WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, December 28, 2009

จับอาวุธล็อตใหญ่ปีใหม่ไม่สุดเหวี่ยง

ที่มา โลกวันนี้


คอลัมน์
เป็นประชารัฐ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2703 ประจำวัน จันทร์ ที่ 28 ธันวาคม 2009
โดย ลอย ลมบน

ดูเหมือนว่าตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คนไทยจะฉลองปีใหม่กันได้ไม่สุดเหวี่ยง เพราะมีเรื่องให้ต้องคอยวิตกกังวลกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย

มีข่าวให้น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคำเตือนว่าจะมีบึ้มที่นั่น ปังที่นี่

จำได้ว่าหลังปฏิวัติปี 2549 คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2550 ก็เกิดระเบิดขึ้นหลายจุด นั่นขนาดประเทศอยู่ในยุคทหารครองเมือง หันไปทางไหนก็มีทหารตั้งด่าน ถือปืน คอยตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยอยู่

หลังจากนั้นเป็นต้นมาคนไทยก็ไม่เคยสนุกสุดเหวี่ยงกับการฉลองปีใหม่อีกเลย

หน่วยข่าว นักวิเคราะห์ ทั้งที่น่าเชื่อถือและไม่น่าเชื่อถือ ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า เหตุระเบิดช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นฝีมือจากกลุ่มที่ขัดแย้งกันทางการเมือง

บ้างก็มองว่าเป็นฝีมือของพวกมือที่สามที่จ้องป่วน เสี้ยมให้ความขัดแย้งขยายวงรุนแรงมากขึ้น และที่ลืมไม่ได้เลยคือกลุ่มไม่เอาทักษิณจะต้องโยนขี้ไปให้อดีตนายกฯว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบึ้มป่วนเมือง จนต้องออกมาแก้ข่าวกันให้วุ่นวาย

ตามทางข่าวก็พอจะเชื่อได้ว่าเหตุระเบิดป่วนเมืองนั้นเกิดมาจากความไม่ปรกติทางการเมืองที่มีมากกว่า 3 ปี และยังดำรงอยู่ ในปีใหม่ปีนี้จึงเป็นอีกปีหนึ่งที่คนไทย โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ฉลองกันไม่ได้สุดเหวี่ยง

นอกจากความไม่ปรกติทางการเมืองที่ต่างฝ่ายต่างจ้องเล่นกันอยู่ และมีมือที่สาม มือที่สี่คอยจ้องผสมโรงอยู่ด้วยแล้ว ปีใหม่ปีนี้รัฐบาลไทยยังเพิ่มเงื่อนไขให้น่าสะพรึงกลัวมากขึ้นไปอีกด้วยการไปจับอาวุธล็อตใหญ่ของกลุ่มก่อการร้าย

จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามลดเงื่อนไขตรงนี้ด้วยการพูดถึงเรื่องการจับอาวุธล็อตใหญ่ที่ว่านั้นน้อยลง ต่างจากวันแรกๆของการตรวจยึด ทั้งคนเกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวข้องเรียงหน้าสลอนกันออกมาพูด

ประมาณว่าดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เพราะถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงระดับโลกที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา

แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ทั้งคนเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องต่างเริ่มถอยฉากจากผลงานชิ้นโบแดงระดับโลกนี้ เพราะเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันอาจได้ไม่คุ้มเสีย

เพราะงานนี้ไทยได้แค่ “หน้า” เพียงอย่างเดียวแต่ไม่ได้อย่างอื่นเลย แถม “หน้า” ที่ได้มานั้นอาจไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะเกิดความสูญเสียขึ้นในอนาคต

ที่จีบปากจีบคอพูดกันตั้งแต่วันแรกที่ตรวจยึดอาวุธว่าขอเวลาวันสองวันทุกอย่างจะชัดเจน แต่วันนี้ผ่านมาหลายชั่วคืนแล้วเรื่องกลับเงียบสนิทลงไปเรื่อยๆ

เท่าที่จับกระแสมาได้ ที่เรื่องเงียบไปก็เพราะว่า 1.รัฐบาลเริ่มตระหนักถึงการนำชาติไปสู่ความเสี่ยง 2.ยังไม่รู้จะเอาอย่างไรกับอาวุธที่ยึดมาได้ เรื่องมติยูเอ็นที่อ้างกันในตอนแรกนั้นก็ทำท่าว่าจะไม่ชัดเจนเสียแล้ว

ยิ่งเกิดกรณีสมาชิกก่อการร้ายเตรียมบึ้มเครื่องบินของสหรัฐเมื่อสองสามวันมานี้ยิ่งน่าเป็นห่วงประเทศไทย เพราะศักยภาพในการป้องกันตัวของไทยต่างจากสหรัฐอยู่หลายขุม

ก็ได้แต่ภาวนาว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองจะช่วยปัดเป่าให้คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของพี่น้องคนไทยผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...สาธุ