90
บางครั้งจากแววตาที่เข้มแป๋ว เดียงสา กลับกลายเป็นแววตาที่นิ่งไร้ความรู้สึก เหี้ยมเหมือนหน่วยฝึกนักฆ่าป่าหวาย
บางครั้งก็เป็นชายร่างเล็ก ปากแหลม หวีผมเป๋สวมแว่นตา บางคราวก็บุคลิกท่าทางเหมือนคนมีหนวด ชอบพูดติดปากประการนั้นประการนี้
ราวกับว่ามี "จตุรเทพ" คุ้มกายอยู่
"อภิสิทธิ์" ถึงกล้าท้าสู้กับ "บูรพาพยัคฆ์".
ทีมข่าวการเมือง รายงาน