ที่มา บางกอกทูเดย์
สำหรับชีวิตของคนๆ หนึ่ง..เกือบ 800 ปี..อาจจะยาวนานจนเกินกว่าจะให้ความสนใจ..แต่สำหรับประเทศประเทศหนึ่งแล้ว..เวลา 800 ปีสะสมเรื่องราวไว้มากมาย..และหากนำไปเทียบเปรียบกับชีวิตของโลกแล้ว มันเป็นแค่เสี้ยวเศษของวินาที800 ปีแห่งความเป็นชาติ..ที่พวกเราคนไทยสามารถถอยกลับไปหาวันวาน..มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้น..ที่ประเทศนี้และเผ่าพันธุ์นี้เสี่ยงต่อการสิ้นสูญ..ครั้งแรกเมื่อปี 2112 และครั้งที่ 2 คือปี 2310แผ่นดินถูกทำลาย ชนชาติไทยกลายเป็นทาสของชาติผู้ชนะ..ยิ่งการพ่ายแพ้ครั้งหลัง..แผ่นดินพังย่อยยับ วัดวาอารามและราชวังกลายเป็นเถ้าถ่าน..ชาติผู้ชนะ..คือ ชาวพม่า..ในสงครามที่รบพุ่งติดพันกันมาอย่างยาวนานนั้น..แพ้ชนะระหว่างคน 2 เผ่าพันธุ์..สลับกันไปมา..คราครั้งที่ไทยมีสามัคคีแน่นหนา..ได้ผู้นำที่เก่งกล้าไม่อ่อนแอ..พม่ายังต้องเผาเมืองทิ้งหนีกองทัพไทย..หายนะของแผ่นดิน..จึงไม่ใช่ที่คนไทยไม่กล้าหรือทหารไทยสู้ไม่ไหว..หายนะทั้ง 2 ครั้ง 2 ครา..เป็นหายนะอันเนื่องมาจากการแตกสามัคคี..ระหว่างคนไทยกับคนไทย..หายนะที่ถูกบันทึกไว้..ทุกครั้งที่บ้านเมืองมีอาเพศมีเหตุวิปริต..อุบัติขึ้น..นานไปจากนั้นวันแห่งหายนะจึงมาถึง..กรุงศรีอยุธยา..แหลกเหลวผุพังจากข้างใน..เผ่าพันธุ์ข้าศึกเพียงแต่อาศัยความอ่อนแอของไทยเข้ามาปล้นบ้านเผาเมืองเพราะชนชั้นนำ..เอาแต่ประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง..ความยุติธรรมจึงเสื่อมสลาย..จัญไรชนเติบใหญ่ ผู้รักใคร่ในชาติถูกใส่ร้ายกลายเป็นจำเลยเสียหัว..ประชาชนประชาราษฎร์..กระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความยากไร้..หดหู่อยู่กับปัจจุบัน และไม่เห็นแสงสว่างแห่งอนาคต..สังคมมากมายไปด้วยความสับสน..หายนะทั้ง 2 ครา..ต่างเวลากัน 200 ปี..วันสิ้นสุดอยุธยาราชธานี..ถึงวันนี้ 200 ปีเพิ่งผ่านไป..แต่อาถรรพณ์แห่งอดีตยังดำรงอยู่..ประชาชนกับประชาชนใส่เสื้อต่างสีคิดต่างกัน..หลายศพสูญสิ้นทุกแผ่นดินปริแยก..หลายๆ คนเสียอวัยวะให้กับความแปลกแยก..ข้าราชการเสียขวัญ..ขุนทหารถูกกล่าวหา..ฯลฯณ บัดนี้..สถาบันการเงินหลากหลายกลายเป็นเนื้อนาของคนต่างชาติ..โรงงาน ร้านค้า.. ■