ที่มา ข่าวสด
ไม่ว่าจะใช้คำว่า กำจัด ไม่ว่าจะใช้คำว่า ขจัด ต่อกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องยอมรับว่ามิได้เป็นเรื่องใหม่
เก่ามาก เก่าอย่างยิ่ง
หากถือจากการอุบัติขึ้นของ กลุ่ม 23 ส.ส.พรรคพลังธรรมเป็นจุดเริ่มต้น ก็เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อปี 2538 มาแล้ว
พลันที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เช่นเดียวกับ หากถือจากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อเดือนธันวาคม 2543 ว่าจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
มีความผิดตามมาตรา 295 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540
ก็ถือได้ว่าเป็นความระทึกใจก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 6 มกราคม 2544 เพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์
เห็นหรือยังว่าความพยายามกำจัดและขจัด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้นนานมาแล้ว
......................
กระนั้น ความหมายที่เข้มข้นเป็นอย่างยิ่งทั้งในการกำจัดและขจัด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น่าจะถือเอารัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นเส้นแบ่ง
เพราะว่าเหตุการณ์เมื่อปี 2538 ไม่สามารถกำจัดและขจัดได้
ถึงจะมีการจัดตั้งกลุ่ม 23 ส.ส.พรรคพลังธรรมอึกทึกครึกโครมเพียงใด แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เพราะว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อเดือนธันวาคม 2543 ไม่สามารถกำจัดและขจัดได้ เพราะว่าผลการเลือกตั้งทั่วเดือนมกราคม 2544 ไม่เพียงแต่พรรคไทยรักไทยจะกำชัยอย่างถล่มทลาย
หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ยิ่งกว่านั้น เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลงมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 7 สวนกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช.
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นดั่งพยัคฆ์เสียบปีก
...............
ต่อเมื่อมีการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้นหรอกที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างฉับพลันทันใด
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ก็เป็นของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
จากนั้น การไล่ล่าเพื่อขจัดอิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการคตส.มาตรวจสอบการทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะตุลาการรัฐธรรมนูญมายังพรรคไทยรักไทยในเดือนพฤษภาคม 2550
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550
กระทั่ง เกิดการแยกตัวของอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยออกไปเป็นหลายพรรค
กระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกฟ้องร้องในคดีซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกและถูกพิพากษาให้มีความผิดต้องจำคุก 2 ปี
กระนั้น แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกกำจัดแน่ๆ แต่ก็ยังมิอาจ "ขจัด" ลงได้
.........................
หาก "ขจัด" ลงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือลับมากด่วนที่สุด ที่ กต 1302/2318 ออกมา
เพราะการมีหนังสือลับมากด่วนที่สุด ที่ กต 1302/2318 คือ การยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมว่าอำนาจและอิทธิพลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังดำรงอยู่อย่างเข้มข้นและเป็นจริง
เป็นจริงในระดับที่ถือว่าเป็น "ภัยหลัก" ของประเทศ