ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เพิ่งมีการนำเสนอหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้ช่วยผบ.ตร. กรณีถูกร้องเรียนกล่าวหาทุจริตการจัดจ้างประชาสัมพันธ์สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ วงเงิน 18 ล้านบาท
เป็นข่าวตีพิมพ์ไปทั่ว
โดยขอความเป็นธรรมไปยังนายกรัฐมนตรี ยกเหตุผลหลายประการ ชี้พิรุธของการร้องเรียนหลายข้อ
เพื่อขอมิให้มีการตั้งกรรมการเรื่องนี้ เนื่องจากพล.ต.ท.บุญเรืองยืนยันว่าเป็นการกลั่นแกล้ง
บอกว่าไม่ต่างจากกรณีนายกฯ โดนตัดต่อคลิปเสียง!
พล.ต.ท.บุญเรือง ถูกร้องเรียนร่วมกับพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ในขณะนั้น และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งตอนนั้นเป็นรองผบ.ตร. ร่วมแทงหนังสือต่อ ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ
ไม่รู้ว่านายกฯ อภิสิทธิ์ ได้พิจารณาหนังสือขอความเป็นธรรมนี้หรือไม่
เพราะล่าสุดได้จี้ไปยังรองนายกฯ เทือก กดดันต่อไปยังปลัดสำนักนายกฯ จนมีการตั้งกรรมการขึ้นมาแล้ว มีนายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน
มองในแง่ดี เพื่อพิสูจน์ความจริง
เพราะฉะนั้นคณะกรรมการต้องทำงานอย่างรอบคอบ ไม่ใช่เร่งร้อนรวบรัด กระทั่งไม่เป็นเครื่องมือเล่นเกมใดๆ ในท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างนายกฯ กับผู้นำตำรวจ!
ยิ่งเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่นายกฯ ยังแก้ไม่ตกกับเสียงต่อต้านในก.ต.ช.
จึงช่วยไม่ได้ที่จะเกิดข้อสงสัยว่า การเร่งสอบ 18 ล้าน จะนำไปสู่ปฏิบัติการลดเสียงในก.ต.ช.ลง หรือไม่!?
เพราะฉะนั้นกรรมการสอบสวน จึงต้องเที่ยงธรรม เดินตามขั้นตอน
ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาปุ๊บก็ย้ายเขาปั๊บ
ที่สำคัญ เมื่อเทียบกับการร้องทุจริตอื่นๆ ต่างกันมาก
แค่วงเงินก็เห็นได้ชัด 18 ล้าน มิใช่พันล้าน หมื่นล้าน!?
แล้วข้อร้องทุกข์ของพล.ต.ท.บุญเรือง ก็ควรนำเข้าพิจารณาร่วม
โดยเฉพาะการชี้จุดเริ่มต้นจากบัตรสนเท่ห์ซึ่งไม่มีที่มา ไม่ปรากฏตัวตน ซึ่งมีกฎก.ตร.ชี้ประเด็นนี้ไว้ ป้องกันการกลั่นแกล้ง
แถมอาจพิสูจน์ตัวอักษรทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าเครื่องที่ใช้พิมพ์บัตรสนเท่ห์มาจากสำนักงานไหน
ขณะที่เหตุการณ์เกิดเมื่อก.ย.48 แต่มาร้องเรียน พ.ย.50 ช่วงเวลาผิดปกติ
ทั้งการอนุมัติจัดจ้างพิเศษวงเงิน 18 ล้านบาทดังกล่าว เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ทุกประการและอีกหลายๆ ประเด็นที่น่าคิด
เอาเป็นว่าตั้งธงทอง ต้องไม่มีธงล่วงหน้า!